"ผมก็ไม่คิดจะปล่อยให้เรื่องมันผ่านไปแบบนี้ ผมจะรอพวกคุณ แต่ครั้งต่อไปมันไม่ง่ายแบบนี้" หลินหยางตอบกลับ
ไคเจียงกัดฟันแน่นพาตัวของไคโม่ออกจากที่นี่
หร่านจ้ายเซียนยังไม่ไปไหน เหมือนเขามีอะไรอยากจะพูด
แต่ในตอนนั้นเอง หลินหยางเดินไปหยิบเก้าอี้ตัวใหม่ที่อยู่ด้านข้างอย่างกะทันหัน ชี้นิ้วไปทางคุณชายเยว่แล้วพูด "คุณ มานี่"
"หา! !"
คุณชายเยว่รู้สึกกลัวจนถึงขีดสุด เขาตะโกนพร้อมกับก้าวถอยหลังด้วยร่างกายที่สั่นเทา "คุณคิดจะทำอะไร?"
"มานี่" หลินหยางพูดย้ำอีกครั้ง
"ไม่ หลินหยาง ผม…ผมไม่ได้ทำอะไรซูเหยียนเลย คุณ…คุณอย่าทำอะไรส่งเดชนะ อย่า…" คุณชายเยว่ตะโกนด้วยความหวาดกลัว
"ไม่มา? ได้ งั้นผมไปหาคุณเอง"
หลินหยางพยักหน้า เดินตรงเข้าไปหาเขาพร้อมกับเก้าอี้ในมือ
คุณชายเยว่กลัวจนคิดจะหันหลังหนี
แต่ในตอนนั้นเอง เซี่ยโยวหลานมองไปทางคนของตระกูลเยว่แวบหนึ่ง
ร่างกายของคนตระกูลเยว่สั่นสะท้าน สุดท้ายตัดสินใจยื่นมือออกไปจับตัวของคุณชายเยว่เอาไว้
"พวกคุณทำอะไร? คุณลุง พวกคุณ…"
"อยู่ต่อเถอะ เพื่อตระกูลเยว่ วางใจได้ เขารู้จักแยกแยะ แค่เจ็บตัวนิดหน่อย…" มีเสียงพูดที่แหบแห้งดังขึ้น
คุณชายเยว่เบิกตากว้าง มองเยว่หยานอย่างไม่เชื่อสายตา
ในขณะที่เขากำลังตกใจ เก้าอี้ของหลินหยางได้ฟาดตรงเข้ามาแล้ว
"อ้า! ฉันไม่ยอม!"
คุณชายเยว่โกรธแล้ว เขาตะโกนพร้อมกับคิดจะโต้ตอบ
แต่คนของตระกูลเยว่กลับพุ่งเข้ามาจับตัวเขากดลงกับพื้น ปล่อยให้หลินหยางใช้เก้าอี้ฟาดใส่ตัวของเขา
ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ถึงกับสูดอากาศที่เย็นวูบเข้าปอด กลัวจนถึงขั้นไม่กล้าหายใจแรง
บีมคั้นตระกูลเยว่ถึงขนาดนี้!
นี่ก็คือตระกูลเซี่ยแห่งเยี้ยนจินเหรอ?
นี่ก็คืออิทธิพลของตระกูลใหญ่เหรอ?
หลังจากที่ฟาดเก้าอี้เสียไปสองตัว คุณชายเยว่ถูกหามออกไป หลินหยางคิดบัญชีต่อทีละคนราวกับไม่รู้จักเหนื่อยล้า
มีเซี่ยโยวหลานคอยสนับสนุน ไม่มีใครกล้าทำหน้าไม่พอใจ
สถานที่เกิดเหตุเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด
งานฉลองวันเกิดกลายเป็นงานสะสางบัญชีแค้น
เกรงว่าแม้แต่จางจงหัวก็คิดไม่ถึงว่าเรื่องมันจะเกิดการเปลี่ยนแปลงและบานปลายมาถึงขนาดนี้…
"คุณย่าทำยังไงดี? พวกเราควรจะทำยังไง?"
ในตอนนั้นเอง เสียงที่สั่นเทาดึงสติของคนตระกูลจางกลับมาจากความตกใจ
ร่างกายของคุณนายซูสั่นสะท้าน จ้องมองเฉิงผิงที่กำลังพูดด้วยสายตาเหม่อลอย
ถูกต้อง…คนของตระกูลจางควรจะทำยังไง?
ตอนนี้ซูเหยียนมีคนของตระกูลเซี่ยสนับสนุน ….อีกเดี๋ยวถ้าเธอมาคิดบัญชีกับตระกูลจางควรจะทำยังไง?
ชั่วขณะ คนของตระกูลจางรู้สึกกระสับกระส่าย ร่างกายสั่นเทา แม้แต่คุณนายซูก็เริ่มยืนได้ไม่มั่นคงแล้ว…
ซูเหยียนไม่ใช่คนประเภทจิตใจโหดเหี้ยม ยิ่งไปกว่านั้นมีจางชิงหยู่อยู่ที่นี่ ถึงแม้เธอจะได้รับความเจ็บปวด แต่ก็ใช่ว่าเธอจะต้องแก้แค้นแน่นอน
แต่ว่า…หลินหยางคนนี้ไม่เหมือนกัน
เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ใช่คนใจดีมากขนาดนั้น
ร่างกายของเฉิงผิงสั่นเทา
จางเม้าเหยียน จางเป่าชวีสองพี่น้องหวาดกลัวจนถึงขีดสุด
มองดูพวกคุณชายที่โดนหลินหยางทำร้ายจนไม่เหลือสภาพชิ้นดี คนทั้งสองกลัวจนถึงขั้นเยี่ยวใกล้จะราดอยู่แล้ว
พวกเขาไม่เข้าใจ ก็ไหนบอกว่าลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านของตระกูลซูคนนี้ไร้ประโยชน์ทำอะไรไม่เป็นเลยไม่ใช่เหรอ? แต่ทำไมถึงดุร้ายขนาดนี้?
แน่นอน คนที่ตกใจมากที่สุดหนีไม่พ้นจางชิงหยู่
ที่ผ่านมาเธอคิดว่าหลินหยางเป็นคนประเภทโดนจูงจมูกมาโดยตลอด แต่ตอนนี้เธอเพิ่งจะพบว่าหมอนี่ก็มีความป่าเถื่อนเหมือนกัน
หลังจากที่คิดบัญชีกับทีละคนเรียบร้อย เวลาผ่านไปแล้วประมาณหนึ่งชั่วโมง
มีแขกไม่น้อยในขณะที่กำลังตกใจก็รู้สึกว่าหลินหยางเป็นคนที่แข็งแรงมาก
"พอประมาณแล้วมั้ง?" หร่านจ้ายเซียนข่มความโกรธที่อยู่ในใจกัดฟันแน่นแล้วถาม
"อืม พอประมาณแล้ว!"
หลินหยางโยนเก้าอี้ลงพื้น
ตอนนี้เขาฟาดเก้าอี้พังไปแล้วประมาณยี่สิบกว่าตัว
บนพื้นเต็มไปด้วยเศษเก้าอี้และคราบเลือด…
"เรื่องในวันนี้ถือว่าทำให้ผมได้เปิดหูเปิดตาครั้งใหญ่ ดี! ดีมาก!" หร่านจ้ายเซียนพยักหน้า ในแววตาเต็มไปด้วยความโกรธ พูดจบเขาคิดจะหันหลังแล้วเดินจากไป
"รอก่อน"
หลินหยางพูดขึ้นอย่างกะทันหัน
"คิดจะทำอะไร?" ฝีเท้าของหร่านจ้ายเซียนหยุดชะงักลง
"ใครอนุญาตให้คุณไป?" หลินหยางพูด
คำพูดประโยคนี้ทำให้ทุกคนถึงกับหน้าถอดสี
"หรือคุณคิดจะทำร้ายผมอีกคนด้วย?" หร่านจ้ายเซียนพูดด้วยอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน
"ขอโทษคุณตาและภรรยาของผมคุณถึงจะสามารถไปได้ ไม่อย่างนั้น ผมไม่สนว่าคุณเป็นใคร มีอิทธิพลมากแค่ไหน วันนี้ผมจะทำให้คุณคลานเอาไปแน่นอน" หลินหยางพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย
"คุณ…" หร่านจ้ายเซียนรู้สึกโกรธจนแทบจะเป็นลม
"อาวุโสหร่านก็แค่คำขอโทษ ช่างเถอะ" เซี่ยโยวหลานก็พูดขึ้นอีกคน
ร่างกายของหร่านจ้ายเซียนสั่นสะท้านอย่างรุนแรง เขาแทบอยากจะสู้ตายกับหลินหยาง
แต่ท้ายที่สุดเขาก็ยอมก้มหัว
"นางหนู วันนี้ถือเป็นความผิดของฉันเอง" หร่านจ้ายเซียนกัดฟันแน่นพูด
"ต้องขออภัย ผู้อาวุโส ฉันก็ไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้…" ซูเหยียนรีบพูดขึ้น
"ฮึ่ม!" หร่านจ้ายเซียนหันไปมองทางผู้เฒ่าจางด้วยความจำใจ พูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม "จางจงหัว วันนี้เป็นความผิดของผมเอง ผมต้องขอโทษคุณด้วย"
"เรื่องนี้โทษคนอื่นไม่ได้" ผู้เฒ่าจางพูดด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์
"ดี! ดี! จางจงหัว คุณมีหลานสาวและหลานเขยที่ดีมาก! ผมหร่านจ้ายเซียนขอยอมรับ! ขอยอมรับ!" หร่านจ้ายเซียนโกรธจนหัวเราะ "วันข้างหน้าของพวกเรายังอีกยาวไกล!"
"เชิญตามสบาย!" ผู้เฒ่าจางพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย
หร่านจ้ายเซียนส่งเสียงฮึ่มอย่างเย็นชา ทุบเหล้าขวดที่ตนเองนำมาลงกับพื้นอย่างแรงแล้วเดินออกจากประตูใหญ่ของตระกูลจาง
หร่านจ้ายเซียนตัดไปแล้ว คนของแต่ละตระกูลก็เริ่มทยอยกันเดินจากไป
ส่วนภายในห้องโถงใหญ่ของตระกูลจางเงียบสนิท
แต่ละคนเต็มไปด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน
ทุกคนคิดไม่ถึงว่าเกือบครึ่งหนึ่งของตระกูลใหญ่ภายในมณฑลกวงหลิวมา แต่กลับสู้ตระกูลเซี่ยแห่งเยี้ยนจินตะกูลเดียวไม่ได้
เยี้ยนจินช่างเป็นสถานที่ของเสือซ่อนเล็บมังกรซ่อนรูป
"คุณตาต้องขออภัยที่ทำให้งานเลี้ยงของคุณกลายเป็นแบบนี้" หลินหยางก้าวออกมาพูดด้วยความรู้สึกผิด
"ไม่เป็นไรเด็กน้อย ขอแค่พวกเธอปลอดภัยก็ดีแล้ว" จางจงหัวหัวเราะฮ่าฮ่าแล้วพูด ยิ่งอยู่ก็ยิ่งรู้สึกชอบใจหลินหยาง
ถึงแม้จะเป็นเพียงลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านคนหนึ่ง แต่ตอนที่เขาทำตัวเป็นวีรบุรุษช่วยสาวงามก็น่าชื่นชมไม่น้อย
เพียงแต่…ถ้าหมอนี่โหดร้ายเกินไปก็มันก็ไม่ใช่เรื่องดี
คราวนี้มีตระกูลเซี่ยคอยปกป้อง แล้วครั้งต่อไปล่ะ?
ดูท่าทางแล้วคงต้องหาเวลาคุยกับหมอนี่สักหน่อย
จางจงหัวคิดในใจ
"เอาล่ะ ในเมื่อคนที่มาโดยไม่ได้รับเชิญก็จะไปหมดแล้ว พวกเรามันเริ่มงานเลี้ยงกันเถอะ!" จางจงหัวยิ้มแล้วพูด
"เรื่องมันยังไม่จบ" หลินหยางพูด
คำพูดประโยคนี้ทำให้ฝั่งของเฉิงผิง จางเม้าเหนียนและคนอื่นหน้าถอดสี
"ฮืม? ไอ้หนู แกคิดจะคิดบัญชีกับพวกเราเหรอ? แกคิดจะทุบตีฉันให้ตายเหรอ?" คุณนายซูพูดด้วยความโกรธ
"หลินหยางได้คืบจะเอาศอก! ยิ่งไปกว่านั้นคุณหนูเซี่ยไม่ได้มาเพื่อสนับสนุนคุณ อย่าทำตัวอวดดีให้มันมากไปหน่อยเลย!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...