แต่...พวกเขาหยุดคนนิกายตงหวงไม่ได้ พิษในร่างกายของพวกเขาได้กำจัดพลังของพวกเขาไป ในตอนนี้พวกเขาแทบจะยืนยังไม่ได้ ดังนั้นจึงไม่มีประโยชน์ที่จะสู้กลับ
"หมอเทวดาหลิน! คุณมันหลอกลวง!" หัวหน้ากลุ่มพิพากษาสีหน้าเยือกเย็นและตะโกน: "ถ้าคุณจะฆ่าก็ฆ่าเลย! ทำไมต้องทำให้พวกเราอับอาย! มันจะเกินไปแล้วนะ!"
"ทำให้อับอายหรอ? ไม่ๆๆๆ ทุกท่านอย่าเพิ่งเข้าใจผิด ผมก็แค่อยากจะเปลี่ยนเสื้อผ้าเก่าๆ บนร่างกายของพวกคุณ ช่วยพวกคุณเอาไปซ่อมให้ดีขึ้น ผมไม่ได้จะทำอะไรอย่างอื่นใด อีกทั้งตอนนี้พวกคุณได้รับบาดเจ็บหนัก ต้องได้รับการรักษาบาดแผล เสื้อผ้าเหล่านี้เปื้อนโคลนและสิ่งสกปรก ถ้าพวกคุณใส่อีกจะทำให้แผลเป็นพิษ" หลินหยางอธิบาย
"หมอเทวดาหลิน คุณจะทำอะไรกันแน่?" หัวหน้ากลุ่มพิพากษาถามอย่างเยือกเย็น
"ท่านเทียนชี๋ ผมไม่ได้คิดร้ายอะไรกับทุกคน! ที่เรื่องพัฒนามาถึงจุดนี้ได้ก็เพราะพวกคุณบังคับผมเองเท่านั้น!" หลินหยางส่ายหน้า
"หมอเทวดาหลิน คุณละเมิดกฎ พวกเราก็แค่ต้องทำตามกฎเท่านั้น ไม่มีใครบังคับใคร คุณกลับลงมือกับกลุ่มพิพากษาของพวกเรา คุณรู้ไหมว่าคุณทำอะไร? คุณรู้ผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นไหม? คุณจะถูแบนจากการประชุม จะมีคนมาหาคุณอีก!" หัวหน้ากลุ่มพิพากษาพูดอย่างจริงจัง
"งั้นก็อย่าให้พวกเขารู้ว่าเป็นฝีมือของผม ถ้าไม่มีหลักฐานใครก็ไม่สามารถเอาผิดผมได้!" หลินหยางกระแทกเสียง
หัวหน้ากลุ่มพิพากษาไม่ส่งเสียงใดๆ
ตอนนี้พูดอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์
หลินหยางสูดลมหายใจ และพูดออกไปโดยตรง
"ท่านเทียนชี๋ ผมอยากจะถามคุณ เป็นหน้าที่ของคุณที่จะรักษาระเบียบของการประชุมหรอ?"
"มันเป็นอาชีพของผม! ตั้งแต่วินาทีที่พวกเรากลายเป็นกลุ่มพิพากษาเทียนชี๋ มันก็กลายเป็นหน้าที่ของพวกเราที่จะปกป้องการประชุม! หมอเทวดาหลิน คุณอยากจะพูดอะไรก็พูดมาเถอะ ไม่ต้องมาหลอกพูดกับผม! แบบนั้นจะเป็นการเสียเวลาทั้งคุณและผม" หัวหน้ากลุ่มพิพากษาพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
อย่างไรก็ตามหลินหยางส่ายหน้า เขาเข้าไปใกล้อีกนิดและพูดเบาๆ: "ท่านเทียนชี๋! คุณ...อยากออกไปจากที่นี่ไหม?"
หัวหน้ากลุ่มพิพากษาอึ้ง มองหลินหยางด้วยความเหลือเชื่อ
"คุณหมายความว่าอะไร?"
"ผมให้คุณออกไปได้"
"จริงหรอ?" หัวหน้ากลุ่มพิพากษาขมวดคิ้ว
"แน่นอน แต่ต้องเป็นหลังจากการประชุม" หลินหยางพูดอย่างสงบ
หัวหน้ากลุ่มพิพากษาครุ่นคิดสักพักและพูดเสียงแหบ: "นี่ไม่ใช่การกระทำที่เกินเลยหรอ? ถ้าคุณปล่อยผมหลังจากการประชุมแล้วจะไม่กลัวการแก้แค้นของฝ่ายจัดประชุมหรอ?"
"ไม่กลัว เพราะหลังจากการประชุม ฝ่ายจัดประชุมไม่กล้าแก้แค้นผมแน่นอน"
"ทำไม?"
"ผมจะเอาชนะในการประชุมและทะยานขึ้นไปบนฟ้า! ผมในตอนนั้นจะไม่ใช่ผมตอนนี้อีกต่อไป ถ้าฝ่ายจัดประชุมกล้าทำอะไรผม แล้วเขาจะไม่กลัวผลที่ตามมาหรอ?"
"เหอะๆ หมอเทวดาหลินมีเวลามาล้อเล่นเมื่อไหร่กัน? แต่น่าเสียดายที่มันไม่ตลก เกรงว่าคุณคงไม่รู้ระดับความโหดร้ายของฝ่ายจัดประชุมสินะ ผมยอมรับว่าคุณร้ายกาจ แต่คนอย่างคุณก็แค่คนธรรมดาคนหนึ่งในการประชุม ไม่ควรค่าแก่การพูดถึง สำหรับรางวัลสูงสุดในการประชุมนั้น...ก็เป็นแค่ฝันเท่านั้นแหละ" หัวหน้ากลุ่มพิพากษาพูดอย่างเฉยเมย
"ผมไม่อยากเกลี้ยกล่อมคุณด้วยคำพูด ผมคิดว่าคุณคงจะเข้าใจเองในตอนนั้น"
"ผมจะรอวันนั้น" หัวหน้ากลุ่มพิพากษาพยักหน้าและมองหลินหยาง: "ที่หมอเทวดาหลินมาที่นี่ก็เพื่อจะพูดสิ่งนี้หรอ?"
"ไม่ ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง"
"เรื่องอะไร?"
"ผมต้องการให้คุณทำหน้าที่ของคุณต่อไป!" หลินหยางพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังเป็นพิเศษ
เจ้าสำนักหงเหยียนทำตัวโดดเด่นมาก
เสลี่ยงแดงขนาดใหญ่ สูง 3 เมตร กว้าง 4 เมตร เคลื่อนช้าๆ บนถนน
เสลี่ยงสีแดงขนาดใหญ่ถูกอุ้มโดยผู้หญิงสูงสิบแปดคน
ภายในเสลี่ยงนั้นมีผู้หญิงในชุดสีแดง
เธอนอนอย่างเกียจคร้านบนเก้าอี้เก๋ง กับผลไม้และชาบนโต๊ะกาแฟข้างๆ เธอ
ทั้งสองด้านของเสลี่ยงเป็นรถหรูที่ขับด้วยความช้าอย่างมาก
ถนนทั้งหมดถูกปิดกั้น
มองไม่เห็นรถสักคัน
มีเฉพาะผู้อยู่อาศัยที่อาศัยอยู่สองข้างทางเท่านั้นที่จะดูจากระยะไกลและแน่นอนหากพวกเขาอยู่ใกล้ก็จะโดนไล่ออกไป
"นี่ทำอะไร?"
"ถ่ายหนังหรอ?"
"เหมือนจะใช่..."
"ทำไมเป็นผู้หญิงทั้งนั้นเลย?"
"แล้วยังสวยอีกด้วย..."
"นี่มันหนังอะไร? ถ้ามันฉายผมต้องดูแน่ๆ!"
คนพวกนี้เป็นใคร?
คนธรรมดาทั่วไปจะไม่รู้ แต่คนในโลกศิลปะการต่อสู้จะรู้ทันที
"นั่นคนของสำนักหงเหยียนหรอ?"
"ให้ตายเถอะ สำนักหงเหยียนที่เป็นผู้นำในโลกซ่อนเร้นหรอ? พวกเธอ...มาที่นี่ทำไม?"
"ดูแล้วน่าจะเป็นคนตำแหน่งสูงในสำนักหงเหยียนมา นี่มาเจียงเฉินเพื่อหาหมอเทวดาหลินหรอ?"
ทุกคนตื่นตระหนก
ยอดฝีมือด้านศิลปะการต่อสู้นับไม่ถ้วนไม่ละสายตายเลย
ไม่รู้ใครมาจากไหน
ในทางกลับกัน หลังจากที่ยอดฝีมือบางคนส่งคนไปตรวจสอบ พวกเขาก็ต้องตกใจในทันที
"เจ้าสำนักหงเหยียนมาเจียงเฉินด้วยตนเองหรอ? เกรงว่าเจียงเฉินต้องเกิดเรื่องแน่ๆ!" คนตระกูลหลินตกใจ
"ว่ากันว่าหมอเทวดาหลินมีความคับแค้นใจกับสำนักหงเหยียน ตอนนี้เหมือนว่าสำนักหงเหยียนจะมาเพื่อลงโทษ!" ตัวแทนของกูเฟิงก็มาเช่นกัน
นอกจากนี้ยังมีกองกำลังต่างๆ อีกมากหน้าหลายตา
หลังจากมาถึงเมืองหนานเฉินแล้ว เจ้าสำนักหงเหยียนก็ก้าวออกมา เพราะยังไม่ทันถึงเจียงดฉิน ทั้งเจียงเฉินก็เดือดดาลแล้ว
บนถนนที่ทอดยาวไปยังเมืองเจียงดฉิน ร่างสองร่างกระโดดขึ้นไปบนหลังคาบ้านสองข้างถนน มองไปที่เสลี่ยงสีแดงขนาดใหญ่ หนึ่งในนั้นคือชายหนุ่มรูปงามอดหัวเราะไม่ได้
"เจ้าสำนักหงเหยียนนี่ทำตัวโดดเด่นจริงๆ! สำนักหงเหยียนเป็นสำนักซ่อนเร้น เธอทำตัวโดดเด่นอย่างนี้ไม่เหมือนสไตล์ก่อนหน้านี้เลย"
ท้ายที่สุดแล้วสำนักหงเหยียนไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป! ตั้งแต่ผู้หญิงคนนี้เข้ามาดูแลสำนักหงเหยียน ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป สำนักหงเหยียนที่ทำตัวไม่โดดเด่นก่อนหน้านี้กลับกลายเป็นคนละแบบแล้ว ทำทุกอย่าง! และผู้หญิงคนนี้เป็นเจ้านายประเภทหนึ่งที่ไม่ประนีประนอมกับวิธีการที่จะบรรลุเป้าหมายของเธอ!" คนข้างๆ พูด
"เหอะ ผมเคยได้ยินมาเหมือนกัน ว่ากันว่าผู้หญิงคนนี้เป็นเทพเซียนแล้ว! ไม่รู้จริงหรือเปล่า"
"กลายเป็นเทพหรือเปล่าผมไม่รู้ แต่คนนั้นในเจียงเฉินเรียกว่าเป็นอมตะแล้ว!"
"ฮ่าๆๆ ดูว่าใครจะเป็นเทพเซียนและเป็นอมตะจริง ใครเป็นตัวปลอม! คงเป็นการต่อสู้ที่ยากจะเกิดขึ้นในร้อยปีแน่ๆ"
"ใช่ จะพลาดไปไม่ได้เชียว! ครั้งนี้ถือว่าได้เปิดโลกจริงๆ"
ทั้งสองคนตื่นเต้นและรอคอยไม่ไหว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...