สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 999

เย่จิ่งหลานพยักหน้า

“ดีมาก ความตั้งใจของเจ้า ข้าเห็นแล้ว ไปแจ้งผู้บังคับเรือ ให้หยุดเรือห่างจากเกาะตงหลิวหนึ่งลี้ หยุดพักผ่อนสักพัก พรุ่งนี้เราจะขึ้นเกาะ”

ครึ่งชั่วยามต่อมา เรือขนาดยักษ์ก็หยุดอยู่ในทะเล เสียงคำรามกระหึ่มก็หายไป ทุกคนต่างเริ่มตึงเครียดกันทันที

เก่อหงยวนถามด้วยสีหน้าหวาดหวั่น “เย่จิ่งหลาน อย่าบอกนะว่า เรือเส็งเคร็งนี่ของเจ้าพังอีกแล้ว”

เย่จิ่งหลานยักไหล่พูดว่า “ไม่ใช่อยู่แล้ว เป็นเพราะสถานการณ์ปัจจุบันของพวกเจ้าไม่สามารถต่อสู้ได้ ข้าจึงสั่งให้พักผ่อนชั่วคราว”

เก่อหงยวนพูดอย่างหมดคำบรรยาย “ข้างหน้าคือเกาะตงหลิวแล้ว เราไปพักผ่อนที่เกาะได้ไหม ตอนนี้ข้าแค่อยากจะสัมผัสถึงความรู้สึกของเท้าที่เหยียบบนพื้นดิน”

เย่จิ่งหลานพูดอย่างไม่อินังขังขอบ “ถ้าบนเกาะเต็มไปด้วยศัตรูที่รออยู่ล่ะ เจ้าจะโยนตัวเองเข้าไปในกับดักงั้นหรือ”

“เจ้าดูเกาะโล้นๆ นี้สิ แม้แต่หญ้ายังมีเห็นเห็นหร็อมแหร็ม จะมีศัตรูอยู่ไหนกัน”

เก่อหงยวนรู้ดีว่าสิ่งที่เย่จิ่งหลานพูดเป็นเรื่องจริง แต่นางไม่อยากอยู่บนเรือแม้เพียงไม่กี่อึดใจ

“ศัตรูจะยังยืนเรียงเป็นแถวบนชายทะเลรอให้เจ้าฆ่าพวกเขางั้นหรือ คุณหนู ข้าขอแนะนำให้เจ้าอดทนดีกว่า!”

หลังจากที่เย่จิ่งหลานพูดจบก็เดินขึ้นบันไดไปบนดาดฟ้า ตะโกนบอกทุกคนที่มีใบหน้างุนงง “วันนี้หยุดเรือพักผ่อน เช้าตรู่วันพรุ่งนี้เราจะโจมตียึดเกาะตงหลิวด้วยกำลังทั้งหมดของเรา ทุกคนเป็นศิษย์ชั้นยอดของสำนักต่างๆ หวังว่าพวกเจ้าจะไม่ทำให้เจ้าสำนักของพวกเจ้าผิดหวัง และไม่ทำให้ข้าผิดหวังเช่นกัน วันนี้เรามีสุราอาหารเพียงพอ สามารถดื่มได้มากเท่าที่ต้องการ”

เย่จิ่งหลานโบกมือ ฮวาเชียนก็สั่งให้คนยกสุราชั้นดีกว่าสิบไหเข้ามาทันที

ในบรรดาศิษย์ทั้งหลาย คนจากหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์นับว่ายังพอมีกำลังสู้รบที่สุด นับตั้งแต่อินชิงเสวียนมาถึงหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ น้ำที่พวกเขาได้กินดื่มใช้ล้วนเป็นน้ำพุวิญญาณ ร่างกายจึงแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก แต่ละคนเดินเหินราวกับบิน แทบไม่มีคนเมาเรือเลย

ศิษย์คนหนึ่งปีนขึ้นมาบนดาดฟ้าด้วยเสียงหึหึ

“สุราไม่จำกัดจริงๆ หรือ”

เย่จิ่งหลานยิ้มอย่างใสซื่อบริสุทธิ์

“สำหรับวันนี้เท่านั้น ส่วนในอนาคตจะได้ดื่มอีกหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับผลหลังลงจอดของพวกเจ้าแล้ว”

“ถูกต้อง ไหนี้เป็นของข้า”

ทุกคนเข้ามาหยิบไหสุราทันที นี่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ออกทะเล ที่มีเสียงหัวเราะชื่นมื่นสนุกสนานบนดาดฟ้าเรือเช่นนี้

โจวหนิงและต้วนจื่อฉู่จากตำหนักเทพต่างก็กลืนน้ำลายเอื้อก ช่วงนี้พวกเขาแทบจะอาเจียนอาหารที่กินในท้องจนหมด ใบหน้าซูบตอบลง ในที่สุดเรือก็หยุดเสียที ด้วยเสียงคำรามกระหึ่มรำคาญหูก็หยุดลง ทั้งสองคนจึงมีความอยากอาหารขึ้นมาทันที

ฮั่วเทียนเฉิงพยักหน้า

“อยากกินอะไรก็ไปเอามาเถอะ”

แต่ในใจกลับกำลังคิดว่า เขาควรทำอย่างไร ถึงจะให้เย่จิ่งหลานเต็มใจติดตามพวกเขากลับไปที่ ตำหนักเทพ...

เย่จิ่งหลานก็จ้องมองเขาเช่นกัน

ถ้าปล่อยให้ยอดฝีมือกลับไปเหมือนปล่อยเสือกลับถ้ำเช่นนี้ คงจะน่าเสียดายแย่ จะต้องอวดเบ่งบารมีว่าแบบไหนดี ถึงจะทำให้เขาติดตามตัวเองไปอย่างสุดใจ...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์