สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 502

หลี่เต๋อฝูรีบตอบรับ “กระหม่อมน้อมรับคำสั่ง จะไม่ยอมให้บุคคลภายนอกรบกวนฝ่าบาทในห้องหนังสืออีก”

เย่‍จิ่ง‍อวี้พยักหน้าแล้วสั่ง “พรุ่งนี้ให้ห้องครัวหลวงทำอาหารอร่อยๆ ข้าอยากจะกินข้าวเย็นกับเสวียน‍เอ๋อร์”

หลี่เต๋อฝูตอบด้วยใบหน้ามีความสุข “กระหม่อมทราบแล้ว จะจัดการกับเรื่องนี้อย่างดีแน่นอน”

จู่ๆ เย่‍จิ่ง‍อวี้ก็รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น

“ข้ายังไม่ง่วง ไปห้องหนังสือกันเถอะ ยังเหลือฎีกาอีกหลายฉบับ ข้าจะอ่านให้หมด”

“พ่ะย่ะค่ะ”

เมื่อเห็นว่าฝ่าบาทอารมณ์ดี สีหน้าของหลี่เต๋อฝูก็มีรอยยิ้ม

วันรุ่งขึ้น

อินชิงเสวียนตื่นมาล้างหน้าล้างตาแต่เช้าตรู่ จากนั้นก็รับประทานอาหารเช้าอย่างเร่งรีบ แล้วพา เสี่ยว‍หนาน‍เฟิงไปที่สำนักศึกษาหลวง

แม้ว่าปัญหาเรื่องพิษกู่จะต้องรีบจัดการ แต่สำนักศึกษาหลวงก็ไม่สามารถทิ้งไว้ได้ เหล่าบัณฑิตเฒ่าหลายคนกำลังทำงานกันอย่างหนัก วิชาเรียนจะต้องไม่ถูกขัดจังหวะในเวลานี้

เนื่องจากตัวเองต้องสวมชุดบุรุษออกมาข้างนอก จึงไม่สะดวกที่พาเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงไปด้วย อินชิงเสวียนจึงฝากลูกชายไว้ที่จวนแม่ทัพ มีเพียงฝากลูกไว้กับพ่อและพี่ชายเท่านั้น นางถึงจะสบายใจได้

เมื่ออินจื่อลั่วเห็นหลานชายมา นางก็ดีใจมาก รีบมารับรถเข็นเด็กทันที

“จ้าวเอ๋อร์เด็กดี น้าเล็กจะพาเจ้าไปดูผีเสื้อ”

ซูหมิงหลานรีบมาห้ามลูกสาว

“จื่อลั่วอย่ายุ่มย่าม เจ้าสะเพร่าไม่ระวัง ประเดี๋ยวจะทำองค์ชายน้อยร่วงเอา”

อินจื่อลั่วพูดด้วยสีหน้าน้อยใจ “ท่านแม่ ข้าจะระวังเจ้าค่ะ”

“ถึงกระนั้นก็ไม่ได้”

ซูหมิงหลานคว้ารถเข็นเด็กไป นี่เป็นทายาทเพียงคนเดียวของฝ่าบาท หากได้รับบาดเจ็บก็คงแย่

อินจื่อลั่วทำหน้ามุ่ย มองเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงอย่างเสียดาย นางชอบหลานชายตัวน้อยคนนี้มากจริงๆ

อินชิงเสวียนพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ให้จื่อลั่วเล่นกับจ้าวเอ๋อร์เถอะ จ้าวเอ๋อร์ก็ชอบ จื่อลั่วเช่นกัน”

อินปู้อวี่ที่อยู่ข้างๆ พูดว่า “ท่านแม่รองไม่ต้องห่วง มีข้าจะอยู่กับพวกเขาด้วย ไม่เป็นไรหรอก”

วันนี้อินจ้งไปประชุมเช้า ในบ้านจึงเหลือพวกเขาสามแม่ลูก

กวนเซี่ยวกางเสื้อคลุมออกและคุกเข่าลงบนพื้น

“กวนเซี่ยวถวายพระพรกุ้ยเฟย”

ตอนนี้อินชิงเสวียนกลายเป็นกุ้ยเฟยแล้ว กวนเซี่ยวย่อมไม่เรียกขานว่าน้องสาวอินอีกต่อไป

อินชิงเสวียนรีบลงจากหลังม้า ช่วยประคองเขาลุกขึ้น

กระซิบเบา “เหล่าใต้เท้าที่สำนักศึกษาหลวงไม่รู้จักตัวตนของข้า พี่ชายกวนโปรดอย่าคำนับข้าเลย เจ้าและข้าเป็นครอบครัวที่สนิทกัน มีอะไรจะพูดก็พูดมาเลย”

กวนเซี่ยวลุกขึ้นยืน ลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “พระสนมคงทราบว่าเจียงวูได้ถวายกลุ่มสาวใช้เข้ามารับใช้ในวัง ข้าอยากจะถามว่ามีสตรีชื่อฟางรั่วอยู่ด้วยหรือไม่”

อินชิงเสวียนขมวดคิ้วถามว่า “เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าฟางรั่วอยู่ในหมู่คนเหล่านี้”

กวนเซี่ยวเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า “ข้าเห็นว่าสาวใช้คนหนึ่งดูคล้ายกับฟางรั่วมาก”

ใบหน้าของอินชิงเสวียนมืดลง

“ในเมื่อพี่ชายกวนรู้แต่แรกแล้ว เหตุใดถึงไม่บอกท่านพ่อและพี่ชายของข้าก่อนหน้านี้ล่ะ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์