สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 949

นักพรตเต๋าหนุ่มมองดูเม็ดฝนบนมือ แล้วตกตะลึงงัน

นักพรตเต๋าที่อยู่ข้างๆ กระทุ้งศอกใส่เขา

“ศิษย์น้องชิงฮุย เจ้าเป็นอะไรไปรึ”

ชิงฮุยตื่นจากภวังค์ทันที

“ไม่มีอะไรหรอก แค่รู้สึกว่าเพิ่งแดดออกอยู่หยกๆ แต่จู่ๆ ฝนก็ตก รู้สึกว่ากะทันหันไปหน่อย”

คนที่นั่งฟังเทศน์อยู่ในศาลาก็มองดูท้องฟ้าเช่นกัน

ฝนตกลงมากระทบหลังคาศาลา สาดใส่เสื้อผ้าของทุกคน ไม่รู้สึกเย็นเยือกแต่อย่างใด แต่กลับรู้สึกอบอุ่น ทำให้รู้สึกสบายตัวมาก

นักพรตเต๋าที่อยู่ข้างๆ ยิ้มแล้วพูดว่า “นี่เรียกว่าธรรมชาติมิอาจคาดเดาฟ้าฝน ชีวิตคนมิอาจคาดเดาความแปรผัน เมื่อไร้ซึ่งความกังวล จึงจะสงบเยือกเย็นอยู่เสมอ บริสุทธิ์สงบใจเอย!”

ชิงฮุยโค้งคำนับแล้วกล่าวว่า “ศิษย์พี่กล่าวถูกแล้ว ชิงฮุยได้รับคำชี้แนะแล้ว”

ที่นั่งถัดจากพวกเขาสองคนคือนักพรตเต๋าคิ้วขาว หลังจากได้ยินการสนทนาของพวกเขา นักพรตเต๋าก็พยักหน้าเห็นด้วย แล้วสั่งสอนทุกคนต่อไป

ราษฎรชาวเมืองหลวงไม่ทราบถึงประสิทธิผลของฝนนี้ บางคนที่ป่วยด้วยอาการปวดศีรษะ เมื่อบังเอิญโดนฝน ก็หายเป็นปกติทันที ยังคิดไปเองว่าตัวเองร่างกายแข็งแรง ไม่งั้นก็เป็นเพราะได้รับพรจากสวรรค์ ไม่ว่าอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่าสิ่งที่ตกลงมาจากท้องฟ้าคือน้ำพุวิญญาณที่หลายคนถวิลหาอย่างที่สุด

ในเวลานี้ มีม้าเร็วสองตัวมาที่ประตูเมือง

บนหลังม้าเป็นสตรีสองนาง คนหนึ่งสวมกระโปรงคาดอกสีดำที่ดูเย็นชา ส่วนอีกคนสวมกระโปรงสีส้มอมแดงรูปโฉมสะคราญใจ

ซึ่งสองคนนี้คือฉุยอวี้และเฟิงเอ้อร์เหนียง!

ฉุยอวี้รองรับน้ำฝน แล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย

เฟิงเอ้อร์เหนียงกระซิบ “เข้าไปในเมืองก่อน”

ฉุยอวี้พยักหน้า

หลังจากเข้าไปในเมืองแล้ว ทั้งสองก็ตรงไปที่เรือนจุ้ยหงโดยไม่หยุด

หลังจากเข้าประตู ฉุยอวี้ก็กระซิบ “ฝนนี้อาจเกี่ยวข้องกับชิงเสวียน ข้าต้องหาโอกาสบอกนาง ถ้าคนจากตำหนักเทพรู้เข้า นางจะต้องถูกพาตัวไปอย่างแน่นอน”

เฟิงเอ้อร์เหนียงถอนหายใจ

เมื่อเห็นท้องฟ้าสีคราม อินชิงเสวียนก็อารมณ์ดีมาก

“เสด็จพี่สะใภ้!”

เย่ไห่ถังรออยู่ที่ประตูนานแล้ว เมื่อเห็นอินชิงเสวียนตื่น นางก็โบกมืออย่างมีความสุข

อินชิงเสวียนมาที่นอกประตู แล้วถามด้วยรอยยิ้ม “รอนานแล้วหรือ ทำไมไม่เรียกข้าล่ะ”

“เปล่าเพคะ ข้าก็เพิ่งมาถึงเหมือนกัน”

เย่ไห่ถังเดินฉับๆ เข้ามา

“เสด็จพี่สะใภ้ยังไม่กินข้าวเช้าเลยกระมัง ไม่อย่างนั้น...เรากินข้าวก่อนออกเดินทางดีหรือไม่”

เมื่อมองดูดวงตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง อินชิงเสวียนก็คิดในใจ เกรงว่าหัวใจของเด็กคนนี้คงไม่อยู่ที่นี่นานแล้ว

อย่างไรซะตัวเองก็ไม่หิวมาก รอกินข้าวเที่ยงทีเดียวเลยก็แล้วกัน

“ไม่ล่ะ เราออกไปเดี๋ยวนี้กันเลย”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์