"พี่เขย วันนี้เป็นวันครบรอบวันเกิดของคุณพ่อซึ่งเป็นวันมงคล สมาชิกทุกคนของตระกูลจางควรจะมาอวยพรวันเกิดด้วยความจริงใจ ความจริงของขวัญจะแพงหรือถูกไม่สำคัญ สิ่งสำคัญที่สุดคือความจริงใจ ถ้าหากคุณไม่มีเงิน ซื้อของประดับเล็กน้อยมาให้คุณพ่อก็ได้ แต่คุณกลับซื้อของปลอมแบบนี้มาเป็นของขวัญวันเกิดของคุณพ่อมันหมายความว่ายังไง? คุณคิดว่าคุณพ่อของเราเป็นคนประเภทชอบของเลียนแบบเหรอ? ถ้าหากเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไปคุณพ่อไม่ขายหน้าแย่เหรอ? ตกลงคุณทำแบบนี้หมายความว่ายังไง?"
ซูกวงได้ยินแล้วถึงกับหน้าซีดทันที
"ขายหน้าสิ้นดี!" จางเซียงพูด
"ซูกวง คุณทำอะไรของคุณ?" จางคุนถามด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม
"ทำไมชิงหยู่ถึงไปแต่งงานกับคนที่ไร้ประโยชน์แบบนี้?" จางฮั่วเกอส่ายหัวแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
"เหลวไหลสิ้นดี"
"ใช่"
ใครที่อยู่โดยรอบพากันวิพากษ์วิจารณ์เช่นกัน มีทั้งเสียงหัวเราะเยาะและคำพูดถากถาง
ซูกวงที่ยืนอยู่ตรงกลางเริ่มไม่เป็นตัวเอง เขาแทบอยากจะมุดลงดินเดี๋ยวนี้ไปเลย
ส่วนจางชิงหยู่และซูเหยียน ทั้งสองคนรู้สึกโกรธจนแทบจะระเบิดแล้ว
"พอแล้ว พอแล้ว เลิกพูดกันได้แล้ว!" ผู้เฒ่าจางทนดูไม่ได้แล้ว
ถึงแม้เขาจะไม่ชอบซูกวงลูกเขยคนนี้ แต่ไม่ว่ายังไงลูกสาวของตัวเองก็แต่งงานกับเขาไปแล้ว ถือได้ว่าเป็นคนของตระกูลจาง วันนี้มีคนนอกอยู่ตั้งมากมาย เขาไม่อยากทำให้มันเป็นเรื่องจนกลายเป็นเรื่องตลกของคนนอก
"พ่อ…" ซูกวงมองเขาแวบหนึ่ง
"แกถอยลงไปก่อนเถอะ" ผู้เฒ่าจางพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
"ครับ…" ซูกวงถอนหายใจ เดินกลับพร้อมกับภาพวาด
ส่งมอบของขวัญไม่สำเร็จ เกรงว่าตอนนี้คงจะไม่เพียงแค่ขายหน้าแล้ว แม้แต่ภายในใจของชายชราก็คงจะรู้สึกแย่ต่อครอบครัวของเขาแล้วมั้ง?
ได้ไม่คุ้มเสียเลย…
แต่แล้วในขณะที่ซูกวงกำลังถอยกลับมา มีเสียงพูดขึ้นอย่างกะทันหัน
"พ่อ คุณกลับมาทำไม? ภาพวาดยังไม่ได้เอาให้คุณตาเลย!"
หลังจากได้ยินคำพูดประโยคนี้ทุกคนถึงกับอึ้ง
หันไปมองตามทิศทางของเสียง ทุกคนพบว่าหลินหยางก้าวออกมาพูด
"หลินหยาง?"
"ไอ้คนไร้ประโยชน์คนนี้ยังกล้าพูดอีกเหรอ?"
"ทั้งที่รู้ว่าเป็นของเลียนแบบยังจะให้อีก? แบบนี้ไม่เท่ากับตบหน้าท่านผู้เฒ่าเหรอ?"
"เหอ ครอบครัวนี้น่าสนใจดี ซูกวงว่าไร้ประโยชน์แล้ว หลินหยางยิ่งไร้ประโยชน์กว่า! มีแต่ทำให้จางชิงหยู่และซูเหยียนต้องลำบากเสียเปล่า"
แขกที่อยู่โดยรอบพากันหัวเราะเสียงเบา
"หลินหยาง คุณกำลังพูดอะไรอยู่เนี่ย? ยังขายหน้าไม่พออีกเหรอ?"
"คุณคิดว่าคุณปู่จะรับของลอกเลียนแบบต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้เหรอ?"
เฉิงผิงและจางเม้าเหนียนพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
อันที่จริงบางครั้งของลอกเลียนแบบเกรดเอก็มีราคาสูงกว่าของจริงด้วยซ้ำไป แต่ยังไงของปลอมก็คือของปลอม ต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ แม้ว่าภาพวาดภาพนี้จะสมบูรณ์แบบมากแค่ไหน ผู้เฒ่าจางก็ไม่มีทางรับ ยิ่งไปกว่านั้นนี่ยังเป็นถึงภาพชางเยว่ของกู้ไค่จือ เป็นเรื่องยากมากที่จะวาดเลียนแบบขึ้น ก่อนหน้านี้ก็มีของเลียนแบบแพร่หลายในตลาดแต่ไม่สามารถเปรียบเทียบกับของจริง
เพียงแต่ว่า
ทันทีที่เฉิงผิงเพิ่งพูดจบ หลินหยางกลับส่ายหัว
"ใครบอกคุณว่านี่เป็นของลอกเลียนแบบ?"
"อะไรนะ?"
"ไม่ใช่ของปลอม?"
แขกที่อยู่โดยรอบเกิดความโกลาหลขึ้นอีกครั้ง
"ล้อเล่นหรือเปล่า นายบอกว่านี่ไม่ใช่ของลอกเลียนแบบ แสดงว่ามันเป็นของจริงอย่างนั้นเหรอ? แสดงว่าความหมายของนายคือภาพวาดชางเยว่ที่ครอบครัวของคุณลุงมอบให้เป็นของปลอมเหรอ?" จางก้านลูกชายของจางคุนยิ้มแล้วพูด
มีผู้คนไม่น้อยก็หลุดหัวเราะเหมือนกัน
จางซงหงเป็นคนระดับไหน เป็นเสาหลักของตระกูลจาง เป็นบุคคลมีหน้ามีตาในมณฑลกวงหลิว ซูกวงล่ะ? พนักงานระดับล่างคนหนึ่งของเมืองเจียงเฉิน เป็นมนุษย์เงินเดือนที่ต้องทำงานไปตลอดทั้งชีวิต คนทั้งสองใครที่สามารถครอบครองของจริง เรื่องนี้ไม่ต้องไปคาดเดาแล้ว
"หลินหยางเลิกพูดได้แล้ว"
ซูกวงเริ่มรู้สึกกระวนกระวาย
มันไม่ง่ายเลยที่ชายชราจะบอกให้เขาถอยกลับ แต่หลินหยางกลับกระโดดออกมาพูดอย่างกะทันหัน เขาต้องการให้ตัวเองขายหน้าเหรอ?
"พ่อ คุณเปิดภาพวาดออก ให้ทุกคนได้เห็นกับตาตัวเองหน่อยว่าภาพของคุณเป็นของปลอมหรือเปล่า!" หลินหยางพูด
"เรื่องนี่…"
"เรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้วคุณยังมีทางเลือกอื่นอีกเหรอ?"
ซูกวงได้ยินแบบนี้แล้วสีหน้าเดี๋ยวซีดเดี๋ยวแดง สุดท้ายถอนหายใจแล้วพูด "ก็ได้"
ยังไงตอนนี้ก็ขายหน้าจะแย่อยู่แล้ว ตอนนี้คงทำได้แต่ทำตามที่หลินหยางพูด
ซูกวงปลดเชือกที่อยู่บนภาพวาดออก หลังจากนั้นกางภาพวาดให้ทุกคนได้เห็น
สายตานับไม่ถ้วนของผู้คนที่อยู่โดยรอบหันไปมอง
ชายชราก็หันไปมองด้วย
มีผู้คนมากมายเคยเห็นภาพชางเยว่ แต่ภาพนี้กลับมีกลิ่นอายที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ซึ่งไม่มีใครสามารถอธิบายได้
แขกที่อยู่โดยรอบงงเป็นไก่ตาแตก
"นี่…"
"ทำไมถึงเอาไปทั้งแบบนี้?"
"ท่านผู้เฒ่าแยกไม่ออกเหรอ?"
ผู้คนพากันพูดซุบซิบ
"คุณปู่ คุณยังไม่ได้บอกเลยว่าอันไหนเป็นของจริงอันไหนเป็นของปลอม" จางก้านดึงสติกลับมาแล้วรีบถาม
"ไม่สำคัญแล้ว ไม่ว่าจะเป็นของจริงหรือของปลอม ทั้งหมดก็ล้วนแต่เป็นความกตัญญูของพวกแก ฉันรู้สึกดีใจมาก" ผู้เฒ่าจางยิ้มแล้วพูด
จางก้านรู้สึกอึ้งไปแล้ว
ทุกคนเพิ่งจะเข้าใจว่าผู้เฒ่าจางต้องการให้เรื่องนี้ผ่านไปแบบนี้
"เหอ ดูเหมือนท่านผู้เฒ่าจะทนดูซูกวงเสียหน้าต่อหน้าทุกคนไม่ได้ ก็เลยเลือกที่จะไม่พูด" มีคนพูดขึ้น
"รู้จักคำว่ารู้แต่ไม่พูดหรือเปล่า? ไว้หน้าคนอื่นบ้าง" ชายวัยกลางคนหัวล้านคนหนึ่งยิ้มแล้วพูด
"ท่านผู้เฒ่ายังใจอ่อนเกินไป ถ้าเป็นฉันนะ ไอ้คนที่มันกล้าเอาของปลอมมาให้ฉันแบบนี้ ฉันคงจะไล่มันออกจากบ้านไปแล้ว" ชายวัยกลางคนที่มีอายุประมาณห้าสิบคนหนึ่งพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
"ใช่ๆ ครอบครัวของซูกวงไม่เอาไหนเลย"
"เหลวไหลสิ้นดี!"
แขกทั้งหลายพากันวิพากษ์วิจารณ์ไม่หยุด บางคนก็พูดตำหนิและมีบางคนถึงขั้นด่าทอเสียงเบา
คำพูดที่แสบแก้วหูพวกนี้ดังเข้าไปในหูของซูกวงทำให้เขาทำอะไรไม่ถูก
จางชิงหยู่ก็ไม่รู้จะพูดยังไง ทำใด้แต่เบิกตากว้างใส่หลินหยาง
ถ้าหากไม่ได้เป็นเพราะหลินหยางยืนกรานจะให้ซูกวงมอบภาพวาดให้ได้ ครอบครัวของเธอต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้เหรอ
ซูเหยียนไม่ได้พูดอะไร เธอเพียงแค่ก้มหน้ายืนอยู่ตรงนั้น
เธอชินกับเรื่องพวกนี้แล้ว
อย่างไรก็ตามวินาทีที่เธอตัดสินใจตามแม่กลับมาที่บ้านตระกูลจาง เธอได้เตรียมใจเอาไว้แล้ว
คนทั้งครอบครัวกลายเป็นตัวตลก
จางซงหงและคนอื่นหัวเราะไม่หยุด
จางเป่าชวีหรี่ตาลงมองคนทั้งครอบครัว โดยเฉพาะหลินหยาง ในแววตาของเขาเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น
เขารู้สถานะที่แท้จริงของหลินหยาง แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นเขาก็ไม่ได้กลัว เพราะที่นี่คือบ้านตระกูลจาง ที่นี่เป็นถิ่นของเขา!
เขาจะเอาความอัปยศที่ตัวเองได้รับคืนไปทั้งหมดที่นี่!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...