“เด็กหนุ่มที่เจ้าจับไปอยู่ที่ไหน พาข้าไปหาเขาเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้น ข้าจะให้เจ้าหลั่งเลือดอยู่ตรงนี้”
ร่างสูงยืนอยู่ในความมืด น้ำเสียงไม่เย็นชา แต่พลังรัศมีนั้นวางอำนาจอย่างยิ่ง
“เจ้าเป็นใคร”
น้ำเสียงของเฟิงเอ้อร์เหนียงสงบ นางอยู่ในยุทธภพมาหลายปีแล้ว จึงสงบสติอารมณ์ได้ดี
“เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้”
เฮ่อฉางเฟิงขยับปลายนิ่วเล็กน้อย ปราณกระบี่ก็พุ่งออกมาจากนิ้วของเขา เฟิงเอ้อร์เหนียงรู้สึกเจ็บแปลบที่ลำคอ แล้วก็มีเลือดไหลออกมา
มุมปากของเฟิงเอ้อร์เหนียงกระตุกเล็กน้อย ทว่าใบหน้ายังคงสงบราวกับน้ำ
“เจ้าไม่บอกข้า ทำไมข้าต้องบอกเจ้า”
“คิดจริงๆ หรือว่าถ้าเจ้าไม่บอก แล้วข้าจะหาคนไม่เจอ?”
เฮ่อฉางเฟิงไม่ต้องการพูดไร้สาระกับนาง เขาจึงจี้สกัดจุดที่หว่างคิ้วของเฟิงเอ้อร์เหนียง ภาพเบื้องหน้าของเฟิงเอ้อร์เหนียงมืดลง และหมดสติล้มลงบนพื้นทันที
จากนั้นเดินออกจากห้อง สะกดกลั้นลมปราณ มองหากลิ่นอายของฉางเฮิ่นเทียน
ขณะที่ยืนนิ่ง ก็รู้สึกถึงกลิ่นอายแปลกๆ ข้างหลังเขา ทันทีที่หันหลังกลับก็ปะทะฝ่ามือกันผู้มาใหม่เต็มๆ
น่าเสียดายที่คนผู้นี้คือฮั่วเทียนเฉิงอีกแล้ว
เดิมทีเขากลับไปที่โรงเตี๊ยม แต่กลับรู้สึกหงุดหงิดงุ่นง่านใจอย่างอธิบายไม่ถูก อยากมาพบกับฉุยอวี้และเฟิงเอ้อร์เหนียง แต่ทันทีที่เข้ามาในเรือนก็เห็นคนชุดดำ
จากร่างที่อยู่ข้างหลัง ฮั่วเทียนเฉิงจำได้ทันทีว่าเป็นคนที่ติดตามเขามาเมื่อครู่ จึงไม่มีอะไรจะพูดให้มากความอีก
ในไม่ช้าฉุยอวี้ก็ถูกปลุกให้ตื่นด้วยเสียงการต่อสู้ เห็นฮั่วเทียนเฉิงและคนชุดดำต่อสู้กัน จึงเข้าร่วมวงการต่อสู้ทันที
ทั้งคู่เป็นศิษย์สายตรงของเจ้าตำหนักเทพ แม้ว่าเฮ่อฉางเฟิงจะมีวรยุทธ์ล้ำเลิศ แต่เขาก็ไม่สามารถต่อสู้แบบหนึ่งต่อสองได้ ภายหลังจากต่อสู้ไปสิบกระบวนท่า เหมือนว่าจะเสียเปรียบ จึงสับขาหลอกและเหาะออกจากสำนักเซียวเหยาไป...
ในคืนนี้ เกิดเรื่องขึ้นมากมายหลายอย่าง
ฟังเสียงกังวานของเย่จิ่งอวี้ที่พูดว่า “ลมปราณรวมตัวกันที่จุดตันเถียน ขึ้นสู่จุดถานจง ผ่านจุดตันเถียนเข้าสู่จุดไป๋ฮุ่ย ตกจากจุดต้าจุยไปสู่จุดมิ่งเหมิน”
อินชิงเสวียนทำตามขั้นตอนที่เขาพูด พยายามจินตนาการเต็มที่ว่าจะรวบรวมลมปราณ นำทางพลังชี่แท้ค่อยๆ ขึ้นไปตามจุดฝังเข็มอย่างช้าๆ
จากนั้นก็ค่อยๆ รู้สึกเหมือนมีกระแสไหวเวียนอยู่ในร่างกาย เคลื่อนตัวช้าๆ ตามความคิดของตัวเอง
ความรู้สึกนั้นลึกลับมหัศจรรย์มาก ราวกับว่ามีกระแสน้ำเย็นไหวเวียนอยู่ในร่างกาย ที่ที่มันไหลผ่านไปนั้นราบรื่นมาก จนจมลงไปในนั้นโดยไม่รู้ตัว
เพียงชั่วครู่ ดูเหมือนว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างผุดขึ้นในหัว
มีท่าวรยุทธ์ ยังมีดวงตาแปลกๆ คู่หนึ่ง และโดยที่ไม่รู้ตัว มือทั้งสองข้างก็ระเบิดแสงสีม่วงซีดๆ ออกมาสองกลุ่ม
เย่จิ่งอวี้ลืมตาขึ้น ด้วยเกรงว่าอินชิงเสวียนจะโคจรลมปราณไม่ถูกต้อง ไปผิดทาง แต่เมื่อเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ
นี่เป็นวิทยายุทธ์แบบไหนกัน
ขณะที่กำลังประหลาดใจ อินชิงเสวียนก็ลืมตาขึ้น ดวงตาที่ชัดเจนคู่นั้นเปล่งประกายด้วยแสงแปลกๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...