“เจ้านิกาย หากวันนี้ไม่กำจัดผู้หญิงคนนี้ วันข้างหน้าจะเป็นภัยแน่นอน!” หยุนซินซัดสมาชิกของหน่วยกะโหลกคนหนึ่งลอยกระเด็นออกไป จากนั้นตะโกนเสียงดัง
“สบายใจได้ ผมจะไล่ตามเจ้าสำนักหงเหยียนเอง!”
หลินหยางพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม พุ่งออกจากคฤหาสน์หุ้ยหยวน
.....
ภายในคฤหาสน์หุ้ยหยวนเต็มไปด้วยเสียงฆ่าฟัน
ส่วนพื้นที่โดยรอบโดนปิดล้อมตั้งนานแล้ว แม้ความเคลื่อนไหวที่รุนแรงก็ไม่มีใครสามารถเข้าใกล้
บนเส้นทางที่ไปคฤหาสน์หุ้ยหยวน มีรถยนต์ของหยางหัวจอดขวางทางอยู่หลายคัน
มีรถเก๋งสีดำคันหนึ่งขับเข้ามา
ติ๊ดติ๊ด
คนขับรถกดแตรรถยนต์ บ่งบอกให้เปิดทาง
แต่กลุ่มคนที่ขวางทางไม่สนใจ
คนขับรถขมวดคิ้ว หันไปมองนักข่าวและช่างภาพที่อยู่ด้านหลังแวบหนึ่ง เขารีบหยิบบุหรี่กล่องหนึ่งแล้ววิ่งลงจากรถ
“พี่ชาย นี่มันเกิดอะไรขึ้น? อยู่ดีๆมาปิดถนนทำไม?” คนขับรถแจกจ่ายบุหรี่ให้พวกเขา หลังจากนั้นเริ่มพูดคุยอย่างสนิทสนม
“ด้านในกำลังถ่ายทำละคร ‘พยัคฆ์สงคราม2’ ทางกองถ่ายยืมใช้พื้นที่ส่วนนี้ ดังนั้นจึงขอปิดทางชั่วคราว มีอะไรเหรอ? พวกคุณจะไปกินข้าวที่คฤหาสน์หุ้ยหยวน? วันนี้ไม่เปิด พวกคุณกลับไปเถอะ” คนคนนั้นรับบุหรี่ ยิ้มแล้วพูด
“งั้นเหรอ? ถึงว่าผมได้ยินเสียงระเบิดจากด้านในแต่ไกล”
“อาจจะเป็นเสียงระเบิดระหว่างการถ่ายทำมั้ง…”
“นี่น้องชาย คุณคิดว่าหมอเทวดาหลินอยู่ข้างในด้วยหรือเปล่า?”
“มันแน่อยู่แล้ว หมอเทวดาหลินเป็นคนเปิดเรื่อง ‘พยัคฆ์สงคราม2’ จะไม่อยู่ข้างในได้ยังไง?”
“แล้ว…น้องชาย สะดวกให้พวกเราเข้าไปชมหรือเปล่า…วางใจได้ พวกเราจะไม่ทำอย่างอื่น แค่ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกเท่านั้น…” คนขับรถพูดเสียงเบาอย่างยิ้มแย้ม หลังจากนั้นยัดธนบัตรหลายใบใส่มือของคนคนนั้น
แต่สีหน้าของคนคนนั้นเปลี่ยนไปทันที เขาปัดมือของคนขับรถทิ้ง จากนั้นพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม
“คุณหมายความว่ายังไง?” คนคนนั้นตะคอก
คนขับรถตกตะลึง “คือ…”
“พวกคุณคงจะเป็นนักข่าวใช่หรือเปล่า?” คนคนนั้นถามอีกครั้ง
“ไม่ไม่ไม่ พวกเราไม่ใช่…”
“เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว รีบไปจากที่นี่! ที่นี่เป็นสถานที่ส่วนบุคคล ไม่อนุญาตให้คนนอกเข้า ถ้าหากพวกคุณยังไม่ไปพวกเราจะแจ้งตำรวจแล้ว!” คนคนนั้นตะคอกเสียงดัง
“น้องชาย…”
“ไปเดี๋ยวนี้!”
ก่อนที่คนขับรถจะได้พูดอะไรต่อ มีคนก้าวออกมาพร้อมที่จะกระทืบเขา
คนขับรถไม่มีทางเลือก หันหลังแล้วเดินจากไป
แต่ก่อนที่จะได้ขึ้นรถ ทันใดนั้น…
ปัง!
มีเสียงระเบิดดังขึ้นจากด้านหลัง จากนั้นมีรถยนต์คันหนึ่งลอยสูงขึ้นกลางอากาศสามถึงสี่เมตรแล้วตกลงมากระแทกพื้นอย่างแรง
เสียงระเบิดทำให้ทุกคนสะดุ้งตกใจ
คนขับรถก็รีบหันไปมอง
เขาพบว่าจุดที่เกิดการระเบิดมีเงาสีแดงกำลังพุ่งตรงมาทางนี้ราวกับสายไฟ
“ว้าว!”
คนขับรถอุทาน
แต่ตอนที่เขาตั้งสติได้ เงาสีแดงได้พุ่งผ่านเขาไปแล้ว
“คุณยังจะยืนอยู่ตรงนั้นทำไม? รีบขึ้นรถ ไล่ตามไปสิ!”
ช่างภาพและนักข่าวที่อยู่บนรถเหมือนเข้าใจอะไรบางอย่าง รีบยื่นหน้าออกมาตะโกน
คนขับรถตั้งสติได้ รีบวิ่งขึ้นรถ จากนั้นขับรถไล่ตามเงาสีแดงออกไป
เงาสีแดงที่พูดถึงย่อมเป็นเจ้าสำนักหงเหยียน
สภาพของเธอในตอนนี้สะบักสะบอมมาก พยายามโคจรพลังทั้งหมดหนีออกจากเมืองเจียงเฉิน
เธอไม่เคยคิดไม่เคยฝันว่าวันหนึ่งจะโดนไล่ต้อนจนถึงขนาดนี้
“หมอเทวดาหลิน!”
“หมอเทวดาหลิน!”
“หมอเทวดาหลิน!”
“อย่าพูดไร้สาระ ฉันโดนหมอเทวดาหลินลอบโจมตี พลังของฉันถูกทำลาย ร่างกายได้รับบาดเจ็บ! พวกคุณรีบคุ้มกันฉันไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้!” เจ้าสำนักหงเหยียนตะคอกด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม
คนคนนั้นพยักหน้า “เจ้าสำนักโปรดวางใจ พวกเราจะต้องถ้าคุณกลับถึงสำนักหงเหยียนแน่นอน”
“จัดการพวกเขา!”
เจ้าสำนักตะคอก หันหลังแล้วเตรียมตัวไปจากที่นี่
แต่ทันทีที่เธอเพิ่งหันหลัง ผู้หญิงที่คุกเข่าอยู่บนพื้นชักมีดสั้นออกจากแขนเสื้ออย่างกะทันหัน แทงไปที่แผ่นหลังของเจ้าสำนักหงเหยียนโดยตรง
ฉึก!
เสียงเฉือนดังขึ้น
“อ๊าก!”
เจ้าสำนักหงเหยียนร้องด้วยความเจ็บปวด ร่างกายเซไปข้างหน้าเกือบล้มลงพื้น
ตอนที่เธอหันกลับมามองลูกศิษย์คนนั้น พบว่าลูกศิษย์ของสำนักหงเหยียนกำลังถือกระบี่จ่อมาที่เธอ…
“พวกคุณ…หักหลังฉัน?”
เจ้าสำนักหงเหยียนเบิกตากว้าง มองลูกศิษย์สำนักหงเหยียนโดยรอบอย่างไม่เชื่อสายตา
เธอสามารถมองเห็นอย่างชัดเจน คนพวกนี้เป็นลูกศิษย์ของสำนักหงเหยียน
แม้เธอจะจำชื่อไม่ได้ แต่ทุกคนที่อยู่ที่นี่ล้วนแต่คุ้นหน้า
ไม่มีทางเป็นตัวปลอมแน่นอน!
ทว่า…พวกเธอกลับจ่อกระบี่มาหาตนเอง
เจ้าสำนักหงเหยียนตะคอกด้วยความโกรธ กำหมัดแน่นจนเกิดเสียงกระดูกดังก๊อกแก๊ก จ้องลูกศิษย์คนนั้นแล้วตะคอกพูด “จ้าวหัน! ฉันไม่ดีต่อพวกคุณตรงไหน ทำไมพวกคุณถึงต้องหักหลังฉัน?”
“ไม่ดีตรงไหน? เจ้าสำนัก คุณกำลังจะฆ่าพวกเราอยู่ใน ยังมาถามพวกเราว่าไม่ดีต่อพวกเราตรงไหน?” ผู้หญิงที่ชื่อจ้าวหันพูดด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์
“ฆ่า?”
“คุณคิดว่าพวกเราไม่รู้จริงเหรอ? ศิษย์น้องจ้าวเยว่และคนอื่นบอกพวกเราหมดแล้ว ศิษย์พี่ศิษย์น้องมากมายของพวกเราไม่ได้ออกไปทำภารกิจนอกหุบเขา แต่พวกเธอโดนคุณจับไปใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับการฝึกวิชา คุณใช้พวกเธอเป็นเครื่องบูชายันต์ทั้งเป็น!” จ้าวหันพูดด้วยความโกรธ
“ดังนั้นคุณก็เลยหักหลังฉัน? ต้องการฆ่าฉัน?” เจ้าสำนักหงเหยียนกัดฟันพูด
“แน่นอน อยู่กับนางปีศาจที่ฆ่าคนไม่กระพริบตาอย่างคุณ พวกเราไม่สู้อยู่กับหมอเทวดาหลินดีกว่า! หมอเทวดาหลินมีจิตใจกว้างขวาง ทักษะการแพทย์ล้ำเลิศ เขาต่างหากที่สามารถมอบความเป็นอมตะให้พวกเรา บำเพ็ญร่วมกับคุณ พวกเราจะตายวันไหนก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ” จ้าวหันหัวเราะแล้วพูด
“นางแพศยา! ฉันว่าคุณหลงรูปลักษณ์ของหมอเทวดาหลินมากกว่ามั้ง?” เจ้าสำนักหงเหยียนโกรธมาก ในแววตาเต็มไปด้วยเจตนาแห่งการฆ่า “แต่ดูเหมือนพวกคุณจะลืมสถานะของตัวเองหรือเปล่า? อาศัยพวกคุณ คิดจะฆ่าเจ้าสำนักอย่างฉัน? น่าขำสิ้นดี! ฉันต้องการบดขยี้มดอย่างพวกคุณ มันง่ายยิ่งกว่าพลิกฝ่ามือ!”
พูดจบ เจ้าสำนักหงเหยียนก้าวออกมาข้างหน้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...