“หมอเทวดาหลินเกรงใจไปแล้ว! แค่หวังว่าในอนาคตหากตระกูลจวงประสบวิกฤต หมอเทวดาหลินจะสามารถยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ตระกูลจวงไม่กล้าอยู่เฉยเวลาที่หมอเทวดาหลินต้องการความช่วยเหลือ!”
พ่อบ้านหม่าพูดจบ โค้งคำนับด้วยความเคารพอีกครั้ง หลังจากนั้นเล่าเรื่องที่เกี่ยวข้องกับลูกกลอนทองคำอย่างละเอียด
จุดประสงค์ของเขามันชัดเจนมาก ทั้งหมดก็เพื่อหวังว่าในอนาคตตระกูลจวงจะได้รับการช่วยเหลือจากหมอเทวดาหลิน
อย่างไรก็ตาม เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้หลีกเลี่ยงไม่ได้แล้ว ศาลาเพียวหย่าจะต้องโกรธแค้นคฤหาสน์กระบี่โลหิตแน่นอน ถ้าหากคฤหาสน์กระบี่โลหิตหันไปพึ่งพาหมอเทวดาหลิน พวกเขายังต้องกลัวอะไรอีก?
หลินหยางก็เข้าใจจุดประสงค์ของพ่อบ้านหม่า
แต่ที่ชายชราทำไปทั้งหมดก็เพื่อปกป้องคนรุ่นหลัง เขารู้สึกนับถืออย่างยิ่ง เพราะเหตุนี้จึงตอบตกลง
“ผู้อาวุโสโปรดวางใจ ผมขอตัวก่อนแล้ว!”
“หมอเทวดาหลิน ผมไปส่งคุณ”
“ไม่จำเป็น วันนี้เกิดเรื่องขึ้นตั้งมากมาย คฤหาสน์กระบี่โลหิตจำเป็นต้องมีคนคอยควบคุม ผู้อาวุโสไปทำงานของคุณเถอะ”
“ก็ได้…งั้นผมไม่รบกวนหมอเทวดาหลินแล้ว ในอนาคตผมจะต้องพาคนของคฤหาสน์กระบี่โลหิตไปขอโทษหมอเทวดาหลินถึงเจียงเฉินแน่นอน”
“เกรงใจเกินไปแล้ว”
หลินหยางพยักหน้า เดินลงจากเขาโดยตรง
ชายชราใช้สายตาส่งเขา
หลังจากไปถึงตีนเขา รถที่หม่าไห่ส่งมาจอดอยู่ข้างทางเรียบร้อยแล้ว
ในขณะที่หลินหยางเตรียมตัวขึ้นรถ ในตอนนั้นเอง มีคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว
“หมอเทวดาหลิน ช้าก่อน”
ได้ยินเสียงตะโกน หลินหยางขมวดคิ้ว หันไปมอง
เขาพบว่าเป็นเสว่เซียวและคนของลัทธิโลหิตมาร
“มีธุระอะไร?” หลินหยางถามด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม
สำหรับลัทธิโลหิตมาร เขาจำเป็นต้องระแวงไว้ก่อน
อย่างไรก็ตาม เสว่หนานยู่ตายด้วยมือของเขา
“ทักษะการแพทย์ของหมอเทวดาหลินล้ำเลิศ ผมรู้สึกเลื่อมใสอย่างยิ่ง ที่ผมมาเพราะอยากจะขอโทษหมอเทวดาหลิน เกี่ยวกับเรื่องก่อนหน้านี้” เสว่เซียวพูดอย่างยิ้มแย้ม
“เรื่องมันผ่านไปแล้ว”
“หมายความว่าหมอเทวดาหลินไม่ถือสา? ถ้าเป็นแบบนี้ก็ดีที่สุด…เพียงแต่ไม่ทราบว่าหมอเทวดาหลินสนใจแวะไปเยี่ยมเยียนลัทธิโลหิตมารหรือเปล่า?” เสว่เซียวยิ้มแล้วถาม
“ไปลัทธิโลหิตมาร?” หลินหยางขมวดคิ้ว “มีธุระอะไรงั้นเหรอ?”
“จริงๆก็มีเรื่องเล็กน้อยอยากให้หมอเทวดาหลินช่วยเหลือ! หวังว่าหมอเทวดาหลินจะไม่ปฏิเสธ”
“แต่ผมไม่ว่าง”
“หมอเทวดาหลินต้องว่างแน่นอน” เสว่เซียวยิ้มแล้วพูด
คำพูดประโยคนี้ทำให้หลินหยางขมวดคิ้ว “คุณ…กำลังขู่ผมเหรอ?”
สำหรับลัทธิโลหิตมาร หลินหยางมีความรู้สึกที่ค่อนข้างต่อต้าน
ยังไม่ต้องพูดถึงว่าพวกเขาเดินอยู่บนเส้นทางของมารนอกรีต เคยทำเรื่องชั่วช้ามาไม่น้อย เฉพาะความขัดแย้งระหว่างเสว่หนานยู่และเสว่เซียวก็ทำให้หลินหยางไม่มีความประทับใจอะไรในตัวพวกเขาอยู่แล้ว
ดูผิวเผินเหมือนต้องการเป็นพันธมิตรกับหลินหยาง แต่อันที่จริงแล้วก็ขู่หลินหยางไปด้วยในตัว ถ้าหากหลินหยางไม่เห็นด้วย เขาก็จะร่วมมือกับสำนักหงเหยียนเล่นงานหยางหัว
สำนักหงเหยียนแข็งแกร่ง ส่วนลัทธิโลหิตมารก็ไม่ธรรมดา พวกเขาถึงขั้นลึกลับกว่าสำนักหงเหยียน
ถ้าหากหลินหยางต้องรับมือกับกองกำลังที่น่าสะพรึงกลัวทั้งสองพร้อมกัน…เมื่อเป็นเช่นนั้น ถึงหยางหัวแข็งแกร่งมากเพียงใด สุดท้ายก็จะโดนกองกำลังทั้งสองสายบดขยี้…
หลินหยางเงียบ
“หมอเทวดาหลิน อันที่จริงลัทธิโลหิตมารของเราไม่ได้จะขอให้คุณช่วยทำอะไรที่เป็นเรื่องยากเลย สำหรับคุณแล้วเป็นเรื่องที่ง่ายมาก ขอเพียงคุณยอมช่วยเหลือ ลัทธิโลหิตมารของเราจะตอบแทนคุณอย่างสมเหตุสมผลแน่นอน! หมอเทวดาหลิน คุณเคยได้ยินหลินจือโลหิตหรือเปล่า?” เสว่เซียวยิ้มแล้วขาด
“หลินจือโลหิต?” หลินหยางรู้สึกอึ้ง “ทำไม? ลัทธิโลหิตมารของพวกคุณมีของสิ่งนี้?”
“ตอนนี้ไม่มี แต่ถ้าหากหมอเทวดาหลินยอมช่วยเหลือจะต้องมีแน่นอน และอันที่จริงแล้วหลินจือโลหิตนี้ก็ถือว่าเป็นของหมอเทวดาหลิน!” เสว่เซียวยิ้มแล้วพูด
ได้ยินคำพูดประโยคนี้ ลมหายใจของหลินหยางหยุดชะงัก เขารีบสงบสติอารมณ์ของตนเองแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม “คุณลองพูดมา”
“รู้อยู่แล้วว่าหมอเทวดาหลินที่มีทักษะการแพทย์ล้ำเลิศแบบนี้ต้องสนใจยาวิเศษแบบนี้แน่นอน” เสว่เซียวเดินเข้ามาใกล้ พูดเสียงเบา “บอกตามตรง หมอเทวดาหลิน หลายปีมานี้ลัทธิโลหิตมารของพวกเราล่วงเกินคนไว้ไม่น้อย ศัตรูมีมากมาย เมื่อหนึ่งอาทิตย์ก่อนนี้เอง มียอดฝีมือหลายคนเดินทางมาที่ลัทธิโลหิตมารของพวกเรา ฆ่าคนของลูกศิษย์ไปหลายคน ยิ่งไปกว่านั้นยังแย่งหลินจือโลหิตไปด้วย!”
“ก็ไหนบอกว่าลัทธิโลหิตมารของพวกคุณไม่มีหลินจือโลหิต?”
“ด้านนอกของลัทธิมีหลินจือโลหิตขึ้นหนึ่งต้น พวกเราไม่รู้ แต่คนพวกนั้นเป็นคนพบก่อน ยังมีเวลาอีกสิบสามวันที่หลินจือโลหิตจะเติบโตอย่างสมบูรณ์ พวกเขาจึงเฝ้าอยู่ที่ข้างหลินจือโลหิต หวังว่าหลังจากที่หลินจือโลหิตเติบโตขึ้นจะเด็ดมันไป!”
“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง…แล้วทำไมพวกคุณไม่ส่งคนไปฆ่าพวกเขา? อีกฝ่ายมีแค่ไม่กี่คน พวกคุณไปทั้งลัทธิ มีเหรอที่จะรับมือไม่ไหว?”
“หมอเทวดาหลินไม่รู้ คนพวกนี้เป็นยอดฝีมือที่ศัตรูของลัทธิโลหิตมารส่งมาโดยเฉพาะ แต่ละคนฝีมือไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง ถ้าหากลัทธิโลหิตมารของพวกเราฝืนลงมือ…เกรงว่าต้องเกิดความสูญเสียไม่น้อย เมื่อไหร่ที่เกิดความสูญเสียขึ้น ศัตรูของลัทธิโลหิตมารก็จะใช้โอกาสนี้เล่นงานพวกเรา ถึงเวลาพวกเราจบแน่!”
“ยิ่งไปกว่านั้น ในบรรดาคนพวกนั้นมีผู้ใช้ศิลปะการต่อสู้ทางการแพทย์ที่แข็งแกร่งหนึ่งคน ที่พวกเขาเฝ้าอยู่ตรงนั้น ทั้งหมดก็เพราะผู้ใช้ศิลปะการต่อสู้ทางการแพทย์คนนั้น จากที่พวกเราแอบฟังบทสนทนาของพวกเขา ดูเหมือนผู้ใช้ศิลปะการต่อสู้ทางการแพทย์คนนั้นเตรียมตัวใช้หลินจือโลหิตเพิ่มความแข็งแกร่งให้ตัวเอง เมื่อไหร่ที่ผู้ใช้ศิลปะการต่อสู้ทางการแพทย์คนนั้นกลืนหลินจือโลหิตลงไป พลังของเขาก็จะเพิ่มขึ้น! ถึงเวลาการบุกเข้าไปฆ่าล้างลัทธิโลหิตมารของพวกเราก็ง่ายแล้ว!”
พูดมาถึงตรงนี้ เสว่เซียวถอนหายใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...