หลัวจากที่อาซือหลานไปแล้ว อูเอินก็จับไหล่ของน้องสาว และพูดด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง “เป่าเล่อเอ่อร์ อย่าไปฟังคำพูดไร้สาระของเขา และห้ามไปกับเขาโดยเด็ดขาด อาซือหลานมีนิสัยอย่างไร เจ้าและข้าต่างก็รู้ดี เจ้าห้ามเชื่อใจเขา”
เป่าเล่อเอ่อร์พยักหน้า พูดเสียงเบาว่า “พี่ใหญ่วางใจได้ ข้าไม่เชื่อเขาหรอก”
อูเอินลูบศีรษะของน้องสาวด้วยความรักและเอ็นดู จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า “เช่นนั้นก็ดี เจ้ารีบพักผ่อนเถอะ”
อาซือหลานยืนอยู่ไม่ไกลมากนัก เขาเอามือข้างหนึ่งไพล่หลัง และมืออีกข้างกำลังโบกพัดพับ ร่างกายที่สูงเพรียวประกอบกับใบหน้าที่หล่อเหลา ซึ่งสามารถทำให้ผู้หญิงใจสั่นได้จริงๆ
ไม่มีผู้หญิงคนใดในเจียงวูที่ไม่อยากแต่งงานกับอาซือหลาน
อูเอินกลับรู้แจ้งว่า นี่คืออสรพิษที่งดงามเพียงเปลือกนอก อีกทั้งยังเป็นประเภทที่ทั้งโลภทั้งโหดเหี้ยม
“เจ้ารอข้าอยู่งั้นหรือ?”
อูเอินชะงักฝีเท้าครู่หนึ่ง และเดินมายังด้านหน้าของอาซือหลาน
อาซือหลานอมยิ้มที่มุมปาก ไฝที่อยู่ใต้ตายิ่งเห็นเด่นชัดขึ้น
“เหตุใดจึงไม่ยอมให้เป่าเล่อเอ่อร์ไปกับข้า?”
อูเอินพูดด้วยใบหน้าเย็นชา “ข้ามีน้องสาวเพียงคนเดียว ข้าไม่ต้องการให้นางไปจากเจียงวู”
อาซือหลานถามกลับด้วยรอยยิ้มระรื่น
“ท่านอาจจะรั้งตัวนางไว้ได้ แต่ท่านรั้งหัวใจของนางได้งั้นหรือ?”
อูเอินพูดว่า “นี่เป็นเรื่องของข้า ไม่เกี่ยวข้องกับเจ้า”
อาซือหลานหุบพัดพับลง และพูดอย่างเชื่องช้าว่า “ท่านพูดผิดแล้วล่ะ เป่าเล่อเอ่อร์ก็เป็นน้องของข้าเช่นกัน ผู้เป็นพี่ชายอย่างข้า จะทนมองดอกไม้ที่งดงามต้องเหี่ยวเฉาไปได้อย่างไร ท่านไม่เจ็บใจ แต่ข้าเจ็บใจอย่างมาก”
อูเอินพูดอย่างไม่เกรงใจว่า “อย่าได้พูดจาสง่าผ่าเผยเช่นนี้เลย เจ้าเพียงต้องการหลอกใช้เป่าเล่อเอ่อร์เพื่อจัดการกับตระกูลอิน เจ้าและข้าล้วนเป็นบุรุษแห่งเจียงวู การใช้วิธีการคดเคี้ยวเช่นนี้ ไม่กลัวคนทั้งโลกหัวเราะเยาะเลยหรือ?”
อาซือหลานจิ๊ปาก
“ผู้ที่ใช้ชีวิตขี้ขลาดอย่างท่าน ยังไม่เคยกลัวการหัวเราะเยาะ เช่นนั้นข้าต้องกลัวสิ่งใด”
ไม่รอให้อูเอินได้พูดคำที่สองออกมา ลำคอของเขาก็ถูกบีบ อูเอินถึงขั้นได้ยินเสียงกระดูกคอที่ผิดตำแหน่งของตัวเอง
สิ่งที่น่ากลัวไปมากกว่านั้นก็คือ เมื่ออยู่ต่อหน้าอาซือหลานผู้ยิ่งใหญ่ เขาไม่กล้าแม้แต่จะเอาคืน
ใบหน้าของอาซือหลานยังคงแฝงด้วยรอยยิ้ม และน้ำเสียงกลับเยือกเย็นเข้ากระดูก ทำให้ผู้ที่ได้ยินต้องสะพรึงกลัว
“พี่ใหญ่ที่ดีของข้า ข้านำเป่าเล่อเอ่อร์ไปเมืองหลวงต้าโจวก็เพราะเป็นทางผ่านเท่านั้น หากไม่ช่เพราะจูอวี้เหยียนเกิดเรื่อง ข้าคงไม่รีบร้อนไปเช่นนี้หรอก อีกอย่าง ข้าต้องการให้ท่านรับรู้ไว้ว่า ตำแหน่งราชาเผ่าที่ท่านได้รับอยู่ตอนนี้ เป็นสิ่งที่ข้าให้ทานแก่ท่าน ในสายตาของข้า ท่านก็เป็นเพียงมดแมลงที่ทำตัวไม่ได้เรื่อง ข้าอยากจะบีบท่านให้ตายตอนไหนก็ย่อมได้”
ด้านในกระโจม เป่าเล่อเอ่อร์มองเห็นเหตุการณ์นี้ผ่านช่องม่านสักหลาด
เมื่อเห็นพี่ใหญ่ถูกกดขี่เช่นนี้ นางจึงกำชายเสื้ออย่างอดไม่ได้
นางเคยได้ยินผู้อื่นพูดว่า ตระกูลอินเก่งกาจมาก ขอเพียงตามหาอามู่เอ่อร์ให้พบ เขาต้องช่วยเหลือพี่ใหญ่อย่างแน่นอน
เมื่อเห็นว่าในกระโจมไม่มีคนแล้ว เป่าเล่อเอ่อร์ก็เขียนข้อความใส่กระดาษหนึ่งแผ่น แบกของที่เตรียมจัดเก็บไว้ จึงเดินทางออกจากเจียงวูยามค่ำคืน...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...