สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 827

ทั้งคู่หมกมุ่นอยู่กับความคิดของตัวเอง เพียงชั่วพริบตาก็รุ่งสางแล้ว

เสียงหัวเราะของเซี่ยวอิ๋นหวนและเสี่ยวหนานเฟิงมาจากนอกประตู

อินชิงเสวียนสวมรองเท้าและลุกจากเตียงทันที เดินไปที่ประตู แล้วหยุดชะงัก

นางไม่ใช่แม่ผู้ให้กำเนิดที่แท้จริงของเสี่ยวหนานเฟิง จะมีสิทธิ์อะไรไปกอดเขา

ครั้นได้ยินเสียงหัวเราะใสๆ ประหนึ่งกระดิ่งเงินของเด็ก อินชิงเสวียนก็กัดริมฝีปากโดยไม่รู้ตัว

ในเวลานี้ เสียงเคาะประตูดังขึ้น

เสียงของต่งจื่ออวี๋มาจากข้างนอก

“แม่นางชิงเสวียน อยู่หรือไม่ พวกเราจะกลับแล้ว”

อินชิงเสวียนรีบกลืนความขมขื่นในลำคออย่างรวดเร็ว ลูบผมให้เรียบแล้วเปิดประตู

ฝืนยิ้มถามว่า “ทำไมถึงกลับไปเร็วนัก”

“เรากินเลี้ยงมาทั้งคืนแล้ว ได้เวลากลับแล้ว”

ต่งจื่ออวี๋หัวเราะอย่างซื่อบื้อ แล้วถามอีกว่า “แม่นางชิงเสวียน เจ้าร้องไห้รึ ทำไมตาของเจ้าถึงแดงขนาดนี้”

ต่งจื่ออวี๋ซื่อบื้อเกินไป คิดอะไรก็พูดอย่างนั้น ทั้งยังพูดจาโผงผาง เซี่ยวอิ๋นหวนจึงอุ้มเสี่ยวหนานเฟิงเข้ามาหาทันที

เมื่อเห็นดวงตาที่บวมแดงของอินชิงเสวียน นางก็ถามด้วยความเป็นห่วง “เกิดอะไรขึ้น อวี้เอ๋อร์รังแกเจ้าหรือเปล่า”

อินชิงเสวียนพูดโดยเร็ว “ไม่ใช่เจ้าค่ะ บางทีอาจเป็นเพราะไม่ได้นอนทั้งคืน ได้นอนอีกหน่อยคงดีขึ้น”

ทันใดนั้นก็นึกถึงเรือลำนั้นอีกครั้ง รีบพูดว่า “เมื่อคืนมีคนเผาเรือใหญ่ที่ชายทะเล ถึงข้ากับอาอวี้จะพยายามปกป้องเต็มที่ แต่อุปกรณ์มากมายก็เสียหาย ไม่ทราบว่าศิษย์สำนักใดไปลาดตระเวนชายทะเลเมื่อคืนนี้หรือ”

ต่งจื่ออวี๋ดูประหลาดใจ

“มีคนเผาเรือจริงๆ หรือ”

เก่อหงยวนก็โผล่หน้ามาด้วย

“คนผู้นั้นถูกจับได้หรือยัง”

อินชิงเสวียนพูดอย่างหดหู่ “แม้เราจะต่อสู้กับเขา แต่ก็ยังปล่อยให้เขาหนีไปได้ คนผู้นั้นไม่เพียงมีวรยุทธ์ที่แข็งแกร่ง แต่เขายังมีวิชาเนตรด้วย สามารถทำให้คนเข้าสู่ห้วงมโนภาพ พวกเราถูกควบคุมด้วยวิชาเนตรของเขา”

เจ้าสำนักเซี่ยวกำลังพูดคุยกับเจ้าสำนักเฮ่อและผู้อาวุโสสวี ทั้งสามคนล้วนเป็นคนที่มีหูตาว่องไว พอได้ยินก็เดินมาทางนี้ทันที

“เกิดอะไรขึ้น”

แล้วอินชิงเสวียนก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้อีกรอบ นอกจากเรื่องฝนน้ำพุวิญญาณที่ถูกปิดบังไว้

ครั้นได้ยินดังนี้เจ้าสำนักเซี่ยวก็ขมวดคิ้ว

“ฮวาเฉียน เจ้าไปตรวจสอบเดี๋ยวนี้ เมื่อคืนสำนักไหนเฝ้าอยู่ที่ชายทะเล”

“เจ้าค่ะ”

เดิมที่เจ้าสำนักเซี่ยวได้สงสัยเถียนเซินหลินแล้ว แต่เมื่อเห็นเขาในสภาพเช่นนี้ ก็ระงับความสงสัยไว้ก่อน

นักพรตเทียนจีไม่สนใจเรื่องทางโลก ไม่ค่อยออกมาเพ่นพ่านในโลกมนุษย์ ยิ่งกว่านั้น ลายมือของเขายังพิเศษผสมผสานกับอักขระยันต์ จึงไม่มีทางเลียนแบบได้

“เจ้าลุกขึ้นก่อน”

เขาดึงโมริตะคาวาสึบาเมะขึ้นมา แล้วถามด้วยน้ำเสียงทุ้ม “ถ้าได้เห็นคนผู้นี้อีกครั้ง เจ้าจะจำเขาได้หรือไม่”

โมริตะคาวาสึบาเมะพยักหน้าซ้ำๆ

“จำได้ ข้าจำเขาได้แน่นอน”

เจ้าสำนักเซี่ยวพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ดี ข้าจะส่งคนไปตรวจสอบเดี๋ยวนี้”

ในใจของอินชิงเสวียนยังคงนคกถึงเรืออยู่ จึงพูดกับเจ้าสำนักเซี่ยว “ชิงเสวียนจะไปแจ้งเย่จิ่งหลานเดี๋ยวนี้ ให้เขารีบซ่อมแซมเรือ”

นางรีบมาที่ประตูห้องเย่จิ่งหลาน แล้วผลักเปิดออกเบาๆ แต่ไม่มีใครอยู่ในนั้น

หรือว่าเขาไปที่ชายทะเลแล้ว

หลังจากที่อินชิงเสวียนแจ้งเจ้าสำนักเซี่ยว พวกเขาก็พาศิษย์สองคนไปที่ชายฝั่ง

ไม่ไกลนัก โมริตะคาวาสึบาเมะก็ยกมุมปากขึ้น

ตราบใดที่เย่จิ่งหลานไม่อยู่ที่นี่ เช่นนั้นก็จัดการได้ง่าย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์