สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 1392

“เจ้าเป็นใคร”

อินชิงเสวียนขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกเหมือนเคยเห็นดวงตาคู่นี้มาก่อน แต่ก็นึกไม่ออก

คนผู้นั้นจ้องมองนางเงียบๆ ดวงตาสงบเยือกเย็น ไม่แสดงความอาฆาตพยาบาทหรือความอบอุ่นใดๆ

ไร้รูปร่างราวกับน้ำอย่างแท้จริง ทำให้ผู้คนแยกแยะความคิดที่แท้จริงของเขาได้ยาก

เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้พูด อินชิงเสวียนจึงถามอีกครั้ง “เจ้ามาที่อิ๋นเฉิงด้วยจุดประสงค์ใด หากไม่พูด จะถือเป็นคนทรยศ”

นางค่อยๆ ยกมือขวาขึ้น แสงสีม่วงก็เปล่งแสงเรืองรองออกมาจากฝ่ามือของนาง

จู่ๆ คนผู้นั้นก็ก้าวขึ้นมาข้างหน้าอีกก้าว

“เจ้าอยากรู้งั้นหรือ ข้าบอกเจ้าก็ได้”

อินชิงเสวียนรู้สึกว่าดวงตาไหววูบ จากนั้นก็รู้สึกแน่นลำคอ และถูกพาขึ้นไปบนท้องฟ้า

มันเร็วเกินไป ด้วยความสามารถในปัจจุบันของนาง กลับไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนว่าคนชุดดำมาอยู่ข้างหลังนางได้อย่างไร ในใจอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเยียบเย็นจับขั้วหัวใจ

คนผู้นี้คือใครกันแน่ บุคคลที่มีชื่อเสียงในยุทธจักร นางก็พอจะรู้จักเป็นส่วนใหญ่ แต่ไม่เคยรู้มาก่อนว่านอกจากอิ๋นเฉิงและตำหนักเทพแล้ว จะยังมีคนที่มีการบำเพ็ญตบะในระดับสูงเช่นนี้

ไม่สิ สิ่งนี้ไม่สามารถเรียกว่ามนุษย์ได้

เพราะจนถึงตอนนี้ นางยังไม่รู้สึกถึงความอาฆาตพยาบาทและเจตนาฆ่าของอีกฝ่าย

คนแบบไหนกัน ถึงสามารถซ่อนความคิดของตัวเองได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยไม่เปิดเผยออกมาแม้แต่น้อย

อินชิงเสวียนนึกถึงใบมีดทะมึนแห่งมิติ ยังนึกถึงทักษะห้าสิบห้าสิบ อย่างไรก็ตาม นางถูกควบคุมลำคอไว้ จึงไม่สามารถใช้กระบวนท่าเหล่านี้ได้เลย

ดูเหมือนว่าคนผู้นั้นจะอ่านความคิดของนางได้ กล่าวอย่างใจเย็น “อย่าดิ้นรน ไม่อย่างนั้นเจ้าอาจตายจริงๆ ข้าแค่อยากให้เจ้าได้เห็นเรื่องสนุกๆ”

อินชิงเสวียนบังคับตัวเองให้สงบสติอารมณ์

“เจ้าเป็นใครกันแน่ เจ้าจะทำอะไร ที่นี่คือเพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิง ยอกฝีมือชาวยุทธ์ทั้งหมดมารวมตัวกันที่นี่ หากกล้าโจมตีข้า เจ้าอย่าหวังว่าจะสามารถหลบหนีออกไปได้”

“แล้วถ้าล้มเหลว จะเป็นอย่างไร คนเหล่านี้ที่มีชีวิตที่มั่นคง หรือแม้แต่เสาหลักของบ้านเมือง กลับต้องมาตายที่เทือกเขาเชื่อมเมฆาเหมือนแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ เนื่องจากความเห็นแก่ตัวของพวกเจ้าเอง เพียงเพื่อความฝันอันลวงตาของตัวเอง มันคุ้มค่าจริงๆ หรือ”

“แน่นอนว่าการสละชีวิตและเลือดเนื้อเพื่อแว่นแคว้น คือภารกิจในชีวิตของพวกเขา”

อารมณ์ของคนในชุดดำมีความสงบราบคาบตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่จองหองหรือมุทะลุ ไม่โกรธหรือโมโห ด้วยเหตุนี้ อินชิงเสวียนจึงรู้สึกกลัวอย่างยิ่ง

ในใจของคนมีความโลภชัดเจน แต่ไม่แสดงมันออกมาเลย หากเขาซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางฝูงชน แม้แต่ผู้มีประสบการณ์เช่นเจ้าสำนักเซี่ยว ก็อาจไม่สามารถตรวจจับได้

นางอยากจะฉีกผ้าคลุมหน้าออกจริงๆ แล้วดูว่ามีใบหน้าแบบไหนอยู่ภายในนั้น แต่ในตอนนี้นางไม่กล้าขยับเลยจริงๆ ตราบใดที่นางมีความคิดแม้แต่น้อย อีกฝ่ายก็จะชิงลงมือก่อนอย่างแน่นอน

ตอนนี้สิ่งที่อินชิงเสวียนทำได้คือถ่วงเวลาให้มากที่สุด และเบนความสนใจของอีกฝ่าย ตราบใดที่หลุดพ้นจากการควบคุมของเขาได้ นางก็จะมีโอกาสฆ่าเขาได้อย่างแน่นอน

“เจ้าไม่ใช่ราชาแคว้น มีสิทธิ์อะไรมาตัดสินชีวิตและความตายของพวกเขา”

“อีกไม่นานข้าก็จะเป็นแล้ว”

ทันทีที่คนชุดดำพูดจบ ร่างหลายร้อยร่างก็ปรากฏเด่นขึ้นในเมืองเพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์