นิ้วมือของเย่จั้นสั่นไหวเล็กน้อย และหันหน้ากลับมาในทันที
สายตาของอินสิงอวิ๋นจ้องมองเขาอย่างมั่นคง
ทั้งสองสบตากันอยู่นาน เย่จั้นจึงโบกมือให้เหล่าองครักษ์ถอยออกไป พร้อมพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มจางๆ “พูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?”
อินสิงอวิ๋นน้อมตัวและพูดว่า “แม้ว่ากระหม่อมจะไปมาหาสู่ท่านอ๋องและฝ่าบาทไม่บ่อยนัก แต่ยังสามารถแยกแยะความแตกต่างได้ กระหม่อมได้ยินมาตลอดว่าจิ้งอ๋องเลื่อมใสในการต่อสู้ และรักท่านนายพลเป็นอย่างมาก หากฝ่าบาทมาที่นี่ เขาไม่มีทางเป็นห่วงอัคราจารย์ได้มากเช่นนี้”
“อีกอย่าง จิ้งอ๋องกลับเมืองซุ่ยหานอย่างกะทันหัน และน้องใหญ่ก็ออกจากเมืองหลวงด้วยความร้อนใจ หากกระหม่อมเดาไม่ผิด เกรงว่าจะมีบางสิ่งเกิดขึ้นกับฝ่าบาท”
ในสายตาของเย่จั้นแสดงความชื่นชมเล็กน้อยออกมาในทันที คิดไม่ถึงว่าอินสิงอวิ๋นจะมีความคิดที่รอบคอบเช่นนี้ ตระกูลอินพร้อมด้วยผู้ที่มีความสามารถ ล้วนเป็นเสาหลักทั้งนั้น
การคาดเดาของเขาอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง
แต่ทว่า เย่จั้นกลับไม่สามารถยอมรับได้
เมื่อข่าวรั่วไหลออกไป จะต้องทำให้ประเทศชาติสั่นคลอนแน่นอน
เขายิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า “เจ้าคิดมากไปแล้ว เดิมทีจิ้งอ๋องก็ควรเดินทางไปจากเมืองหลวง เขาไม่ได้พบหน้ากับท่านพ่อเจ้าก็เป็นเพราะเกิดอุบัติภัยในกองทหาร จึงจำเป็นต้องเดินทางกลับตลอดคืน เสวียนเอ๋อร์มุ่งหน้าไปทางตอนใต้ก็เพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยในปีหน้า”
เย่จั้นพูดจบก็เดินขึ้นรถม้า และพูดผ่านหน้าต่างรถม้าว่า “ข้าสบายดี กุ้ยเฟยก็สบายดีเช่นกัน เจ้าควรเสพสุขคืนแรกที่ส่งตัวเข้าหออย่างเต็มที่ อย่าได้คิดให้ต้องกระวนกระวายใจ”
อินสิงอวิ๋นเหลือบมองม่านรถที่ตกลงมา และก้มศีรษะลงพูดว่า “กระหม่อมก้าวล่วงแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“พวกเราล้วนเป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องพูดจาเช่นนี้หรอก กลับไปเถอะ”
หลี่เต๋อฝูไม่รู้ว่าทั้งสองสนทนาอะไรกัน เมื่อเห็นผ้าม่านถูกปล่อยลงมา เขาก็รีบตะเบ็งเสียงตะโกนพูดว่า “เคลื่อนขบวนเสด็จ กลับวัง!”
รถม้าออกไปจากตระกูลอินอย่างรวดเร็ว อินสิงอวิ๋นที่สวมชุดคลุมสีแดงทั้งตัวกลับยังคงมองทิศทางที่เย่จั้นจากไป แววตาเต็มไปด้วยความครุ่นคิด
ฟางรั่วแดกดันถากถางอยู่ตลอด เขาก็อดทนรับไว้
เขาต้องการให้ฟางรั่วรู้ว่าตัวเองมีความจริงใจ ไม่ว่านางต้องการทำสิ่งใด เขาจะอยู่เคียงข้างนางเสมอ
ฟางรั่วเห็นมันในสายตา แต่นางก็ยังไม่ยอมมองเขาในทางที่ดี
ไม่ใช่เพราะว่านางใจแข็งดั่งหินผา แต่ความจริงเป็นเพราะนางไม่เพ้อฝันในความรักอยู่แล้ว ความเชื่อมั่นเดียวที่ทำให้นางยังมีชีวิตอยู่ก็คือการฆ่าอาซือหลานให้ตาย
ทั้งสองมาถึงด้านบนเขา เมื่อมองลงไปด้านล่างภูเขาที่มีควันไฟเป็นจุดสว่างไสว อีกทั้งเสียงคลื่นทะเลที่ราวกับฟ้าคำราม จึงรู้สึกมีความสุขอย่างอดไม่ได้
ในที่สุดก็มาถึงเป่ยไห่แล้ว
ฟางรั่วรีบเร่งฝีเท้าในทันที ทว่าจู่ ๆ กลับเหยียบโดนบางสิ่งที่มีลักษณะนุ่มนิ่ม เมื่อก้มหน้ามองก็ตกใจจนใบหน้าถอดสี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...