งานเลี้ยงต้อนรับถูกจัดขึ้นในโรงแรมใจกลางเมืองเจียงเฉินที่เพิ่งสร้างขึ้นได้ไม่นาน
วันนี้ หยางหัวเหมาทั้งโรงแรม
ชั้นหนึ่งของโรงแรมถูกตกแต่งอย่างหรูหรา พนักงานในชุดโรงแรมยืนเรียงเป็นแถวสองข้างทาง
ตอนที่ซ่งจิงและเจ้าสำนักหงเหยียนรวมไปถึงนักข่าวเดินเข้ามา พนักงานทุกคนโค้งคำนับพร้อมกัน
“สวัสดีแขกท่านผู้มีเกียรติ!”
ทุกคนพูดขึ้นพร้อมกัน บนใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
ผู้จัดการรีบวิ่งเข้ามา
“ผู้กำกับซ่ง! สวัสดี! ผมคือผู้จัดการของโรงแรมนี้ ผมแซ่จาง!”
“ผู้จัดการจางเองเหรอ? ทุกอย่างเรียบร้อยดีไหม?”
“ทุกอย่างจัดการตามที่คุณบอกแล้ว สามารถเริ่มงานเลี้ยงได้ทุกเมื่อ” ผู้จัดการจางโค้งคำนับเล็กน้อย ยิ้มแล้วพูด
“งั้นก็เริ่มกันเลย มามามา คุณเซียวเชิญทางนี้”
ซ่งจิงหัวเราะฮ่าฮ่าแล้วพูด หลังจากนั้นพาคนของสำนักหงเหยียนเข้าไปด้านใน
จากนั้นจัดให้ผู้สื่อข่าวทั้งเล็กใหญ่นั่งโดยรอบของเจ้าสำนักหงเหยียน
ผู้สื่อข่าวเหล่านี้ก็เพิ่งเคยเจอสถานการณ์แบบนี้ครั้งแรก แต่ละคนดูตื่นเต้นมาก
แต่พวกเขาไม่ลืมความเป็นมืออาชีพของตนเอง ทุกคนรีบจัดตั้งอุปกรณ์ตามจุดต่างๆของงานเลี้ยง กล้องทุกตัวล้วนแต่หันไปหาเจ้าสำนักหงเหยียน
นอกจากนี้ ยังมีผู้สื่อข่าวจำนวนมากกำลังเดินทางมา
จากนั้นก็ตามด้วยบุคคลมีชื่อเสียงของเมืองเจียงเฉิน
คนในวงการบันเทิง
แม้กระทั่งเน็ตไอดอลก็ได้รับคำเชิญจากซ่งจิงมาร่วมงานเลี้ยง
สถานที่จัดงานเลี้ยงค่อนข้างคึกคัก
มีผู้คนต่างอาชีพต่างสายงานมาร่วมงานเลี้ยงมากมาย
แต่ไม่ว่าผู้คนที่มาร่วมงานเลี้ยงจะมีชื่อเสียงมากแค่ไหน ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงจุดสนใจของงาน
นั่นก็คือเจ้าสำนักหงเหยียน!
สายตาคู่นับไม่ถ้วนกำลังจับจ้องเธอ
มีผู้คนมากมายต้องการเดินเข้ามาพูดคุย
แต่…เจ้าสำนักหงเหยียนทำตัวราวกับเป็นมนุษย์น้ำแข็ง ไม่ว่าใครก็ตามที่เดินเข้ามาทักทาย ล้วนแต่ถูกเธอปฏิเสธโดยตรง เพียงแค่นั่งหลับตาพักสายตาอยู่ตรงนั้นคนเดียวโดยไม่สุงสิงกับใคร
ซ่งจิงก็ไม่ได้คิดจะไปคุยกับเจ้าสำนักหงเหยียน เขาไม่อยากไปรนหาที่
แต่พฤติกรรมเช่นนี้ของเจ้าสำนักหงเหยียน ก็ทำให้ผู้คนมากมายที่รู้สึกโกรธ
“ผู้หญิงคนนี้เป็นใครมาจากไหน? หยิ่งเกินไปแล้วมั้ง? แม้กระทั่งคุณหลิวเข้าไปคุยด้วยก็ไม่สนใจ…”
“คุณหลิว? เหอะ นั่นนับประสาอะไร? ผมเห็นเถ้าแก่เหมายื่นนามบัตรให้เธอ แต่เธอไม่คิดจะลืมตาดูเลยด้วยซ้ำ”
“ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร เจ๋งชะมัด”
“ไม่รู้ แต่ผมคิดว่าไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน คุณคิดดู ‘พยัคฆ์สงคราม’ ภาคแรกที่คุณซูหยูแสดงก็ประสบความสำเร็จมาก แต่พอมาถึงภาคสองกลับเปลี่ยนนางเอกอย่างกะทันหัน คุณคงจะไม่รู้ ตอนนี้บนโลกอินเตอร์เน็ตกำลังเดือดมาก โดยเฉพาะแฟนคลับของคุณซูหยู”
“ผมว่าอย่าไปยุ่งกับผู้หญิงคนนี้ดีกว่า”
แขกทุกคนพากันวิพากษ์วิจารณ์
ชาวเน็ตไม่น้อยก็กำลังพูดถึงตัวตนของเจ้าสำนักหงเหยียน
แต่ในตอนนั้นเอง สถานที่เกิดเหตุเงียบอย่างกะทันหัน
จากนั้นทุกคนหันไปมองตรงประตู
“ประธานหลินมาแล้ว!”
ไม่รู้ว่าใครเป็นคนพูดขึ้น
จากนั้นหลินหยางในชุดสูทและสมาชิกระดับสูงของหยางหัวเดินเข้ามาในงานเลี้ยง
แขกทุกคนรีบลุกขึ้นยืน พากันปรบมือเสียงดังทันที
“ประธานหลิน!”
“หมอเทวดาหลิน!”
“สวัสดีหมอเทวดาหลิน!”
“ฮ่าฮ่า คุณยังดูดีเหมือนเดิม!”
มีบางคนตะโกนพูดเสียงดัง
หลินหยางหันไปยิ้มให้เล็กน้อย
มีหญิงสาวไม่น้อยที่มองหลินหยางจนหน้าแดง ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาเกินจะต้านทาน
แน่นอน ยังมีดวงตาอีกคู่หนึ่งที่จ้องหลินหยางไม่ยอมละสายตา
นั่นก็คือเจ้าสำนักหงเหยียน!
เธอมองด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์ ในส่วนลึกของแววตาเต็มไปด้วยเจตนาแห่งการฆ่า แต่จิตสังหารของเธอถูกเก็บซ่อนอย่างดี คนทั่วไปไม่สามารถสัมผัสถึง
“เจ้าสำนัก” หญิงวัยกลางคนที่อยู่ด้านข้างพูดเสียงเบา
ผู้คนพากันพูดด้วยความตื่นเต้น
ส่วนตามช่องทางการออกอากาศสดค่อนข้างดุเดือด
เพราะทุกคนสามารถเห็นทุกคำพูดและการกระทำของคนที่อยู่ในงานเลี้ยงทั้งหมด
หลังจากที่รู้สถานะของคุณเซียวปู้หงหญิงลึกลับคนนี้ ชาวเน็ตนับไม่ถ้วนรู้สึกตกตะลึง
“เชี้ย จอมยุทธหญิง!”
“ประธานหลินของฉันร้ายกาจมาก!”
“น่าสนใจ”
“ผมเป็นแฟนคลับของคุณเซียว! คุณเซียวจะเปิดบัญชีเวยป๋อเมื่อไหร่? ผมจะติดตามเธอ”
“คุณเซียว ภรรยาของผม! ที่รัก! ที่รัก! ที่รัก…”
บนหน้าจอมีข้อความเด้งขึ้นไม่หยุด
ทุกคนตื่นเต้นจนถึงขีดสุด ส่วนในช่องทางการถ่ายทอดสดยิ่งไม่ต้องพูดถึง
แต่สำหรับคนของสำนักหงเหยียน การกระทำของหลินหยางทำให้พวกเธอรู้สึกไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก
สำนักหงเหยียนเป็นกองกำลังซ่อนเร้น เดิมทีก็เป็นเพราะไม่ต้องการให้คนอื่นไปรบกวน จึงหลบซ่อนใช้ชีวิตอยู่ในป่าเขา ตอนนี้หลินหยางกลับประกาศต่อสาธารณชนแบบนี้ ต่อไปไม่ได้อยู่อย่างสงบแน่นอน
ยิ่งไปกว่านั้น ตั้งแต่ที่เซียวปู้หงเข้ามาเป็นเจ้าสำนักของสำนักหงเหยียน เคยทำเรื่องสกปรกไว้ไม่หน่อย คดีการค้ามนุษย์ที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ สำนักหงเหยียนก็มีส่วนเกี่ยวข้อง
หลินหยางเปิดเผยออกมาแบบนี้ ก็เพื่อหวังว่าเบื้องบนจะยื่นมือเข้ามาตรวจสอบสำนักหงเหยียน อาศัยเบื้องบนมาช่วยกำจัดเนื้อร้ายก้อนนี้
มีหรือที่คนของสำนักหงเหยียนจะไม่รู้สึกถึงภัยคุกคาม?
หลินหยางก็ไม่เกรงใจ จนกระทั่งเริ่มแนะนำสำนักหงเหยียนต่อทุกคน และยังประกาศอีกว่าจะถ่ายทำละครที่นั่น
ชั่วขณะ ทุกคนเริ่มให้ความสนใจสำนักหงเหยียน คิดว่าสถานที่แห่งนั้นเป็นแดนสวรรค์
แต่ตอนที่หลินหยางกำลังแนะนำสำนักหงเหยียนอย่างไหลลื่น เจ้าสำนักหงเหยียนลุกขึ้นอย่างกะทันหัน พูดเสียงดัง
“ทุกท่าน พวกคุณอยากรู้หรือเปล่าว่าหมอเทวดาหลินมาขอให้ฉันถ่ายละครได้ยังไง?”
ทุกคนตกตะลึง หันไปมองทางเจ้าสำนักหงเหยียนพร้อมกัน
“ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เป็นใบ้เหรอ?”
“ในที่สุดก็ยอมพูดแล้ว!”
“เสียงแข็งซะด้วย”
มีคนพูดพึมพำ
แต่ผู้คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจกับคำพูดของเธอมากกว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...