อินชิงเสวียนและเย่จิ่งอวี้กลับมาถึงหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์แล้ว
เมื่อรู้ว่าทั้งเสี่ยวหนานเฟิงและเซี่ยวอิ๋นหวนหลับไปแล้ว คู่สามีภรรยาก็เข้าไปในมิติ
มองไปที่เตียงคู่ที่อินชิงเสวียนแลกมา เย่จิ่งอวี้ก็อดไม่ได้ที่จะนั่งลงครู่หนึ่ง
นุ่มมาก!
เขาเงยหน้าขึ้น กลับเห็นหญิงสาวยืนอยู่ข้างๆ มองเขาด้วยรอยยิ้ม อดไม่ได้ที่จะยกมุมปากขึ้น เอ่ยด้วยน้ำเสียงคลุมเครือ
“คืนนี้เรานอนที่นี่กันเถอะ”
อินชิงเสวียนเป็นคนที่มีประสบการณ์แล้ว ย่อมรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ แก้มค่อยๆ แดงระเรื่อ
“ไว้ค่อยว่ากันทีหลัง จัดการเรื่องสำคัญก่อนดีกว่า”
เย่จิ่งอวี้ยื่นมือออกมา ดึงนางเข้ามาในอ้อมแขน
“นี่ก็คือเรื่องสำคัญ!”
เมื่อมองดูใบหน้าสีชมพูระเรื่อดวงนั้น เย่จิ่งอวี้ก็รู้สึกได้ถึงอารมณ์ที่พลุ่งพล่านอยู่ในใจ
อายุสิบแปดสิบเก้าปี เป็นวัยที่เปี่ยมไปด้วยความคึกคัก จะไม่คิดถึงภรรยาได้อย่างไร แม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนบ้าตัณหา แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าอินชิงเสวียน กลับยากที่จะควบคุมตัวเองได้ เขาโน้มตัวจูบกลีบปากสีชมพูนุ่มนิ่ม
อินชิงเสวียนยกมือยันหน้าอกเขา สูดหายใจเบาๆ
“อาอวี้จะไปนั่งทำสมาธิข้างบ่อน้ำพุวิญญาณไม่ใช่หรือ”
เย่จิ่งอวี้คว้ามือเล็กๆ ทั้งสองข้างที่อยู่ไม่สุข ประสานนิ้วเข้าด้วยกัน และกดร่างอ้อนแอ้นกับเตียงใหญ่อันอ่อนนุ่ม
“ประเดี๋ยวค่อยไปก็ได้ไม่ต้องรีบ”
เขาพึมพำเช่นนี้ แล้วริมฝีปากอันเย็นเฉียบก็จูบกระดูกไหปลาร้าอันประณีต
อินชิงเสวียนอุทานเสียงอ่อน เรียกเบาๆ “อาอวี้...”
“ข้าอยู่นี่”
เย่จิ่งอวี้โอบกอดเอวบางนั้นไว้หลวมๆ วงแขนแกร่งราวกับจะรั้งร่างสตรีตัวน้อยที่อยู่ใต้ร่างเข้าไปในกายของตัวตัวเอง
อินชิงเสวียนครวญครางต่ำ ริมฝีปากก็ถูกปิดผนึกอย่างครอบงำอีกครั้ง
กลิ่นบุรุษลอยกรุ่นเข้ามาในจมูก ทำให้อินชิงเสวียนรู้สึกมึนงง จิตใจพลันว่างเปล่า
นางเอื้อมมือทั้งสองข้างออกมาโดยไม่รู้ตัว โอบรอบคอของเย่จิ่งอวี้ไว้ โค้งตัวเล็กน้อย ราวกับปรารถนาความร้อนจากเขา มีเสียงครวญครางเบาๆ ดังลอดออกมาจากมุมริมฝีปากเป็นครั้งคราว
เย่จิ่งอวี้พอใจกับปฏิกิริยาของสาวน้อยมาก เขาเกี่ยวกระหวัดเอวบางของนางอย่างระมัดระวัง แล้วแนบกายรวมเป็นหนึ่งเดียว...
ไม่ทราบว่าเวลาล่วงเลยไปนานเท่าใด ในที่สุดความละมุนละไมก็หายไป อินชิงเสวียนก็นอนลงบนเตียงอย่างไร้เรี่ยวแรง โดยไม่แม้แต่จะลืมตา
เมื่อมองดูหญิงสาวตัวเล็กที่ห่อตัวด้วยผ้าห่มแล้ว เย่จิ่งอวี้ก็หัวเราะเงียบๆ ดึงนางออกจากผ้าห่มแล้วอุ้มนางไปที่น้ำพุวิญญาณ
“คนดี ประเดี๋ยวค่อยหลับนะ”
เขาจับอินชิงเสวียนไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง อีกมือหนึ่งตักน้ำพุวิญญาณมาเช็ดเนื้อเช็ดตัวทำความสะอาดร่างกายให้อินชิงเสวียน
ในบรรดาคนจำนวนมาก คนเดียวที่เย่จิ่งอวี้สามารถไว้วางใจได้น่าจะเป็นเย่จั้น หรือว่าเขาเป็นคนที่ทำร้ายเย่จิ่งอวี้?
เมื่อนึกถึงตรงนี้ อินชิงเสวียนก็ขมวดคิ้วทันที
หรือว่าที่เย่จั้นอดทนมาตลอดก็เพื่อราชบัลลังก์?
แต่เขารู้ได้อย่างไรว่าเย่จิ่งอวี้จะได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้แน่นอน หากเย่จิ่งอวี้ไม่ได้จัดเตรียมมาหลายปี ผู้ที่ขึ้นครองบัลลังก์หลังจากการสิ้นพระชนม์ของฮ่องเต้องค์ก่อน คงเป็นเย่จิ่งเย่าถึงจะถูก
ต่อให้เย่จั้นจะเดิมพันถูกข้าง ก็สามารถกลับมาต่อสู้แย่งชิงอำนาจได้หลังจากการสิ้นพระชนม์ของฮ่องเต้องค์ก่อน เขามีกองทัพขนาดใหญ่ ไม่น่าจะเป็นเรื่องยากที่จะจัดการกับเย่จิ่งอวี้
แม้ว่าเขาจะสูญเสียโอกาสก่อน แต่ก็สามารถใช้ประโยชน์จากการที่เย่จิ่งอวี้ถูกเจ้าสำนักเซี่ยวพาตัวมา ยกทัพกบฏ แล้วเหตุใดถึงอยู่ในเมืองหลวง เป็นหุ่นเชิดของเย่จิ่งอวี้?
เมื่อนึกถึงตรงนี้ อินชิงเสวียนก็ส่ายศีรษะ
คงไม่ใช่เขา ต้องมีคนอื่น
แม้ว่านางจะไม่รู้ว่าจุดประสงค์ของคนผู้นี้คืออะไร แต่นางก็สังหรณ์ใจไม่ดี
ในเวลานี้ เย่จิ่งอวี้ที่ได้ฟังเสียงน้ำไหล ค่อยๆ เข้าสู่การทำสมาธิ
กำลังภายในในร่างกายค่อยๆ ไหลลื่นไปตามความคิด คนก็เข้าสู่สภาวะสูญเสียความเป็นตัวเอง
เมื่อความคิดสงบลง วงกลมแสงสีแดงขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้า
วงกลมนั้นค่อยๆ วนอยู่เหนือศีรษะของเขา ในที่สุดก็ตกลงมาใส่ตัวเขา ทันใดนั้นก็รัดแน่นขึ้น ความรู้สึกหายใจไม่ออกอันรุนแรงก็ออกมาจากส่วนลึกในใจ จู่ๆ เย่จิ่งอวี้ก็ลืมตาขึ้น และกระโดดขึ้นจากที่เดิม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...