“คุณครับ กรุณาแสดงบัตรสมาชิกด้วย ถ้าหากคุณไม่ใช่สมาชิกของที่นี่ คุณไม่สามารถเข้าไปด้านใน” คนเฝ้าประตูรีบเดินเข้ามาห้ามหลินหยาง พูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม
“ผมมาหาคน หาเถ้าแก่หนงห่าวของพวกคุณ” หลินหยางพูดด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์
“หาเถ้าแก่พวกเรา?”
คนคนนั้นอึ้ง ลังเลสักพักแล้วพูดเสียงเบา “รอสักครู่”
เขาหยิบวิทยุสื่อสารขึ้นมาพูด
ผ่านไปสักพัก
“คุณครับ เถ้าแก่ของเรากำลังยุ่ง เขาบอกว่าเขาไม่ว่างพบคุณ ถ้าหากต้องการพบเขาจริง เชิญภรรยาของคุณมาแทน” มุมปากของคนคนนั้นกระตุกขึ้นยิ้มเล็กน้อยแล้วพูด
เห็นได้ชัด เขาพอเข้าใจสถานการณ์แล้ว คิดว่าคุณชายหนงห่าวคนนี้น่าจะเคยทำเรื่องแบบนี้ไม่น้อย…
“เถ้าแก่ของคุณไม่พบผมจริงเหรอ?” หลินหยางขมวดคิ้วถาม
“ไอ้หนู เถ้าแก่ของเราพูดชัดเจนพอแล้ว ผมพูดเกรงใจกับคุณหน่อย คุณอย่ามาทำเป็นได้ใจมากเกินไป รีบไสหัวไปเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นผมกระทืบคุณตายแน่!” ดูเหมือนคนคนนั้นเริ่มรู้สึกไม่สบอารมณ์ เขาตะคอกเสียงดังโดยตรง
หลินหยางกำหมัด เตรียมตัวใช้กำลังบุกเข้าไป
ทว่าในตอนนั้นเอง มีรถหรูคันหนึ่งมาจอดข้างทาง
หลังจากนั้นคนหนุ่มสาวกลุ่มหนึ่งเดินลงมา
หนึ่งในนั้นหลินหยางเคยเจอ เธอคือหนึ่งในผู้หญิงที่เจอตอนอยู่บนถนนความเร็วสูง
“หืม? หน้าคุ้นมาก! คุณมาได้ยังไง? หรือว่ามาขอร้องคุณชายซ่ง?”
ผู้หญิงคนนั้นหรี่ตาลงมองหลินหยาง บนใบหน้าเคยให้เห็นรอยยิ้มที่ขี้เล่น
“ขอโทษครับคุณช่าย ผมจะไล่เขาไปเดี๋ยวนี้!” คนเฝ้าประตูรีบก้าวออกมาพูด
“ไล่? ทำไม? คุณชายหนงไม่ยอมพบเขาเหรอ?” ผู้หญิงคนนั้นถาม
“ครับ…วันนี้คุณชายหนงต้อนรับเพื่อนของเขา อาจจะไม่มีเวลามาสนใจคนพวกนี้”
“แบบนี้ไม่เท่ากับเขาพลาดความสนุกแล้วเหรอ?” ผู้หญิงคนนั้นยิ้มเล็กน้อย หันไปมองหลินหยาง “ตามฉันเข้าไปก็ได้! คุณอยากพูดอะไร สามารถพูดกับฉัน”
พูดจบ เธอเดินเข้าไปในคลับ
หลินหยางครุ่นคิดสักพัก เดินตามเข้าไปโดยไม่เกรงใจ
ด้านในคลับมีการตกแต่งอย่างหรูหรา พื้นเป็นอิฐคริสตัลที่มันเงาเป็นพิเศษทั้งหมด ตลอดสองข้างทางบนโถงทางเดิน เต็มไปด้วยภาพวาดของนักจิตรกรที่มีชื่อเสียง มีทั้งแบบยุคสมัยโบราณและสมัยใหม่ มีผู้หญิงหุ่นนางแบบเดินไปเดินมาตลอดเวลา
เห็นกลุ่มของผู้หญิงคนนี้เดินเข้ามา แต่ละคนรีบพยักหน้าก้มเอวต่ำ
“สวัสดีค่ะคุณช่าย!”
ทว่าผู้หญิงคนนั้นไม่มองแม้แต่แวบเดียว เธอเดินตรงไปที่ห้องด้านในสุด รอจนกระทั่งไปถึงหน้าประตู เหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าหลินหยางตามมาด้วย ฝีเท้าของเธอหยุดชะงัก หันไปพูดกับคนที่อยู่ด้านข้าง “ใช่แล้ว ถ้าผู้ชายคนนี้ไปอยู่ห้องด้านข้างก่อน หลังจากฉันทักทายพวกเขาแล้ว ฉันจะมาดูแลแขกท่านนี้ของฉันเอง”
พูดจบ ผู้หญิงเดินเข้าไปในห้องด้วยท่าทางที่หยิ่งผยอง
“เชิญทางนี้” สาวสวยที่อยู่ด้านข้างพูดกับหลินหยางด้วยความเคารพ
แต่…หลินหยางไม่ได้สนใจเธอ เขาเดินตามผู้หญิงคนนั้นโดยตรง
ตอนไปถึงหน้าประตู ยกเท้าขึ้นถีบอย่างแรง
ปัง!
ทุกคนที่อยู่ในห้องสะดุ้งตกใจ
แทบจะในพริบตา บอดี้การ์ดทั้งหมดที่อยู่ภายในห้องชักปืนออกมา เล็งตรงมาที่หลินหยางพร้อมกัน
หลินหยางกวาดสายตามองด้านใน
ห้องนี้มีเนื้อที่เกือบสองร้อยตารางเมตร ค่อนข้างหรูหรา ด้านในมีคนหนุ่มสาวแต่งตัวหรูนั่งอยู่ประมาณเจ็ดแปดคน ข้อมือสวมนาฬิกาแบรนด์เนม ตรงเอวแขวนกุญแจรถสปอร์ต
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนพวกนี้เป็นคนของตระกูลเศรษฐีในเมืองผู่เฉิน
หนงห่าวก็อยู่ด้านใน
เขากำลังใช้มือหนึ่งกอดผู้หญิงที่เดินเข้ามาก่อนหน้านี้ ปากคาบบุหรี่ มือข้างหนึ่งถือไวน์แดง บนใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
เห็นหลินหยางถึงขั้นกล้าถีบประตู หนงห่าวขมวดคิ้วแน่นทันที
“ไอ้เวร ฉันบอกให้คุณไปรออยู่ห้องด้านข้างไม่ใช่เหรอ? คุณกล้ามาที่นี่? ใครอนุญาตให้คุณถีบประตู?” ผู้หญิงคนนั้นตะคอกด้วยความโกรธ หลังจากนั้นกระโดดลุกขึ้น ชี้หน้าหลินหยางแล้วสบถโดยตรง “คอยก็ได้ ไปหักขาข้างที่เขาใช้ที่ประตูเดี๋ยวนี้”
“ครับ!”
บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านข้างรีบก้าวออกไป
“ช้าก่อน” หนงห่าวตะคอกเสียงดัง
“คุณชายหนง มีอะไรเหรอ?”
“ไม่ต้องรีบร้อน เขาคือคนที่เจอตอนอยู่บนถนนความเร็วสูงใช่หรือเปล่า? ผมบอกแล้วว่าไม่พบเขาไม่ใช่เหรอ? เขาเข้ามาได้ยังไง?” คุณชายหนงเขย่าแก้วไวน์ในมือ ถามอย่างยิ้มแย้ม
ดวงตาของหนงห่าวเย็นชาลง พูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์ “แต่น่าเสียดาย ถึงคุณจะมีฝีมือแค่ไหนก็เร็วไม่เท่ากระสุนปืน!”
ทันทีที่พูดจบ คนที่เหลือได้ชักปืนออกมาเล็งหลินหยางแล้ว
เห็นหลินหยางถูกล้อมด้วยปืนจำนวนมาก ความหวาดกลัวและตกตะลึงของทุกคนหายไปทันที
ถึงกำปั้นจะแข็งแค่ไหน แต่มันจะแข็งกว่าเหล็กเหรอ?
ถึงการเคลื่อนไหวจะเร็วแค่ไหน แต่มันจะเร็วกว่าลูกกระสุนปืนเหรอ?
มีปืนก็ไม่จำเป็นต้องกลัวคนคนนี้
ชั่วขณะทุกคนรู้สึกโล่งอก
ในตอนนั้นเอง คนที่อยู่ด้านข้างวางโทรศัพท์ลง พูดเสียงเบา “คุณชายหนง ปรมาจารย์ชู่แล้ว!”
“ปรมาจารย์ชู่?”
“สวรรค์ ดูเหมือนคนที่คุณชายหนงเชิญมาคือปรมาจารย์ชู่ที่เป็นปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้คนนั้น!”
“ถึงว่าทำไมคุณชายหนงถึงดูนิ่งมาก!”
“มีปรมาจารย์ชู่อยู่ที่นี่ คนคนนี้ยิ่งทำอะไรไม่ได้!”
“ฮ่าอ่าฮ่าฮ่า…”
ทุกคนหัวเราะเสียงดัง
คุณชายหนงหรี่ตาลง จ้องหลินหยางแล้วพูด “ไอ้หนู คุณเสร็จแน่! รู้หรือเปล่าว่าชู่ไท่เป็นใคร? ฝีมือของคุณไม่ธรรมดาก็จริง แต่ไม่รู้ว่าจะสามารถสู้กับชู่ไท่ได้สักกี่กระบวนท่ากัน?”
“คุณหมายถึงใคร? ชู่ไท่?” หลินหยางถามกลับ
“คิดว่าคุณน่าจะเคยได้ยินชื่อเสียงของปรมาจารย์ชู่บ้างอยู่มั้ง” หนงห่าวยิ้มอย่างเย็นชา
“เหมือนจะเคยได้ยิน แต่ผมคิดว่า…เขาเองก็น่าจะเคยได้ยินชื่อเสียงของผมบ้างเหมือนกัน” หลินหยางพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย
“ชื่อของคุณ?”
“น่าขำ”
“ฮึ่ม ก็แค่คนไร้ตัวตนคนหนึ่ง!”
ทุกคนยิ้มอย่างดูถูก
และในตอนนั้นเอง ชู่ไท่และลูกศิษย์ในชุดศิลปะการต่อสู้เดินเข้ามาในห้องอย่างเร่งรีบ…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...