จะไล่ใครออกก็ได้แต่ห้ามไล่เขาคุณชายฟู่ออก! มีใครไม่รู้บ้างว่าพี่บุญธรรมของเขาเป็นเจ้าพ่อขู่หลงแห่งเมืองเจียงเฉิน! มีใครไม่รู้จักตระกูลฟู่แห่งเมืองเจียงเฉิน ไล่เขาออกเหรอ? ใครกล้าทำแบบนั้น?
"ฮึ่ม คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้จะดื่มไม่ได้ ดูเหมือนแผนมอมเหล้าจะไม่สำเร็จแล้ว ให้พี่บุญธรรมของฉันช่วยหาวิธีดีกว่า ขี้เกียจอ้อมค้อมแล้ว จับตัวขึ้นเตียงฉันโดยตรง ดูซิว่าเธอยังจะเสแสร้งทำเป็นไร้เดียงสาอีกหรือเปล่า!" ฟู่หวู่คิดในใจ
ในตอนนั้นเองโทรศัพท์ของเขาดังขึ้น
ฟู่เหวินสะดุ้งเล็กน้อย เขาหยิบโทรศัพท์ออกมากดรับสาย
"เจ้าอ้วนมีอะไร? พวกนายไปจินซื่อหยวนKTVแล้วไม่ใช่เหรอ?"
"ลูกพี่ พวกเรา…พวกเราโดนลูกน้องพี่บุญธรรมของคุณจับโยนออกมาแล้ว!" มีเสียงคร่ำครวญของชายร่างอ้วนดังขึ้นจากปลายสาย
"หา?"
ฟู่หวู่อึ้งไปแล้ว
"ลูกพี่ พวกเราไม่ได้ทำอะไรที่ทำให้พี่หลงไม่พอใจเลย ไม่รู้ทำไมอยู่ดีๆพี่หลงถึงโกรธขนาดนี้ถึงต้องโยนพวกเราออกมาข้างถนน ทางที่ดีคุณลองโทรศัพท์หาพี่หลงดีกว่า ไม่แน่คุณอาจจะไปทำเรื่องอะไรที่ทำให้พี่หลงรู้สึกโกรธโดยไม่รู้ตัวก็ได้" ชายร่างอ้วนพูดทั้งน้ำตา
"ผายลม ฉันไม่ได้ติดต่อเขามาเป็นอาทิตย์แล้ว มีแต่คืนนี้เท่านั้นที่ฉันไปขอห้องกับเขา" ฟู่หวู่พูด
"แล้วเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่…"
"ไม่ต้องรีบร้อน ฉันจะลองโทรหาพี่หลงก่อน"
ฟู่หวู่เริ่มรู้สึกกระวนกระวาย หลังจากนั้นกดวางสายจากชายร่างอ้วนแล้วโทรหาขู่หลงแทน
แต่แล้ว…หลังจากที่โทรไปหลายครั้งก็ไม่มีคนรับสาย
"นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมพี่หลงถึงไม่รับสายของฉัน?" ฟู่หวู่รู้สึกถึงความผิดปกติ สุดท้ายเขาตัดสินใจไปหาพี่หลงของตัวเองที่จินซือหยุน
แต่ทันทีที่เขาเพิ่งก้าวเท้าออกไป ไฟหน้าห้องฉุกเฉินดับลง
ชวี่ชวงซวนที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้ถูกเข็นออกมา
นักศึกษาและอาจารย์รีบเดินตรงเข้าไป
"คุณหมอ ชวงซวนเป็นยังไงบ้าง?"
"คุณหมอ ชวี่ชวงซวนเป็นอะไรหรือเปล่า?"
"คุณหมอ การรักษาผ่านไปด้วยดีใช่หรือเปล่า?"
ทุกคนแย่งกันถามคนนี้คำคนนั้นคำ
โชคดีที่หมอเคยชินกับเรื่องแบบนี้แล้ว เพียงแค่ส่ายหัวเล็กน้อยแล้วพูด "การรักษาผ่านไปด้วยดี แต่สถานการณ์ของเพื่อนพวกคุณไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่ อาการของเธอมันไม่ได้ง่ายเหมือนกับที่แพ้แอลกอฮอล์ แต่เธอป่วยเป็นโรคที่หาได้ยากมากในปัจจุบัน ตอนนี้อาการของเธอยังไม่อันตรายถึงขั้นชีวิต พรุ่งนี้ก็คงจะได้สติแล้ว"
"จริงเหรอ? ดีมากเลย!"
"พรุ่งนี้ก็ได้สติแล้ว? สวรรค์คุ้มครอง!"
"ฉันตกใจแทบแย่!"
มีนักศึกษาหลายคนตบหน้าอกของตัวเองแล้วพูด ก้อนหินที่อยู่ในใจถูกยกออกไปแล้ว บนใบหน้าเริ่มปรากฏให้เห็นรอยยิ้มอีกครั้ง
สิ่งที่พวกเขากังวลมากที่สุดคือกลัวเรื่องมันจะบานปลายกลายเป็นเรื่องใหญ่ถึงขั้นชีวิต เมื่อเป็นแบบนั้นพวกเขาก็หนีไม่พ้นความรับผิดชอบ แต่ดูเหมือนตอนนี้ไม่จำเป็นแล้ว
อาจารย์ฟูที่มาด้วยกันก็แสดงสีหน้าที่ดีใจเหมือนกัน
แต่ในตอนนั้นเอง หมอพูดเสริมอีกประโยค "ถึงแม้เธอจะได้สติแต่ยังไม่สามารถขยับตัวได้ จำเป็นต้องพักฟื้นอยู่บนเตียงระยะหนึ่ง"
คำพูดประโยคนี้ทำให้โถงทางเดินที่เต็มไปด้วยเสียงวุ่นวายเงียบสงบลงทันที
ไม่รู้ผ่านไปนานแค่ไหน มีคนถามด้วยเสียงที่แผ่วเบา "คุณหมอ มันหมายความว่ายังไงเหรอ?"
"ผมขอพูดตามตรงเลยก็แล้วกัน อาการตอนนี้ของเธอเป็นอัมพาตไปทั้งตัว!"
"อะไรนะ?"
ทุกคนหน้าซีดทันที แต่ละคนเบิกตากว้างมองหมออย่างไม่เชื่อสายตา
"เป็น…เป็น…เป็น…เป็นแบบนี้ได้ยังไง? คุณหมอ คุณไม่มีวิธีรักษาแล้วเหรอ? ช่วยคิดหาวิธีหน่อยเถอะ ยังไงก็ต้องรักษานักศึกษาชวี่ใครได้!" อาจารย์ฟูพูดด้วยความร้อนรน
เรื่องแบบนี้ถ้าถูกเผยแพร่ออกไปจะต้องส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของมหาลัยอย่างมากแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นชวี่ชวงซวนมีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดา พ่อและลุงของเธอเป็นถึงบุคคลส่งอิทธิพลในเมืองหนานเฉิน ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นกับชวี่ชวงซวน ตระกูลชวี่จะยอมปล่อยพวกเขาที่มีส่วนเกี่ยวข้องเหรอ? เกรงว่าคนที่เป็นอาจารย์อย่างเธอคงจะต้องรับเคราะห์กรรมเป็นคนแรกแน่นอน
"พวกเราไม่ยอมแพ้แน่นอน แต่ปัจจุบันเรายังรู้ไม่แน่ชัดเกี่ยวกับสาเหตุอาการของนักศึกษาชวี่ นี่เป็นโรคที่พบเห็นได้ยากมาก พวกเราทำได้แต่พยายามให้ดีที่สุด" หมอถอนหายใจแล้วพูด หลังจากนั้นหันหลังเดินจากไป เหลือไว้เพียงอาจารย์และนักศึกษาที่ยืนตกตะลึงอยู่ตรงนั้น
ผู้เฒ่าชวี่มาถึงโรงพยาบาลพร้อมกับพ่อบ้าน และได้รู้สถานการณ์ของชวี่ชวงซวนมาจากหมอแล้ว
หลังจากที่รู้ว่าชวี่ชวงซวนเป็นอัมพาตไปทั้งตัว มีน้ำตานองเต็มเบ้าตาของชายชราทันที
แต่เขาก็ยังอดทนไม่ให้มันไหลออกมา หลังจากนั้นเดินตรงเข้าไปในห้องผู้ป่วยของชวี่ชวงซวนด้วยร่างกายที่สั่นเทา
มองดูสีหน้าที่ซีดขาวของชวี่ชวงซวน ผู้เฒ่าชวี่โกรธจนตัวสั่น
"ไปเรียกอาจารย์ฟูมา"
"ได้ครับนายท่าน"
ไม่นาน รถของตระกูลชวี่จอดลงที่หน้าประตูจินซื่อหยวน
ในขณะเดียวกัน เพิ่งมีรถแท็กซี่คันหนึ่งแล่นออกจากจินซื่อหยวน
คนที่นั่งอยู่บนรถคือหลินหยางและชวี่เทียนที่ใบหน้าฟกช้ำ
"คุณครับ คุณแน่ใจเหรอครับว่าจะไม่ไปโรงพยาบาล?" คนขับรถมองสภาพที่น่าเวทนาของชวี่เทียนผ่านกระจกหลังแล้วอดไม่ได้ที่จะถาม
"ไม่ต้อง รบกวนช่วยขับเร็วหน่อย!" หลินหยางมองเวลาบนโทรศัพท์แล้วพูด
"ได้ครับ"
หลังจากนั้นประมาณสี่สิบนาที รถแท็กซี่ขับมาจอดลงที่หน้าคลับหรูแห่งหนึ่ง
หลินหยางและชวี่ลงจากรถแล้วก้าวเท้าเดินเข้าไปทันที
"คุณ…"
พนักงานมองชวี่เทียนแล้วพูดด้วยความประหลาดใจ
"ไม่ทราบว่ากงซีหยุนเถ้าแก่ของคุณอยู่หรือเปล่า?" หลินหยางยิ้มเล็กน้อยแล้วถาม
"เถ้าแก่?"
หัวใจของพนักงานคนนั้นเริ่มเต้นรัวทันที หลังจากนั้นถามด้วยความระมัดระวัง "พวกคุณคือ…"
"ผมคือประธานของหยางหัวกรุ๊ป ส่วนคนนี้คือชวี่เทียนแห่งหนานเฉิน รบกวนคุณช่วยไปบอกเถ้าแก่ของคุณ ให้เธอรีบออกมาพบผมเดี๋ยวนี้!"
หลังจากได้ยินคำพูดประโยคนี้พนักงานคนนั้นไม่กล้าลังเลอีกแม้แต่นิดเดียว เขารีบเดินออกมาพร้อมกับพูดใส่วิทยุสื่อสาร
ไม่นาน ประตูหน้าคลับหรูโดนปิดแล้วมีคนนำป้ายหยุดกิจการชั่วคราวมาแขวน
คนกลุ่มหนึ่งร่างกายสูงใหญ่สวมชุดสูทหุ่นเหมือนนายแบบเดินลงมาจากบันได
ตรงหน้าของผู้ชายกลุ่มนั้นคือผู้หญิงที่แต่งตัวเซ็กซี่คนหนึ่ง
เธอหรี่ตาลงมองมาทางหลินหยางและชวี่เทียน ในขณะเดียวกันก็ก้าวเท้ามาพร้อมกับรอยยิ้ม
"คุณก็คือประธานหลิน?" เธอเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของหลินหยาง วางมือลงบนต้นคอของหลินหยาง เดินเข้าใกล้จนร่างกายแทบจะแนบชิดติดกันแล้วถาม
"ใช่"
"เหอะเหอะ ประธานหลินหน้าตาหล่อเหลาสมคำร่ำลือ ที่รัก ไม่ว่าวันนี้คุณจะมาหาฉันด้วยเรื่องอะไรหรือทำอะไร ฉันตอบตกลงคุณทุกอย่าง ฉันให้ความร่วมมือกับคุณทุกอย่าง แต่ก่อนหน้านั้น คุณช่วยทำให้ฉันสนุกก่อนได้หรือเปล่า?" หญิงสาวกระตุกมุมปากขึ้นยิ้มอย่างเย้ายวน แววตาทั้งคู่ที่เป็นประกายเต็มไปด้วยความเสน่หา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...