“เสด็จอาไม่ต้องร้อนใจไป รองแม่ทัพหลิวเฉิงโจวและเสด็จอารบทัพจับศึกตั้งแต่เหนือยันใต้ เรื่องการป้องกันเมืองไม่เป็นปัญหา ถ้าเสด็จอายืนกรานที่จะไปให้ได้ ข้าก็ทำได้แค่ต้องไปส่งเสด็จอากลับด้วยตัวเอง”
ครั้นได้ยินคำพูดของเย่จิ่งอวี้ เย่จั้นก็ถอนหายใจ
“ขอบพระทัยฝ่าบาท”
เย่จิ่งอวี้ตบมือที่ซีดเซียวของเขาเบาๆ ยิ้มอย่างอบอุ่นแล้วพูดว่า “ท่านกับข้าเป็นอาหลาน ไม่จำเป็นต้องมากพิธี”
เมื่อเห็นว่าสองอาหลานสนิทสนมแน่นแฟ้นขนาดนี้ อินชิงเสวียนก็ไม่วายอิจฉา
ในใจยังคิดถึงตระกูลอินสองพ่อลูก ไม่รู้ว่าพวกเดินทางไปถึงที่ใดแล้ว
พวกเขากลับมาอยู่ได้เพียงระยะเวลาสั้นๆ นางไม่ทันมีเวลาได้ถามถึงเรื่องของอินหลีเลยด้วยซ้ำ
ในเวลาเดียวกัน จู่ๆ อินปู้อวี่ที่กำลังเดินทางอยู่ก็จามขึ้น
“สหายอิน เจ้าไม่สบายหรือเปล่า”
กวนเซี่ยวเดินม้ามาถาม
อินปู้อวี่ลูบจมูก แล้วพูดด้วยรอยยิ้มแฉ่งว่า “ไม่เป็นไร น้องหญิงใหญ่อาจกำลังคิดถึงข้า”
กวนเซี่ยวพูดติดตลก “ที่แท้ก็เป็นน้องสาวอินนี่เอง ข้าคิดว่าเจ้ากำลังพูดถึงสตรีผู้อื่นเสียอีก”
อินปู้อวี่ต่อยเขาเบาๆ กล่าวด้วยรอยยิ้มอย่างไม่คิดอะไรมาก “สตรีผู้ใดจะมาชอบข้า”
กวนเซี่ยวกอดอกมองดูเขา แล้วพูดว่า “สหายอินมีความสามารถมากเพียงนี้ จะไม่มีแม่นางที่ไหนมาชอบได้อย่างไร หากครั้งนี้สามารถกลับเมืองหลวงได้ ข้าจะแนะนำให้เจ้าสักหลายๆ คน”
นับตั้งแต่คลายปมในใจได้ กวนเซี่ยวก็ร่าเริงขึ้นไม่น้อย ไม่นานก็สามารถเข้ากันกับเหล่าทหารได้
อินปู้อวี่หัวเราะพูดว่า “ในเมื่อเจ้ารู้จักสตรีมากมาย เหตุใดจึงไม่เห็นหญิงงามของเจ้าเลย เจ้าคงเก็บคนดีๆ ไว้กับตัวอยู่แล้วกระมัง”
กวนเซี่ยวไอแห้งๆ “ที่ไหนกัน”
แต่ในใจกลับนึกถึงร่างงามในชุดดำ เหตุผลที่เขาเต็มใจติดตามตัวปลอมนั้น ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับสตรีผู้นั้นอยู่บ้าง
เพียงแต่ไม่รู้ว่านางอยู่ที่ใด การเดินทางไปเจียงวูในคราวนี้ ไม่รู้ว่าจะได้พบนางหรือไม่
ถ้าได้เจอเข้าจริงๆ ควรทำอย่างไรดี
เขาจะสามารถฆ่านางได้หรือไม่
หลังจากรู้ว่าอินชิงเสวียนถูกพาตัวมาถึงเจียงวูแล้ว จูอวี้เหยียนที่กำลังเอกเขนกอยู่บนเก้าอี้ตัวยาวก็ค่อยๆ หยัดกายลุกขึ้นนั่งอย่างเกียจคร้าน
“ได้ยินมาว่าอินชิงเสวียนเป็นหญิงงามอย่างหาที่เปรียบมิได้ ข้าจะไปดูเดี๋ยวนี้แหละ”
นางบิดเอวราวกับงูน้ำ มายังกระโจมของฟางรั่ว เมื่อนางเปิดประตูม่าน ใบหน้างามผุดผาดพลันปรากฏสู่สายตา
ขณะที่พิจารณาใบหน้าอันประณีตงดงามดวงนั้น จูอวี้เหยียนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกริษยา
หัวเราะแล้วพูดว่า “ใบหน้านี้ช่างงดงามจริงๆ ไม่น่าแปลกใจเลยที่ทำให้ท่านอ๋องหลงรักเจ้าได้”
นางเดินไปที่ข้างเตียง ยื่นมือออกยกคางของฟางรั่วขึ้น เปล่งเสียงจุ๊ๆ “คนในตระกูลอินมีรูปร่างหน้าตาดีกันจริงๆ”
ทันใดนั้นนางก็สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ การสัมผัสของนิ้วดูเหมือนจะแตกต่างจากผิวทั่วไป
บีบเนื้อแล้วฉีก หน้ากากก็ถูกดึงออกมาทันที
เมื่อเห็นฟางรั่ว สีหน้าของจูอวี้เหยียนก็เย็นชา ตบหน้าฉาดใหญ่
“ที่แท้ก็เป็นนังแพศยาเจ้านี่เอง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...