“แต่ตอนนี้เราไม่ยังตามหาตัวเย่จิ่งหลานไม่พบ ยังมีวิธีอื่นใดที่จะสามารถล่อให้ศิลาตอบสวรรค์ปรากฏตัวได้หรือไม่”
อินชิงเสวียนลูบคาง ปัญหาดูเหมือนจะกลับมาที่จุดเดิม
นักพรตเทียนชิงกล่าวว่า “ไม่มี ศิลาตอบสวรรค์จะลงโทษคนที่ชั่วร้ายอย่างยิ่งเท่านั้น ไม่เช่นนั้นก็ไม่มีทางออกจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์”
ลั่วสุ่ยชิงก็ขมวดคิ้วเช่นกัน
“นี่เป็นปัญหาที่แก้ไขยากจริงๆ”
อินชิงเสวียนถามอย่างสงสัย “ศิลาตอบสวรรค์จะมีประโยชน์อะไรกับชิงฮุย”
ลั่วสุ่ยชิงกล่าวว่า “เขาต้องการเป็นเซียน”
“อ๋า?”
อินชิงเสวียนมองไปที่ลั่วสุ่ยชิงด้วยความประหลาดใจ
ลั่วสุ่ยชิงพูดอย่างใจเย็น “ในแคว้นเฟยเหยา มีตำนานเล่าขานมาตลอด ตราบใดที่ได้รับศิลาตอบสวรรค์ ก็สามารถหลุดพ้นจากปัญจธาตุได้ สามารถข้ามผ่านวิบากกรรมและบรรลุขั้นสูงสุด บรรลุเป็นเซียน เสด็จพ่อของข้ามีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้า ตามหาที่อยู่ของศิลาตอบสวรรค์มาโดยตลอด เมื่อแคว้นเฟยเหยาถูกบุกโจมตี เคยมีคนกระตุ้นศิลาตอบสวรรค์ แต่ถึงกระนั้น หินก้อนนั้นก็ยังคงหายไป พ่อของข้าติดตามกลิ่นอายนั้นไป จนพบแดนศักดิ์สิทธิ์ และได้สรุปว่าศิลาตอบสวรรค์อยู่ที่นั่น”
“ผู้ที่เป็นคนกระตุ้นคือใคร เป็นชิงฮุย?”
อินชิงเสวียนไม่ต้องการปล่อยเบาะแสใดๆ ให้หลุดรอดไปได้
นางจากเมืองหลวงมานานเกินไป ตอนนี้ราชสำนักก็ถูกทายาทชาวเฟยเหยาแทรกซึมเข้าไป แม้ว่าเย่จิ่งอวี้จะไม่พูดอะไร แต่อินชิงเสวียนก็มองออกได้ว่า เบื้องหลังการขมวดคิ้วของเขา ล้วนเต็มไปด้วยความกังวลและเป็นห่วง
“ไม่ใช่ ชิงฮุยในเวลานั้นยังไม่มีความสามารถพอ”
ลั่วสุ่ยชิงเม้มริมฝีปาก กดเสียงให้ต่ำลง
“ข้าสงสัยเรื่องชาดแห่งบาปมาโดยตลอด ถึงกับ...”
นางขมวดคิ้วและไม่พูดอะไรอีก
“เจ้าถึงกับสงสัยด้วยซ้ำ ว่าสงครามนั้นเกิดขึ้นโดยเจตนา?”
ลั่วสุ่ยชิงไม่ตอบ แต่บีบนิ้วแน่นโดยไม่รู้ตัว
นางคิดเช่นนี้จริงๆ
ในช่วงสองวันที่ผ่านมานางนึกถึงเหตุการณ์ในแคว้นเฟยเหยามาโดยตลอด ยิ่งนางคิดอย่างละเอียดมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งสงสัยมากขึ้นเท่านั้น
การกบฏเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในทุกราชวงศ์ ไม่ใช่เรื่องแปลก ในโลกนี้ผู้แข็งแกร่งมักจะเป็นราชาและผู้แพ้ก็คือโจร จะแปลกก็ตรงที่ ในความทรงจำของนาง ไม่มีกองทัพใหญ่บุกเข้ามาเลย ในฉากการต่อสู้กันของทั้งสองแคว้น มีราษฎรเสียชีวิตในการโจมตีเพียงครั้งเดียว
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าบางสิ่งจะยากเย็นเพียงใด ก็ควรไปเผชิญหน้ากับมัน การหลีกเลี่ยงก็ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา
นางคำนับนักพรตเทียนชิง
“ผู้เยาว์จะดูลั่วสุ่ยชิงหน่อย ขอตัวก่อนเจ้าค่ะ”
นักพรตเทียนชิงพยักหน้าและกล่าวว่า “ดีแล้ว นางคือทายาทที่แท้จริงของเฟยเหยา บางทีอาจได้รับผลประโยชน์ที่ไม่คาดคิด”
“เจ้าค่ะ”
อินชิงเสวียนกล่าวลาแล้วจากไป แต่ไม่รู้ว่าจะปริปากอย่างไรดี เมื่อเห็นเสี่ยวหนานเฟิงกำลังเล่นกับเด็กคนหนึ่งในอิ๋นเฉิงอยู่ ก็อุ้มลูกชายออกมาทันที ลั่วสุ่ยชิงดูเหมือนจะชอบเจ้าหมอนี่ ถ้ามีเขาอยู่ด้วยก็ทำให้เขาผ่อนคลายได้ในระดับหนึ่ง
“ท่านแม่ ข้าอยากจะเล่นกับพี่ชายน้อย”
เสี่ยวหนานเฟิงปั้นดินมาสองก้อนเต็มมือ กำลังเล่นอย่างสนุกมนาน จู่ๆ ก็ถูกแม่อุ้มออกมา ใบหน้าเล็กๆ จ้ำม่ำของเขาเต็มไปด้วยความคับข้องใจ
อินชิงเสวียนก้มศีรษะลงหอมแก้มลูกชาย
“ไว้ค่อยมาเล่นกันใหม่ ไปทำภารกิจกับแม่ก่อนนะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...