ชายคนนั้นหยิบกระดาษทิชชู่ออกจากกระเป๋า เช็ดนิ้วด้วยความรังเกียจ แล้วเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามอง
ซูเยี่ยนั่งบนพื้นร้องไห้เสียงดัง ความฝันที่จะแต่งเข้าไปอยู่ในครอบครัวที่ร่ำรวย ได้พังทลายอีกครั้ง
มือที่มีเห็นข้อต่อเด่นชัดยื่นออกไปต่อหน้าซูเยี่ย
ซูเยี่ยเงยหน้าขึ้น แล้วก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาราวกับดาราทันที
สิ่งที่ทำให้เธอตื่นเต้นยิ่งกว่านั้นคือ ชายคนนั้นสวมเสื้อผ้าแบรนด์ดัง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขามีฐานะที่ดี
หากสามารถเกาะเกี่ยวลูกเศรษฐีที่ทั้งหล่อทั้งรวยแบบนี้ได้ ถูกตบหน้าแค่ครั้งเดียวจะเป็นไรไป บางทีนี่อาจเป็นความยากลำบากทั้งหมดที่สวรรค์ส่งมาให้ ที่มาอยู่ที่นี่ ก็เพื่อให้ได้เจอกับคนที่ดีกว่า
เธอสูดจมูก จับมือนั้นไว้ เพิ่งยืนขึ้นมาได้ครึ่งตัว มือก็คลายออก
ซูเยี่ยเสียการทรงตัว และล้มลงกับพื้นอีกครั้ง
เธอมองเย่จิ่งหลานด้วยความประหลาดใจ ไม่เข้าใจว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
เย่จิ่งหลานยกมุมปากขึ้น คุกเข่าลงต่อหน้าเธอ ถามด้วยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “รู้สึกยังไงที่ถูกทิ้ง?”
“อะไรนะ...คุณหมายความว่ายังไง?”
ซูเยี่ยถามด้วยเสียงต่ำ ดวงตาสีแดงทั้งคู่ ทำให้เขาดูมีเสน่ห์มากกว่าเมื่อก่อน
นี่ไม่ใช่ฉากที่ประธานผู้ครอบงำตกหลุมรักหรอกเหรอ ซินเดอเรลล่าได้รับบาดเจ็บ ถูกลูกคนรวยพูดจาจิกกัด จากนั้นก็เกิดความสงสาร และพาเธอไป
“ก็หมายความตามนั้น”
เย่จิ่งหลานหยุดครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ฉันคิดว่าผู้ชายคนนั้นพูดถูก เธอมันแพศยาจริงๆ”
ใบหน้าของซูเยี่ยเปลี่ยนไปเล็กน้อย
ถ้าอีกฝ่ายไม่ได้ใส่ชุดแบรนด์เนม เธอคงกระโดดตบเขาแรงๆ แต่ตอนนี้ เธอแค่อยากจะจับปลาใหญ่อีกตัวเพื่อตัวเอง
“คุณเข้าใจผิดแล้ว ฉันไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้น เขาหลอกฉัน เขาบอกว่าจะแต่งงานกับฉัน แต่เมื่อวานบอกฉันว่าเขามีคู่หมั้นแล้ว ฮือๆๆๆ...”
ซูเยี่ยยกมือขึ้นปิดหน้า แต่กลับแอบมองเย่จิ่งหลานผ่านซอกนิ้ว
ช่างเป็นใบหน้าที่หล่อเหลา ผิวขาวมาก ถ้าไม่ใช่คุณชายที่ถูกเลี้ยงดูอย่างเอาอกเอาใจ จะมีพื้นฐานที่ดีเช่นนี้ได้อย่างไร
เมื่อเห็นซูเยี่ยทำท่าอ่อนแอน่าสงสาร เย่จิ่งหลานก็รู้สึกมวนท้อง เขาบีบคางแล้วพูดว่า “โอ้? ที่แท้เขาผิดต่อคุณ ช่างน่าสงสารจริงๆ”
“ใช่แล้ว เท้าของฉัน...มันเคล็ด คุณช่วยพยุงฉันลุกขึ้นได้ไหม”
ซูเยี่ยถามอย่างสำออย
เย่จิ่งหลานตอบโดยไม่แม้แต่จะคิด
“ไม่ได้”
ซูเยี่ยก้มศีรษะลง พูดถึงข้อดีของตัวเอง
และในขณะนี้ ในที่สุดเย่จิ่งหลานก็มองเห็นได้ชัดเจน ว่าเธอเป็นผู้หญิงแบบไหน
“เป็นคำอธิบายที่ดีมาก ให้รางวัลเธอห้าล้าน!”
เขาง้างมือตบ ซูเยี่ยกระแทกห่างออกไปมากกว่าสองเมตร แก้มขวาบวมแดงอย่างรวดเร็ว ฟันข้างหนึ่งก็หลุดออกมา
เย่จิ่งหลานเดินเข้าไปหาเธอ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “อยากรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?”
เขาประสานมือกัน ทำเป็นรูปมือเงาเสือ
“น่าเสียดายที่เขาตาบอด ทุ่มเทให้กับเธอมากมาย เธอเป็นคนโลเลใจง่าย ไม่สมควรได้รับความสุขเลย กฎแห่งกรรม ไม่ช้าก็เร็ว เธอก็จะต้องได้รับผลกรรมของเธอ”
ตั้งแต่ต้นจนจบ เย่จิ่งหลานมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าเสมอ
ในที่สุดความไม่เต็มใจและความรำคาญที่ฝังแน่นมานานหลายปี ก็ถูกปลดปล่อยออกมาในเวลานี้
เขาลุกขึ้นและจากไปโดยไม่หันกลับมามอง
เมื่อมองดูแผ่นหลังของเขา ซูเยี่ยก็ประหลาดใจเล็กน้อย
หรือว่าเขาก็คือหมอยากจนที่ไม่มีแม้แต่เงินซื้อตั๋วหนังคนนั้น?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...