นอกห้วงทะเลแห่งจิต อินชิงเสวียนมองไปยังลิ่นเซียวที่ประทับฝ่ามืออยู่บนหลังของเย่จิ่งหลานอย่างประหม่า
“อาจารย์ ท่านสัมผัสถึงแก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลานได้แล้วหรือยัง ตอนนี้เขาเป็นอย่างไรบ้าง”
“คงจะสำเร็จแล้ว”
ลิ่นเซียวถอนมือออก และแน่นอนว่าเพียงครู่หนึ่ง เย่จิ่งอวี้และคนอื่นๆ ก็รู้สึกตัวขึ้นมาพร้อมกัน
“ชิงเสวียน ผู้อาวุโสลิ่น นี่คือ...”
“ศิษย์น้อง ทำไมเจ้าถึงมาที่นี่”
เฮ่ออวิ๋นทงก็ดูประหลาดใจเช่นกัน
“ทำไมพวกเจ้าถึงมาที่นี่กันหมดล่ะ เกิดอะไรขึ้น”
ทุกคนสูญเสียความทรงจำในช่วงเวลานั้นไป ต่างเพ่งมองไปยังอินชิงเสวียน
“ผู้อาวุโสทุกท่านตกอยู่ภายใต้อาคมของชิงฮุย...”
อินชิงเสวียนเล่าสั้นๆ อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ทุกคนตกใจเมื่อรู้ว่าชิงฮุยได้ช่วงงชิงร่างของลั่วสุ่ยชิงไป
เมื่อได้ยินว่าเย่จิ่งหลานกลับมาที่เพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิงแล้ว และแก่นวิญญาณก็อยู่ในห้วงทะเลแห่งจิตของลั่วสุ่ยชิง ทุกคนก็เป็นกังวลอีกครั้ง
ทุกคนเบิกตากว้าง มองไปยังเย่จิ่งหลานและลั่วสุ่ยชิงที่กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้น ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นข้างใน
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม ในที่สุดลั่วสุ่ยชิงก็ลืมตาขึ้น ดวงตาหรี่ลง
“อินชิงเสวียน แก่นวิญญาณของชิงฮุยสลายไปแล้ว เจ้าไม่ต้องกังวลว่าเขาจะทำร้ายผู้อื่นอีกต่อไป”
อินชิงเสวียนก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ช่วยประคองลั่วสุ่ยชิงขึ้นมา
ถามด้วยความเป็นห่วง “เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง จิ่งหลานล่ะ?”
“เขาปลอดภัย อีกไม่นานก็จะรู้สึกตัว”
หลังจากที่ลั่วสุ่ยชิงพูดจบ ก็หยิบป้ายตราคำสั่งที่แกะสลักจากเหล็กสีดำออกมาจากอกเสื้อ
พูดด้วยเสียงสะอื้น “นี่คือตราคำสั่งราชาสูงสุดของเฟยเยา ด้วยตราคำสั่งนี้จะสามารถสั่งลูกหลานชาวเฟยเยาทุกคนได้ ข้ามอบมันให้กับเจ้า หวังว่าเจ้าจะดีต่อราษฎรของข้า”
“แล้วเจ้า...”
อินชิงเสวียนมองไปที่ลั่วสุ่ยชิง นางสังหรณ์ใจว่า ลั่วสุ่ยชิงคงจะจากไปแล้ว
“ข้าอยากกลับไปดูที่สถานที่เก่าๆ ของเฟยเหยา เจ้ากับข้าคงไม่ได้เจอกันอีก!”
ลั่วสุ่ยชิงประกบมือคารวะ จากนั้นก็กระโดดออกไป
ทุกคนที่อยู่ที่นั่งต่างเห็นเช่นกัน อดไม่ได้ที่จะจุ๊ปากด้วยความประหลาดใจ
“มีเมฆที่เปล่งแสงสีทองจริงๆ หรือนี่”
“นี่น่าจะเป็นเมฆมงคลกระมัง”
“ไม่ใช่ เมฆมงคลควรจะมีสีรุ้ง แต่เมฆก้อนนี้สีดำสนิท”
“หรือว่าความขุ่นแค้นของชิงฮุยยังไม่สลายไป กลับมาอีกครั้ง”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ลิ่นเซียวก็อดไม่ได้ที่จะเดือดดาล
“ไร้สาระ ข้าสัมผัสผ่านแก่นวิญญาณของเจ้าเด็กนี่แล้ว สัมผัสได้ว่าลมปราณของไอ้สารเลวนั่นสลายไปแล้ว ไม่มีทางที่จะมีชีวิตอยู่ได้อีก”
ไม่ไกลนัก สีหน้าของนักพรตเทียนชิงก็เปลี่ยนไปอย่างมาก
“เย่จิ่งหลาน เจ้ารีบซ่อนตัวเร็วเข้า นี่คือศิลาตอบสวรรค์!”
เมื่อได้ยินคำว่า “ศิลาตอบสวรรค์” เย่จิ่งหลานก็เงยหน้าขึ้น ไฝสีแดงที่หว่างคิ้วก็เริ่มมีเลือดออกในทันที
เมื่อเห็นว่าเมฆดำทะมึนกำลังจะลอยขึ้นมาเหนือหัวในไม่ช้า เย่จิ่งหลานก็กระโดดขึ้นจากพื้นดินเหมือนปลาคาร์พ ชี้ไปที่ท้องฟ้าและตะโกนสาปแช่ง “ข้าเสพสุขรับเกียรติยศและความมั่งคั่งทุกอย่างแล้ว ถึงตายก็ไม่เสียดาย ถ้าเจ้ามีความสามารถ ก็มาจัดการข้าเถอะ!”
ยังพูดไม่ทันขาดคำ สายฟ้าฟาดลงมาจากก้อนเมฆ เสียงดังเปรี้ยง สายฟ้าฟาดไปทางเย่จิ่งหลานแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...