สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา นิยาย บท 138

"โอเค"

ซูเหยียนสูดหายใจลึก ลุกขึ้นและเดินออกไปด้านนอก

ผู้จัดการแผนกหลายคนของเซิงหัวกรุ๊ปนั่งอยู่ในห้องประชุม นอกจากนี้แล้ว ยังมีซูเป่ย ซูกวงและซูเจินอยู่ที่นี่ด้วย

ซึ่งทำให้ซูเหยียนแปลกใจเล็กน้อย

เพราะหลังจากคุณนายเป็นคนมอบเซิงหัวกรุ๊ปให้กับเธอ ส่วนแบ่ง 90% ของกลุ่มอยู่ในมือของเธอ และตระกูลซูได้รับส่วนแบ่งเพียง 10% โดยเฉพาะซูเจิน ที่เกือบจะเหมือนกับซูกวงก่อนหน้านี้ แค่มีชื่อในบริษัทและรอส่วนแบ่งตอนสิ้นปี ทำไมวันนี้เธอถึงมาด้วย? อีกทั้งยังนั่งอยู่ในห้องประชุม?

ซูเหยียนรู้สึกว่าบางอย่างแปลกๆ

"ป้า คุณมาได้ยังไง?"

"หึหึ ฉันก็แค่เตรียมจะจัดการบริษัท เลยมาเพื่อจะเรียนรู้ประสบการณ์ด้วย ไม่ได้หรอ?" ซูเจินยิ้มเล็กน้อยและพูด

"ซูเหยียนขมวดคิ้ว ไม่ได้ส่งเสียงอะไร

ในเวลานี้ ประตูถูกผลักออกมา

ประธานหลินในชุดดำสวมหมวกทรงสูงเดินเข้ามาพร้อมกับหม่าไห่

ซูเหยียนประหลาดใจ เธอรีบเข้าไปต้อนรับ

คนตระกูลซูและระดับสูงคนอื่นๆ ต่างพากันลุกขึ้นมา

"ประธานหลินมาแล้วหรอ?"

"ยินดีต้อนรับประธานหลิน!"

"มาๆๆๆ ประธานหลิน นั่งด้านนี้!"

ทุกคนทักทายอย่างกระตือรือร้น โดยเฉพาะ ซูเป่ย ซูเจิน ที่อยากจะนั่งข้างๆ ประธานหลิน

นี่คือผู้มีอำนาจล้นในเมืองเจียงเฉิน

ซูเหยียนเองก็อยากจะเข้าไป แต่ถูกคนหลายคนกั้นไว้ หมดหนทาง

"โอเคทุกคน กลับมายังที่นั่งของตนเอง! เวลาของพวกเรามีจำกัด พวกเราเริ่มการประชุมกันเถอะ!"

ประธานหลินนั่งอยู่ที่ตำแหน่งหลัก ใบหน้าของเขายิ้มเล็กน้อยและพูด

เขาไม่ได้เผยหน้าตาออกมา เหลือเพียงครึ่งหน้าเท่านั้น

แม้ว่าจะหล่อมาก แต่ทุกคนก็ตั้งตารอที่เขาจะถอดหมวกทรงสูงของเขาเพื่อดูว่าประธานหลินที่ลึกลับมีหน้าตาอย่างไร

แตในเวลานี้ ก๊อก ก๊อก ก๊อก...

มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น

"เข้ามา!" ซูเหยียนส่งเสียง

จากนั้นร่างที่ง่อนแง่นก็เดินเข้าไปด้วยการสนับสนุนของซูกุ้ย

ซูเหยียนเห็นเข้า สีหน้าก็เปลี่ยนไป

"คุณ...ย่า?"

หลินหยางรู้ว่าคุณนายต้องปรากฏตัวที่นี่ แต่ไม่คิดว่าจู่ๆ คุณนายจะรอไม่ได้เช่นนี้ การประชุมยังไม่ได้เริ่ม เธอก็เข้ามาแล้ว

"คุณย่า?"

"คุณนายซู?"

ทุกคนรู้สึกแปลกใจ

"แม่ คุณไม่พักผ่อนดีๆ ที่โรงพยาบาลหล่ะ ทำไมถึงมาที่นี่ได้? ร่างกายของคุณเพิ่งจะดีขึ้นนะ ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้!"​ ซูเจินรู้ดีแต่แกล้งถาม ยืนขึ้นพร้อมกับแสดงความเศร้าโศก

"สบายใจ มีอากุ้ยอยู่กับฉันด้วย ไม่เป็นไร ได้ยินว่าวันนี้มีประชุมที่ค่อนข้างสำคัญ ฉันอยู่โรงพยาบาลนานเกินไป น่าเบื่อมาก เลยจะมาฟังดูหน่อย พวกคุณไม่ต้องกังวลอะไร ไม่ต้องสนใจฉัน ฉันแค่นั่งฟังธรรมดาก็พอ" คุณนายซูพูดด้วยรอยยิ้ม

ประชุมที่ไหนบอกว่าจะแค่ฟังก็ฟัง? มีหลายประเด็นที่เป็นความลับที่เกี่ยวข้อง

แต่เนื่องจากตัวตนของคุณนายซู แต่ไม่มีคนกล้าแสดงความไม่พอใจ

สีหน้าของซูเหยียนไม่เป็นธรรมชาติ แต่ในเวลานี้ เธอไม่สามารถตอบโต้อะไรได้

"ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เสี่ยวหวัง คุณไปเทน้ำชาให้คุณย่าหน่อย"

"รับทราบ ประธานซู" เลขาหญิงวิ่งออกไป

"เริ่มการประชุมเถอะ" ซูเหยียนพูด จากนั้นก็มองไปทางประธานหลิน ยิ้มเล็กน้อย: "ประธานหลิน ประธานหม่า สิ่งที่คุณมีอยู่ตรงหน้าคุณคือแผนความร่วมมือที่เราเพิ่งทำไป คุณลองดูสิ"

เริ่มการประชุมอย่างเป็นทางการ

หลินหยางพยักหน้า หยิบสัญญาขึ้นมาดู

หลังจากนั้น ไม่นานหลินหยางก็เอ่ยปาก สีหน้าของหม่าไห่เคร่งขรึมอย่างมาก

"รับทราบ ประธานซู" เลขารีบวิ่งออกไป

"เสี่ยวหวัง ไม่จำเป็น!"

ซูเป่ยตะโกน

"ไป!" ซูเหยียนตะโกนอีกครั้ง

"ไม่ต้องไป!"

"รีบไป!"

ทั้งสองเถียงกัน เสี่ยวหวังลังเลตัดสินใจไม่ถูก

แต่ในเวลานี้ มีเสียงที่เฉยเมยดังขึ้นมา

"เสี่ยวหวัง คุณออกไปก่อน!"

เมื่อได้ยินเสียงแหบนี้ ซูเหยียนก็เหมือนโดนสายตา หลายคนหันหน้าไปยังต้นกำเนิดของเสียง

คนที่พูด ก็คือคุณนายซูที่นั่งดื่มอยู่ข้างๆ...

"คุณย่า คุณไม่ใช่บอกว่า...จะไม่มายั่งเรื่องในบริษัทหรอ?" ซูเหยียนพูดด้วยความตกตะลึง

"นี่ไม่ใช่เรื่องของบริษัทแล้ว แต่เป็นเรื่องของตระกูลซู มันเป็นความสัมพันธ์ตลอดชีวิตของเธอ! เสี่ยวเหยียน เธอน่าจะเข้าใจว่าลุงสี่ของเธอต้องการ 40 ล้านจากประธานหลินไปเพื่ออะไร 40 ล้านนี้คือเงินอะไร? ลุงสี่ของเธอทำไปเพื่อเธอ!" คุณนายซูวางแก้วชาลงและพูดอย่างสงบ

"นี่..." ซูเหยียนพูดไม่ออกทันใด

"ค่าสินสอดสี่สิบล้านที่จะแต่งงานกับเรา มันไม่ได้เกินไปเลย!"

"ใช่ อีกทั้งประธานหลินเป็นคนที่ร่ำรวย จะไปสนใจแค่ 40 ล้านหรอ? ยังไงก็คิดว่าประธานหลินต้องตกลงอย่างแน่นอน"

"ประธานหลินและประธานซูเป็นคู่ที่เหมาะสมกันที่สวรรค์สร้างมา รวมกันเป็นหนึ่งเดียว ถ้าแต่งงานกัน ธุรกิจทั้งเมืองเจียงเฉิน ใรก็ไม่กล้ามาหืออือใช่ไหม?"

"ถ้าผมเป็นประธานหลิน ผมต้องตกลงอย่างแน่นอน!"

คนอื่นๆ ในห้องประชุมกระซิบและพูดคุยอย่างลับๆ และทุกสายตาที่มองมาที่ประธานหลินและซูเหยียนด้วยความชื่นชม

ซูเหยียนต้องการจะปฏิเสธ แต่เมื่อเธอคิดถึงตระกูลไค ตระกูลเยว่และตระกูลเหมยที่กวงหลิวแล้ว เธอก็ลังเลสักพัก และครุ่นคิด

หม่าไห่ไม่ส่งเสียง ถ้าจะบอกว่าเป็นสินสอดทองหมั้น งั้นก็เป็นเรื่องของซูเหยียนกับประธานหลิน เขาคงไม่เข้าไปเกี่ยว

หลายคนกวาดสายตามองประธานหลิน อยากจะรู้ความคิดของเขา