อินชิงเสวียนถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“ที่แท้มิติของเจ้าก็สามารถเข้าไปหลบซ่อนตัวได้ ดีจังเลย แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้น หวังซุ่นล่ะ”
เย่จิ่งหลานยืดตัวแล้วพูดว่า “ไม่ต้องห่วง ข้าช่วยชีวิตคนได้แล้ว ตอนนี้ยังอยู่ในห้องผ่าตัดข้า พักผ่อนไม่กี่วัน ก็สามารถกระโดดโลดเต้นได้สบายแล้ว”
เขามองไปยังศพที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้น แล้วส่ายศีรษะอย่างเศร้าๆ
“ข้าใช้เงินไปมากมายเพื่อซื้อสาวใช้และคนรับใช้เหล่านี้ ไม่คิดว่าจะถูกฆ่าทั้งหมด นักฆ่าเมื่อคืนนี้ช่างโหดเหี้ยมจริงๆ”
“ข้ายังพอมีเงินอยู่ เอาไปซื้อมาเพิ่มก็ได้ ส่วนเงินที่เหลือก็เอาไปช่วยเหลือครอบครัวพวกเขาเถอะ”
อินชิงเสวียนล้วงตั๋วเงินออกมายัดใส่มือของเย่จิ่งหลาน แล้วถามว่า “เจ้าเคยหน้าตาของนักฆ่าหรือไม่”
เย่จิ่งหลานเก็บตั๋วเงินเข้าอกเสื้ออย่างไม่เกรงใจ ส่ายศีรษะแล้วพูดว่า “ไม่เห็น พวกเขาปิดหน้าปิดตา หลักๆ น่าจะมาเพราะเรื่องของหวังซุ่นคนนี้ เป็นเจ้าที่สร้างปัญหาให้ข้าแล้ว”
อินชิงเสวียนไอแห้งๆ
“ไม่คิดว่าจะทำให้เจ้าลำบากขนาดนี้ ข้าจะให้สิ่งของกับเจ้าเพื่อเป็นการชดเชยก็แล้วกัน”
นางรู้จักเย่จิ่งหลานมานานแล้ว แต่ยังไม่เคยให้น้ำพุวิญญาณแก่เขา ไม่ใช่เพราะอินชิงเสวียนไม่เต็มใจให้ ของสิ่งนั้นมีอย่างเหลือเฟือ จึงไม่มีอะไรให้เสียดาย ก่อนหน้านี้นางกลัวว่าถ้าเย่จิ่งหลานรู้เรื่องน้ำพุวิญญาณแล้วจะเกิดความโลภ อาจก่อเรื่องขึ้นได้
อินชิงเสวียนมีมิติคุ้มครองตัวเอง ไม่ได้กลัวเย่จิ่งหลานเลย นางแค่ไม่ต้องการที่จะสูญเสียเพื่อนเพียงคนเดียวจากยุคปัจจุบันไป
ตอนนี้เย่จิ่งหลานช่วยนางมามากแล้ว ถ้านางมีข้อกังขาเกี่ยวกับเขา ก็คงไม่สมควรที่จะเรียกว่าเป็นเพื่อน
จู่ๆ เย่จิ่งหลานก็แสดงท่าทีสนใจอย่างมาก
“ได้อะไรดีๆ มาอีกแล้วหรือ”
อินชิงเสวียนยื่นมือออกมา แล้วหยิบเหยือกน้ำพุวิญญาณออกมาจากมิติ
“จริงๆ แล้วข้ามีน้ำพุวิญญาณอยู่ในมิติ สามารถเร่งการฟื้นตัวของอาการบาดเจ็บและเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง หากให้เหล่าจอมยุทธ์ใช้ ก็อาจจะสามารถชำระวิญญาณล้างไขกระดูกได้”
“โอ้?”
ดวงตาของเย่จิ่งหลานสว่างขึ้นทันที
“งั้น...ขอให้ข้าสองถังได้หรือไม่ ให้ข้าได้แช่ตัวด้วย”
อินชิงเสวียนพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ได้อยู่แล้ว เราเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด”
เย่จิ่งหลานกระตุกมุมปากขึ้น
“ข้าไม่ได้อยากเป็นเพื่อนกับเจ้า”
อินชิงเสวียนพูดอย่างไม่ใส่ใจ “ถ้าอย่างนั้นก็คิดว่าเป็นเพื่อนร่วมชาติ จัดการตรงนี้ก่อนเถอะ แล้วข้าจะเอาน้ำออกมาให้เจ้า”
เย่จิ่งหลานพยักหน้า
“เจ้ารอเดี๋ยว ข้าจะออกไปหาคนมาช่วย”
“ข้าจะไปกับเจ้า ข้าต้องดูแลความปลอดภัยของเจ้า”
อินชิงเสวียนรู้สึกไม่สบายใจที่ปล่อยให้ผู้ใหญ่ในคราบเด็กออกไปข้างนอกตามลำพัง
เย่จิ่งหลานไม่ปฏิเสธ พาอินชิงเสวียนออกจากจวนด้วย
ระหว่างทาง อินชิงเสวียนอดถามไม่ได้ว่า “นี่ มีคนตายเยอะแยะ เจ้าไม่กลัวหรือ”
เย่จิ่งหลานเอามือไพล่หลัง แล้วพูดว่า “มีอะไรให้กลัว ยมบาลจะเอาชีวิตเขาเที่ยงคืน ผู้ใดจะกล้ารั้งเขาไว้จนถึงตีห้า”
“แต่ถ้าข้าไม่ส่งหวังซุ่นมา...”
ก่อนที่อินชิงเสวียนจะพูดจบ ก็ถูกเย่จิ่งหลานขัดจังหวะ
“ไม่มีถ้า เป็นหรือตายได้ในโลกนี้ ล้วนไม่มีใครตัดสินได้ แม้ว่าต้องมีคนรับผิดชอบ ก็เป็นเรื่องของข้า ไม่เกี่ยวกับเจ้า เจ้าไม่ต้องคิดมากหรอก”
อินชิงเสวียนจิ๊ปาก พูดว่า “คนของเจ้ามาเร็วดีนี่”
เย่จิ่งหลานตกตะลึงเล็กน้อย
เขาเพิ่งแจ้งงานก็เสร็จแล้ว ต่อให้ต้องหาคนก็ต้องใช้เวลาพอสมควร ไม่น่าจะเร็วขนาดนี้
ขณะที่กำลังนิ่งอึ้งไป ชายคนหนึ่งสวมเสื้อคลุมสีขาวก็เดินออกจากห้องโถง
ผู้ชายคนนี้มีหน้าตาหล่อเหลา รูปร่างผึ่งผายกำยำ มีไฝใต้ตาชัดเจน เขายกมุมปากขึ้นเล็กน้อยเป็นรอยยิ้มแต่ตาไม่ยิ้ม
มือซ้ายไพล่หลัง มือขวาถือพัดด้ามใหญ่ ลักษณะเป็นคุณชายรูปงาม เพียงแต่รอยยิ้มดูชั่วร้าย มองแวบเดียวก็บอกได้เลยว่าเขาไม่ใช่คนใจดี
อินชิงเสวียนหยุดชะงักทันที มองผู้เยียนด้วยสีหน้าเย็นชา
“เป็นเจ้า ทำไมเจ้าถึงมาที่นี่”
ชายรูปหล่อคนนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก อาซือหลาน ท่านอ๋องถูหย่าลาจี๋เล่อแห่งเจียงวู
เขามองไปที่อินชิงเสวียนด้วยรอยยิ้มที่สดใส แสร้งประกบมือคารวะ แล้วโบกพัดเอื่อยๆ พูดว่า “น้องสาวที่รักของข้า เราพบกันอีกแล้วนะ พี่ชายคิดถึงเจ้าจะแย่”
“หุบปาก เจ้าคนหน้าด้าน ยังกล้าเรียกข้าว่าน้องสาว ไม่กลัวว่าข้าจะส่งข้อความไปถึงวังหลวง ให้มาจัดการเจ้าที่นี่หรือ”
ทันทีที่อินชิงเสวียนพูดจบ ประตูจวนก็ปิดดังเอี๊ยด
อาซือหลานยกริมฝีปากขึ้น พูดด้วยรอยยิ้มช้าๆ “เย่จิ่งอวี้กำลังประชุมเช้า ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้เข้าไปในตำหนักจินหลวน เจ้าจะไปฟ้องได้อย่างไรเล่า น้องสาวคนดีของข้า ข้าช่วยพวกเจ้ากำจัดศพในจวนแล้ว เจ้าไม่อยากรำลึกถึงอดีตกับข้างั้นหรือ”
เย่จิ่งหลานไม่รู้จักอาซือหลานเลย และเมื่อเขาได้ยินเขาพูดไร้สาระ ก็อดโมโหไม่ได้
“ท่านปู่ขอรับ เจ้าเป็นไอ้บ้ามาจากไหนกัน กล้ามาวางอำนาจในจวนของข้า ถ้ารู้แล้ว ก็รีบไสหัวออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้”
อินชิงเสวียนคว้าตัวเย่จิ่งหลานไว้ทันที พูดด้วยระดับเสียงที่มีเพียงสองคนเท่านั้นที่ได้ยิน “เขาคืออาซือหลาน คนผู้นี้มีทักษะวรยุทธ์ยอดเยี่ยม มีกลอุบายมากมาย เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา หาจังหวะเข้าไปหลบในมิติก่อน ข้าจะจัดการกับคนนี้เอง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...