ในตอนนั้นเอง ไกลออกไปมีเสียงตะโกนดังขึ้น
หลินหยางรีบดื่มนมจนหมด วิ่งเข้าไปในห้องผ่าตัดทางนั้นอย่างเร่งรีบ
ฉินหนิงมองดูแผ่นหลังของเขาด้วยไม่พูดอะไร…
กว่าจะจัดการเรื่องภายในสถาบันการแพทย์พรรคซวนอีเสร็จไม่ใช่เรื่องง่าย ในตอนนั้น ซูเหยียนโทรศัพท์มาอย่างกะทันหัน
หลินหยางรีบกดรับสาย
“คุณอยู่ไหน?” ซูเหยียนถามด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วง
“มีอะไรเหรอ?”
“หลินหยาง ตอนนี้เมืองเจียงเฉินวุ่นวายมาก ดูเหมือนจะมีผู้ก่อการร้าย คุณรีบกลับมาเลยนะ อย่าไปเดินเที่ยวเตร่อยู่ข้างนอก! ฉันจะกลับไปหาคุณเดี๋ยวนี้!” ซูเหยียนรีบพูด
“เสี่ยวเหยียน ไม่มีอะไรแล้ว”
“นี่มันไม่ใช่เรื่องที่คุณสามารถตัดสินใจได้ ตอนแรกฉันกับเสี่ยวเฉียนได้รับเชิญออกทัวร์จากหยางหัว ตอนที่ไปถึงสนามบินกลับมีคนมาขวางพวกเรา เอาเป็นว่าคุณรีบกลับมาเดี๋ยวนี้ ฉันจะพาคุณไปหลบที่เมืองผู่เฉินสักพัก จะได้แวะไปเยี่ยมญาติด้วย” ซูเหยียนพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม
“เมืองผู่เฉิน?”
หลินหยางอึ้งเล็กน้อย “คุณก็จะไปเมืองผู่เฉิน?”
“หืม? หลินหยาง ‘ก็’ ของคุณหมายความว่ายังไง?” ซูเหยียนถามด้วยความประหลาดใจ
“อ๋อ…ไม่มีอะไร…ช่วงนี้เพื่อนของผมก็ไปทำงานที่เมืองผู่เฉินเหมือนกัน ดังนั้นก็เลยพูดออกไปแบบนั้น…” หลินหยางรีบแก้ตัว
“งั้นเหรอ? เอาเป็นว่าคุณรีบกลับมาเดี๋ยวนี้”
ซูเหยียนพูดจบรีบกดวางสายทันที
หลินหยางลังเลอยู่สักพัก แต่สุดท้ายก็ขับรถกลับบ้าน
แน่นอนว่าบ้านที่พูดถึง อันที่จริงสำหรับเขามันไม่ใช่บ้านอีกแล้ว อย่างน้อยจางชิงหยู่และซูกวงก็ไม่เห็นเขาเป็นลูกเขยแล้ว
เป็นอย่างที่คิด ทันทีที่เดินเข้าประตู จางชิงหยู่ตะคอกด้วยสีหน้าที่เย็นชาทันที “เสี่ยวเหยียน! เธอเป็นคนเรียกเขามาเหรอ?”
“แม่ พอแล้ว ช่วยพูดให้มันน้อยลงหน่อย!”
“พูดให้น้อยลงหน่อย? ฉันขอบอกเอาไว้ก่อน สามีของเธอต้องเป็นประธานหลินเท่านั้น คนอื่นไม่ได้เด็ดขาด!”
“หลินหยางเคยช่วยเหลือพวกเราตั้งมากมาย แม่เคยรู้สึกขอบคุณเขาบ้างหรือเปล่า?” ซูเหยียนพูดด้วยความโมโห
จางชิงหยู่อ้าปากต้องการพูดอะไร แต่หลังจากครุ่นคิดเรื่องที่เกิดขึ้นในตระกูลจาง เธอจึงอดกลั้นไม่พูดอะไรอีก
ซูกวงหันไปเหลือบมองหลินหยาง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเช่นกัน
หลินหยางเหลือบมองคนทั้งสองแล้วเดินเข้าไปหาซูเหยียนโดยตรง
“อยู่ดีๆจะไปทำอะไรที่เมืองผู่เฉิน? ผมว่าอย่าไปดีกว่ามั้ง?”
“ตอนนี้เมืองเจียงเฉินอันตรายมาก ฉันจำเป็นต้องไปหลบที่นั่นชั่วคราว”
“หลบ?”
“คุณไม่ได้ดูข่าวเหรอ? เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนั้นขึ้นในสถาบันการแพทย์พรรคซวนอี ทุกคนเขารู้กันหมดแล้ว แม้แต่ประธานหม่าก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด”
“นั่นเป็นเพราะพวกเขามุ่งเป้าไปที่ประธานหลินไม่ใช่เหรอ?”
“มันก็ใช่ เป้าหมายของพวกเขาคือประธานหลินและหยางหัว แต่ประธานหม่าบอกแล้ว อีกฝ่ายอาจจะลงมือกับฉันก็เป็นได้ ไม่แน่พวกเขาอาจจะจับตัวฉันไปขู่หมอเทวดาหลิน ก่อนหน้านี้เขาเคยส่งฉันกับเสี่ยวเฉียนไป แต่สุดท้ายไปไม่ได้ ดูเหมือนสถานการณ์ตอนนี้จะผ่อนคลายลงแล้ว ถ้าหากไม่รีบไปตอนนี้ จะให้ไปเมื่อไหร่? เสี่ยวเฉียนกับปู่ของเธอก็ออกนอกมณฑลไปแล้ว พวกเราไปอยู่ที่เมืองผู่เฉินชั่วคราวก่อนเถอะ”
“คุณเรียกผมไป? หรือคุณคิดว่าอีกฝ่ายจะเอาผมไปขู่หมอเทวดาหลิน?” หลินหยางถามอย่างขบขัน
“ไม่ใช่อยู่แล้ว แต่ว่า…”
“แต่ว่าอะไร?”
ซูเหยียนลังเลสักพัก พูดเสียงเบา “แต่อีกฝ่ายจะใช้คุณมาขู่ฉัน”
คำพูดประโยคนี้ทำให้หลินหยางอึ้งไปสักพัก
หลังจากซูเหยียนเก็บข้าวของเรียบร้อย พาจางชิงหยู่และซูกวงลงจากตึก หลินหยางก็ตามไปด้วยเช่นกัน
ความตั้งใจของเธอคือไปพักอยู่ที่เมืองผู่เฉินชั่วคราว รอเขาจับทางด้านของหยางหัว ถ้าหากทุกอย่างสงบลงแล้วค่อยกลับมา
เดิมทีหลินหยางอยากบอกให้ซูเหยียนไม่ต้องไปแล้ว เพราะอยู่ในเมืองเจียงเฉินมีคนคอยปกป้อง มันปลอดภัยกว่า แต่ถ้าไปถึงเมืองผู่เฉินทุกอย่างจะไม่เหมือนกัน
ทว่าด้วยสถานะของเขาในตอนนี้ห้ามปรามไม่ได้ ส่วนสถานะของหมอเทวดาหลินก็อาจทำให้เกิดข้อสงสัย
หลังจากครุ่นคิด หลินหยางตัดสินใจตามเธอไป
บังเอิญว่าตนเองก็มีธุระจะไปทำที่เมืองผู่เฉิน
ซูเหยียนไม่ได้นั่งรถไฟ เธอกังวลว่าจะมีคนไปดักรอที่สถานีรถไฟ ดังนั้นจึงขับรถไปเมืองผู่เฉินแทน
เธอเปลี่ยนไปใช้รถคาดิลแลคสีแดงมือสองที่ซื้อมาในราคาสองแสนกว่าหยวน ถึงแม้ราคานี้ถือว่าถูกมาก แต่ดูจากภายนอกค่อนข้างโอ่อ่า
ระยะทางของเมืองผู่เฉินต้องใช้เวลาสี่ชั่วโมง ซูเหยียนขับเร็วพอสมควร เธอใช้เวลาประมาณสามชั่วโมงกว่าก็เดินทางมาถึงเมืองผู่เฉิน
“เสี่ยวเหยียน เธอโทรบอกป้าของเธอว่าพวกเรากำลังจะถึงแล้วก่อน” จางชิงหยู่เอ่ยปากพูดในขณะที่กำลังมองนอกหน้าต่าง
“แม่ หนูกำลังขับรถ แม่โทรเองเถอะ” ซูเหยียนพูด
ซูเหยียนก็หยิบโทรศัพท์ออกมาอย่างไม่ลังเลทันที
แต่ทันทีที่เธอเพิ่งหยิบโทรศัพท์ออกมา โดนผู้หญิงที่อยู่ด้านข้างแย่งไปโยนลงพื้นโดยตรง
แควก
โทรศัพท์แตกกระจาย…
รูม่านตาของซูเหยียนหดเล็กลง
หลินหยางก็ขมวดคิ้วเช่นกัน
ได้ยินเพียงผู้หญิงคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงที่ดุร้าย
“เรียกตำรวจ? ใครอนุญาตไม่ทราบ?”
ท่าทางหยิ่งผยองเพียงใด?
ทำเรื่องแบบนี้กลางวันแสกๆ รังแกกันชัดๆ!
“คุณคุณคุณ…คุณทำอะไร? ตกลงพ่อแม่ของคุณเคยสั่งสอนบ้างหรือเปล่า?” จางชิงหยู่โมโหมาก กระโดดลงจากรถ วิ่งเข้ามาชี้หน้าด่าผู้หญิงคนนั้น
แต่ทันทีที่เธอพูดจบ
เพี๊ยะ!
ผู้หญิงคนนั้นกลับพลิกมือตบใส่หน้าของจางชิงหยู่โดยตรง
จางชิงหยู่ถึงกับมึน ยืนกุมใบหน้าของตนเองทำอะไรไม่ถูก
“คุณทำอะไรของคุณ?” รู้สึกเดือดขึ้นมาทันที ประมาณว่าเห็นคนพวกนี้เด็กกว่าตนเอง ดังนั้นจึงไม่ได้รู้สึกกลัว เธอวิ่งออกจากรถเดินเข้าไปหาผู้หญิงคนนั้น “คุณทำร้ายคนอื่นได้ยังไง?”
“ทำร้าย? แล้วยังไง? ถ้ายังมาพูดไร้สาระกับฉัน เชื่อหรือเปล่าว่าฉันจะขับรถชนคุณให้ตาย!” ผู้หญิงคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงที่ดุร้าย
“คุณ…คุณ…เกินไปแล้ว! คุณคิดว่าตัวเองเป็นใคร? จักรพรรดิเหรอ? คุณคิดว่าคุณอยากทำอะไรก็ได้เหรอ?” จางชิงหยู่โมโหจนกระทืบเท้า เธอแทบอยากวิ่งเข้าไปตบหน้าผู้หญิงคนนั้นเดี๋ยวนี้
“ฮึ่ม ไอ้พวกบ้านนอก บังเอิญว่าที่นี่ฉันคือจักรพรรดิจริงด้วยสิ ทำไมเหรอ?” ผู้หญิงพูดด้วยน้ำเสียงที่เย่อหยิ่ง
“คุณ…”
จางชิงหยู่โมโหจนหน้าแดง อารมณ์ที่พลุ่งพล่านเกือบทำให้เธอหมดสติ
“พวกคุณอย่าให้มันมากเกินไปนะ ทั้งที่พวกคุณเป็นคนไล่จี้ตูดฉัน ตอนนี้กลับมาถามเรื่องเงินกับฉันอีก แถมยังทุบโทรศัพท์ของฉัน…ไม่เห็นกฎหมายอยู่ในสายตาบ้างเหรอ! ฉันจะบอกคุณ เรื่องนี้ฉันซูเหยียนไม่ยอมจบแค่นี้แน่” ซูเหยียนโกรธแบบที่ไม่เคยโกรธมาก่อน เธอตะคอกเสียงดัง
“หืม? แล้วคุณจะเอายังไง?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...