ชายฉกรรจ์กลุ่มนั้นไม่เคยคิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น คนทั้งกลุ่มยืนตกตะลึงมองดูโซฟาพุ่งเข้ามาหาตัวเอง หลังจากนั้นร่างกายของพวกเขาถูกชนกระเด็นจนทีละคน
ปัง ปัง ปัง...
ทุกคนล้มลงไปกองกับพื้น
แขนของหลินหยางเคลื่อนไหวอีกครั้ง เหวี่ยงโซฟาไปฟาดใส่ชายฉกรรจ์ที่อยู่ด้านข้างอีกคน
ชายฉกรรจ์คนนั้นตกใจจนมีดร่วงหล่นลงพื้น เขาหันหลังแล้วคิดจะวิ่งหนีแต่สุดท้ายก็ไม่ทัน โซฟาฟาดตรงแผ่นหลังของเขาอย่างแรง
ปัง!
ร่างกายของเขาโดนฟาดจนร่างกายกระเด็นออกไปเหมือนกับลูกขนไก่ พุ่งชนเข้าใส่กำแพงอย่างแรงแล้วตกลงมาไม่มีการเคลื่อนไหวแต่อย่างใด
แผ่นหลังของเขายุบลงไปเป็นวงกว้าง ดูเหมือนกระดูกสันหลังจะหักหมดแล้ว
ภาพที่น่าเวทนานี้ทำให้คนที่เหลือรู้สึกเย็นวูบ
ผ่านไปเพียงครู่เดียว ชายฉกรรจ์เจ็ดแปดคนล้มลงไปกองกับพื้นจนหมด บางคนก็ส่งเสียงคร่ำครวญบางคนก็หมดสติไปโดยตรง
ส่วนบ๋อยที่เหลือไม่รู้ควรจะทำยังไงแล้ว
หลินหยางวางโซฟาไม่แข็งลงอย่างไม่ใส่ใจ หลังจากนั้นก้าวเท้าเดินตรงเข้าไปหาขู่หลง
คนที่เหลือกลัวจนก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว
แต่วินาทีต่อมา ขู่หลงกลับชักปืนสีดำกระบอกหนึ่งออกมาจากหน้าอก ปากกระบอกปืนเล็งตรงไปที่หลินหยาง
ฝีเท้าของหลินหยางหยุดชะงักลง
"ร้ายกาจ! ร้ายกาจ! เป็นพวกมีของเหรอ? อายุแค่นี้แต่กลับดุดันมากขนาดนี้! ดูเหมือนผมจะแก่แล้ว" ขู่หลงเก็บซ่อนความตกใจที่อยู่ในแววตา ยิ้มแล้วพูด
เขาก็เคยได้ยินมาบ้างเหมือนกันว่าลูกศิษย์ชั้นนอกที่ฝึกฝนวิชาการต่อสู้มาเป็นเวลาหลายสิบปีจะมีพละกำลังที่น่าตกใจมาก สามารถยกของที่หนักหลายร้อยกิโลกรัมขึ้นด้วยมือเดียว แต่นั่นมันก็เป็นคนที่ฝึกฝนมาเป็นเวลาหลายสิบปี แต่หลินหยางอายุแค่นี้ทำไมถึงมีแรงมากขนาดนี้?
ภายในใจของขู่หลงรู้สึกตกใจมาก แต่เขาไม่แสดงออกมาให้เห็นแม้แต่นิดเดียว
ยิ่งไปกว่านั้น ถึงแม้มือและเท้าจะร้ายกาจมากแค่ไหนแต่จะสู้ปืนได้หรือเปล่า? นี่มันยุคสมัยไหนแล้ว วิชาการต่อสู้เหรอ? น่าขำสิ้นดี!
แต่แล้วในตอนนั้นเอง หลินหยางที่หยุดชะงักไปสักพักก้าวเดินไปข้างหน้าต่อ
"ผมให้โอกาสคุณแล้ว อันที่จริงถ้าหากคุณยอมแพ้และยอมจำนนต่อผม คุณจะไม่เจ็บปวดมากขนาดนี้ แต่คุณไม่ได้เลือกที่จะทำแบบนั้น ในทางกลับกันยังคิดจะต่อต้าน คุณทำให้ผมรู้สึกผิดหวังมาก ในเมื่อเป็นแบบนั้นผมก็ไม่ต้องเกรงใจแล้ว" หลินหยางพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งสงบ
"เหอะ ไอ้ตัวเหม็นที่ไม่รู้อะไรเลย ฉันเฮียหลงไม่ได้ฆ่าคนมาสองปีเต็มแล้ว แกมีโอกาสตายด้วยมือของฉันถือว่าเป็นเกียรติของแก แต่เนื่องจากการกระทำของแกในวันนี้ ถึงฉันจะฆ่าแกไปแล้วแต่ฉันก็ยังไม่ยอมหยุดอยู่แค่นี้ เพื่อนของแก ญาติของแก คนรักของแกทุกคนจะต้องชดใช้แทนการกระทำที่โง่เขลาของแก!" ขู่หลงยิ้มแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย ในแววตาเต็มไปด้วยอารมณ์ของความดุร้าย
ไม่เคยมีใครกล้าทำตัวอวดดีต่อหน้าเขาแบบนี้มาก่อน
คนคนนี้บีบคั้นจนทำให้เขาต้องลงมือ ถ้าหากเขาไม่ทำลายคนรอบตัวของหลินหยางให้หมด แล้วแบบนี้เขาจะเชิดหน้าชูตาอยู่ในเมืองเจียงเฉินต่อได้ยังไง?
ที่ขู่หลงสามารถแบ่งเขตหากินกับลุงชางและหงซีหยุนทั้งหมดล้วนแต่พึ่งพาสิ่งเดียว :โหดเหี้ยม
ครอบครัวที่โดนเขาทำลายไม่รู้มีมากเท่าไหร่ ทุกคนในวงการล้วนแต่บอกว่าปัญหาในวงการไม่เกี่ยวข้องกับครอบครัว แต่เขาไม่ได้คิดแบบนั้น เขาคิดว่าคนที่ไม่รู้จักจับจุดอ่อนของคนหรือปัญหาล้วนแต่เป็นคนที่โง่เขลา
ดังนั้นเขาจะต้องทำลายครอบครัวของหลินหยางให้หมด
แต่ก่อนหน้านั้น เขาจะต้องส่งประธานหลินที่มีชื่อเสียงคนนี้ไปยมโลกก่อน
ขู่หลงหรี่ตาลงเตรียมพร้อมที่จะลั่นไกปืน
แต่ในขณะที่เขากำลังจะลั่นไกลปืน แต่กลับพบไม่ว่าเขาจะออกแรงยังไงก็ไม่สามารถขยับนิ้วมือได้
ราวกับนิ้วมือของเขาโดนแช่แข็ง
"นี่มันเกิดอะไรขึ้น?" ขู่หลงมองตาค้าง
"ลูกพี่ มีอะไรหรือเปล่า?"
"รีบลั่นไกเลยลูกพี่"
ลูกน้องที่อยู่ด้านข้างรู้สึกมึนงงไปหมด
ขู่หลงเบิกตากว้าง เขาพยายามขยับตัวอย่างบ้าคลั่ง เตยไม่ว่างเขาจะดิ้นรนยังไง สุดท้ายทำได้แต่ส่ายหน้าของตัวเองเล็กน้อย ตั้งแต่ช่วงคอลงไปของเขาราวกับโดนน้ำแข็งปิดผนึก
"ฉันขยับตัวไม่ได้! รีบเข้ามาช่วยฉันเร็วเข้า!" ขู่หลงตะคอกสุดเสียง
ลูกน้องที่อยู่โดยรอบรีบวิ่งเข้าไปทันที
แต่ทันทีที่พวกเขาเพิ่งเข้าใกล้ ร่างกายของหลินหยางพุ่งออกไปพร้อมกับชกหมัดใส่ทุกคนจนล้มลงไปกองกับพื้นทั้งหมด
มีคนคิดจะชักปืนออกมาเหมือนกัน แต่ทันทีที่พวกเขาเพิ่งยื่นมือออกไปกลับพบว่าไม่สามารถขยับตัวได้แล้ว
รูม่านตาของขู่หลงหดเล็กลง
"เป็นฝีมือของแก?" ในที่สุดเขาก็เริ่มรู้ตัวแล้ว จึงตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง
"ใช่"
หลินหยางเดินตรงเข้าไป ดึงเข็มเงินที่ปักอยู่ตรงข้อมือของเขาออก
ขู่หลงเพิ่งจะรู้ว่ามีเข็มเงินเล่มหนึ่งปักอยู่ตรงข้อมือของเขา
ในตอนนั้นเอง ร่างกายของเขาฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติ
เขารีบลุกขึ้นคลานไปเก็บปืนคิดจะยิงใส่หลิหยาง แต่เพิ่งจะคลานไปไม่ถึงไหนร่างกายของเขาเริ่มชักอย่างกะทันหัน ดวงตาทั้งคู่เบิกกว้าง มีเลือดสีแดงสดไหลออกมาจากทวารทั้งเจ็ดเหมือนกับโดนพิษ ผ่านไปเพียงแค่ครู่เดียวร่างกายของเขานอนแน่นิ่งอยู่ตรงนั้นเสียชีวิตไปทั้งแบบนี้
เจ้าพ่อของเมืองเจียงเฉินตายไปทั้งแบบนี้
คงไม่เคยมีใครคิดว่าเขาจะพบกับจุดจบแบบนี้
ชวี่เทียนที่ถุูกมัดอยู่บนเก้าอี้เบิกตากว้างจนลูกตาแทบจะหลุดออกมา
บางทีตอนนี้เขาอาจจะเข้าใจแล้วว่าทำไมเมื่อกี้หลินหยางถึงกล้าพูดจาบ้าบิ่นแบบนั้นออกมา
ชายหนุ่มที่เชี่ยวชาญทักษะการแพทย์คนนี้…ไม่มีทางเป็นผู้วิเศษที่รักษาช่วยชีวิตผู้คนแน่นอน!
เขาไม่เพียงแต่รักษาคนเป็นเท่านั้น เขา…ฆ่าคนเป็นด้วย!
หลังจากแก้เชือก ชวี่เทียนล้มลงไปกองกับพื้น หอบหายใจอย่างแรง
"ยังไหวหรือเปล่า?"
หลินหยางถามในขณะที่กำลังฝังเข็มให้เขา
"ยังไม่ตาย…" ชวี่เทียนพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแรง
"งั้นก็ดีแล้ว" หลินหยางพูดด้วยน้ำเสียงที่สงบนิ่ง "โทรศัพท์สั่งให้คนมารับช่วงของขู่หลง หลังจากนั้นค่อยช่วยจัดงานศพให้เขา ไปกันเถอะ พวกเราไปหาคนต่อไป"
ชวี่เทียนรู้สึกหนังศีรษะชาไปหมด ผ่านไปสักพักถึงจะตั้งสติได้ เขารีบวิ่งตามออกไปทันที
ตอนนี้เขาเพิ่งจะตระหนักได้ คืนนี้ เป็นคืนนองเลือดของเมืองเจียงเฉิน…
โรงพยาบาลประชาชนเมืองเจียงเฉิน
ฟู่หวู่และรวมไปถึงเพื่อนร่วมชั้นที่ค่อนข้างสนิทกับชวี่ชวงซวนรวมตัวกันอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน สีหน้าของแต่ละคนเต็มไปด้วยความกังวล
"พวกเธอทำบ้าอะไรของพวกเธอ?"
หญิงวัยกลางคนสวมแว่นตาคนหนึ่งเดินเข้ามาพูดกับฟู่หวู่และคนอื่นด้วยความโกรธ "แค่งานเลี้ยงวันเกิดถึงขั้นสามารถทำให้เกิดเรื่องถึงขนาดนี้! ร้ายกาจใช้ได้เลยพวกเธอ! ตอนนี้ทางมหาลัยกำลังรับมือกับนักสื่อข่าวอย่างเต็มที่ ผอ. กำชับมา ห้ามพวกเธอพูดอะไรส่งเดชเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นจะถูกไล่ออกทันที!"
ทันทีที่ได้ยินคำพูดประโยคนี้ เด็กผู้หญิงบางคนตกใจจนใช้มือปิดปากไม่กล้าพูดอะไร
ฟู่หวู่กลับยิ้มอย่างเย็นชา
ไล่ออก?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...