สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 936

ณ หอฉงฮวา

ซูฉ่ายเวยทราบข่าวการกลับมาของอินชิงเสวียนแล้ว คิดว่านางเดินทางไกลยากลำบาก จะต้องพักผ่อนอย่างเต็มที่สักหลายๆ วัน เดิมทีคิดว่าอีกสองวันค่อยไปขอเข้าพบ ไม่นึกว่าอินชิงเสวียนจะเป็นคนมาเสียเอง

“ถวายพระพรกุ้ยเฟยเพคะ!”

เมื่อเห็นอินชิงเสวียนอีกครั้ง ซูฉ่ายเวยก็รู้สึกประหลาดใจระคนยินดี

ชั่วพริบตาก็ผ่านไปครึ่งปีแล้ว ของที่อินชิงเสวียนให้นางก็ถูกขายไปเกือบหมดแล้ว ตอนนี้ได้พบเทพเจ้าแห่งความมั่งคั่ง จะไม่มีความสุขได้อย่างไร

“เราต่างเป็นพี่น้องกัน เจ้ากับข้าไม่ต้องเกรงใจขนาดนั้น”

อินชิงเสวียนเอื้อมมือไปช่วยพยุงซูฉ่ายเวยขึ้น และนั่งบนเก้าอี้นวมยาวกับนาง

ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อได้ทำตามใจซึ่งกันและกัน ปล่อยวางเรื่องคดเคี้ยวเลี้ยวลดเหล่านั้น ซูฉ่ายเวยในตอนนี้ยิ่งสง่าผ่าเผยบุคลิกดีมากขึ้น

อินชิงเสวียนพูดจากใจจริง “ในช่วงเวลาที่ข้าไม่อยู่นี้ หลิงเฟยได้ทำงานหนักแทนข้า ช่วยจัดการวังหลัง ลำบากแล้วจริงๆ”

ซูฉ่ายเวยพูดด้วยรอยยิ้ม “กุ้ยเฟยยกย่องเกินไปแล้ว ข้าแค่ทำหน้าที่ของข้า ตอนนี้พวกนางเล็กๆ เหล่านั้นทำตัวสงบเสงี่ยมขึ้นมาก คิดว่าคงยอมแพ้แล้ว ไม่มีอะไรต้องกังวล”

อินชิงเสวียนพยักหน้า พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ดีมาก หากยอมแพ้จริง ก็ไม่ต้องพะวงสิ่งใดอีก วันหน้าเมื่อออกจากวัง จะได้หาคนดีๆ มาแต่งงาน”

ซูฉ่ายเวยตกใจเล็กน้อย นางเงยหน้าขึ้นแล้วถามว่า “หรือว่า ฝ่าบาทตัดสินใจให้พวกเราออกจากวังแล้ว?”

“ฝ่าบาทตั้งใจเช่นนี้จริง ไม่รู้ว่าหลิงเฟยมีข้อเรียกร้องอะไรหรือไม่ ตราบใดที่ข้าและฝ่าบาทสามารถทำได้ เราจะพยายามทำให้พอใจอย่างเต็มที่”

อินชิงเสวียนมาที่นี่เพียงเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ จึงพูดตรงไปตรงมาและตรงประเด็น

นางและซูฉ่ายเวยก็นับว่าไม่สู้กันก็ไม่รู้จักกัน แม้ว่าทั้งสองจะเรียกไม่ได้ว่าเป็นเพื่อนกัน แต่ก็นับว่ามีความสัมพันธ์มีประโยชน์ร่วมกัน อินชิงเสวียนไม่ต้องการให้นางรู้ข่าวผ่านราชโองการของฝ่าบาท

ซูฉ่ายเวยเม้มริมฝีปาก ยิ้มแล้วพูดว่า “กุ้ยเฟยยกย่องเกินไปแล้ว ดูเหล่าสตรีในวังหลวงสิ ผู้ที่สามารถเรียกได้ว่ามีจริยาดั่งฮุ่ยหลันอย่างแท้จริง ก็คือกุ้ยเฟยเพียงผู้เดียว”

“ได้ยินท่านแม่กล่าวว่า สำนักศึกษาหลวงและโรงเรียนสอนการต่อสู้ของกุ้ยเฟยประสบผลสำเร็จ เมล็ดพืชยังได้ให้ราษฎรมากมายได้อิ่มท้องนอนอุ่น ตอนนี้ข้าเพิ่งเข้าใจแล้วว่า วันวานที่แก่งแย่งแข่งขันชิงพระทัยของฝ่าบาทกับท่านนั้น ข้าประเมินความสามารถของตัวเองสูงเกินไปเพียงใด”

คำชมเชยของซูฉ่ายเวย ทำให้อินชิงเสวียนร้อนตัวอยู่บ้าง

สิ่งเหล่านี้นางไม่ได้รวบรวมเอง แต่เป็นประสบการณ์และความสำเร็จของคนก่อน นางแค่เอามาแอบอ้างเท่านั้น ไม่มีหน้ามาคุยโวโอ้อวดจริงๆ

“ทุกคนมีสิทธิ์ช่วงชิงความรัก เพียงแต่ความรู้สึกเป็นสิ่งเห็นแก่ตัว ข้าไม่อาจแบ่งปันอาอวี้กับเจ้าไม่ได้จริงๆ แต่ข้าจะไม่ปฏิบัติต่อเจ้าอย่างไม่ยุติธรรมแน่นอน”

อินชิงเสวียนปรบมือ เสี่ยวอานจื่อก็ถือพัสดุขนาดใหญ่เดินเข้ามา

เมื่อมองดูผลิตภัณฑ์สวยงามมากมายละลานตา ซูฉ่ายเวยก็อดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้าง แทบจะซ่อนรอยยิ้มบนริมฝีปากไม่ได้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์