“ได้ เช่นนั้นข้าจะทำนายดูอีกครั้ง”
นักพรตเทียนชิงหยิบเหรียญอีแปะและกระดองเต่าออกมา เขย่าหกครั้ง ค่อยๆ จัดเรียงเหรียญทีละเหรียญ เขามองดูพวกมันอยู่ครู่หนึ่ง ลูบหนวดเคราแล้วพูดว่า “ภาพทำนายไม่เปลี่ยนไปจากเดิมเลย คุณชายน้อยเย่...”
“เป็นอย่างไรบ้าง เขากลับมาไม่ได้กระนั้นหรือ”
อินชิงเสวียนถามด้วยความประหลาดใจ
“พูดยาก ทุกสิ่งในตัวเขาไม่แน่นอนมาก ดอกไม้ไม่ใช่ดอกไม้ หมอกก็ไม่ใช่หมอก เหมือนมองดอกไม้ในสายหมอก ยากที่จะเห็นภาพที่แท้จริง ข้าไม่เคยเห็นภาพทำนายเช่นนี้มาก่อน”
นักพรตเทียนชิงมองดูเหรียญอีแปะด้วยสีหน้าประหลาดใจมาก
อินชิงเสวียนถอนหายใจ
“เอาเถอะ ถ้าเขาสามารถกลับไปยังที่ที่เขาอยู่ได้จริงๆ ก็คงจะดี”
เดิมทีเย่จิ่งหลานไม่มีความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของยุคนี้มากนัก แทนที่จะเป็นแบบนี้ ไม่สู้ปล่อยให้เขาไปในที่ที่เขาต้องการไปดีกว่า
เขาเป็นคนดี ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหนก็สามารถสร้างประโยชน์ และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนได้
นักพรตเทียนชิงไม่ได้พูด บรรยากาศอึมครึมอยู่พักหนึ่ง
อินชิงเสวียนรู้สึกเศร้า จากนั้นทำตัวให้กระปรี้กระเปร่าขึ้นมาและถามว่า “ท่านนักพรตสามารถทำนายได้หรือไม่ว่าชิงฮุยอยู่ที่ไหน”
นักพรตเทียนชิงกล่าวว่า “เขายังคงอยู่ท่ามกลางภูเขา ดูเหมือนว่าจะซ่อนตัวอยู่”
“เขาจะซุ่มซ่อนอยู่ตลอดไม่ยอมออกมาเช่นนั้นหรือ”
คนจำนวนมากที่รั้งรออยู่ในอิ๋นเฉิง ก็เพื่อจัดการกับเขา ตอนนี้หลายสำนักถูกทำลาย ดูเผินๆ เจ้าสำนักหลักอาจไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจกลับเป็นกังวลมาก
ยิ่งการต่อสู้ยืดเยื้อนานเท่าใด ฝ่ายเราก็จะเสียเปรียบมากขึ้นเท่านั้น จะต้องหาทางล่อชิงฮุยออกมา และกำจัดทั้งหมดให้หมดสิ้นในครั้งเดียว
เพียงแต่ อะไรที่สามารถล่อเขาออกมาได้
ที่สามารถอดทนมาได้หลายปีขนาดนี้ เขาต้องเป็นคนฉลาดมาก แม้ว่าเย่จิ่งอวี้จะบอกเขาว่าตัวเองเต็มใจที่จะมอบตราหยกให้ แต่เขาก็คงไม่เชื่อ
นักพรตเทียนชิงพยักหน้าและกล่าวว่า “ใช่แล้ว เป็นศิลาตอบสวรรค์จริงๆ ข้าสงสัยมาโดยตลอดว่าทำไมชิงฮุยถึงสามารถอดทนในแดนศักดิ์สิทธิ์ได้นานขนาดนี้ จนกระทั่งสองวันนี้ ในที่สุดข้าก็คิดได้ เหตุผลที่เขาเปลี่ยนแปลงตัวเองอยู่ตลอดเวลา และไม่ได้ออกไปจากแดนศักดิ์สิทธิ์เลยตลอดหลายปีที่ผ่านมา ก็เพราะศิลาตอบสวรรค์เท่านั้น”
อินชิงเสวียนไม่เข้าใจ
“ศิลาตอบสวรรค์เป็นสิ่งที่อยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์ เขาซุ่มซ่อนอยู่ที่นั่นมานานขนาดนี้ จะไม่สามารถขโมยไปได้กระนั้นหรือ เขาก็ติดตามผู้อาวุโสออกจากเขามาแล้วนี่นา?”
นักพรตเทียนชิงกล่าวอย่างไม่รีบร้อนไม่ล่าช้า “ศิลาตอบสวรรค์มิใช่สิ่งที่มนุษย์ธรรมดาจะสามารถเคลื่อนย้ายได้ แม้จะเป็นเทพเซียน แต่ก็ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้”
“แล้ว...เขาควรจะเฝ้าอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์ถึงจะถูกสิ?”
“ไม่ จากมาเขาถึงจะมีโอกาสมากกว่า เหตุผลที่เขาต้องการติดตามข้าออกมาฝึกตน ก็เพราะเขาต้องสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของชาดแห่งบาป”
อินชิงเสวียนเข้าใจทันที
“เขาต้องการให้คนที่มีชาดแห่งบาปล่อศิลาตอบสวรรค์ออกมาจากแดนศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นก็ชิงเอาไป แต่ไม่ทราบว่าด้วยเหตุผลใด จู่ๆ เย่จิ่งหลานก็หายตัวไป ดังนั้น หากต้องการล่อชิงฮุยออกมา ก็ต้องตามหาเย่จิ่งหลานให้พบก่อน เพื่อให้เขาล่อศิลาตอบสวรรค์ออกมา?”
นักพรตเทียนชิงพยักหน้า “แม่นางอินฉลาดจริงๆ นั่นแหละคือเหตุผล”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...