ทุกคนอึ้ง หันสายตาไปมองทางประตูใหญ่
คนคนนั้นคือหลินหยาง!
สีหน้าของเขาเย็นชาจนถึงขีดสุด เดินเข้าประตูมาอย่างใจเย็น
“พี่หลิน?” หลิวหรูซือพึมพำเสียงเบา
หลินหยางเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าหลิวหรูซือ จากนั้นผลักลงทัณฑ์ไปด้านข้างแล้วประคองเธอลุกขึ้น
มองดูหลิวหรูซือที่มีบาดแผลและเลือดตามร่างกาย หลินหยางรู้สึกปวดใจมาก
โดยเฉพาะมือทั้งคู่ของเธอ นิ้วมือแตกหักจนหมด
มันต้องผ่านการลงโทษแบบไหน สภาพถึงได้น่าเวทนาเช่นนี้?
หลินหยางไม่อยากเชื่อ
ตนเองแค่นอนหลับไปตื่นเดียว กลับเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น!
โชคดีที่เขาตื่นเร็ว ถ้าหากช้ากว่านี้อีกแค่ก้าวเดียว หลินหยางคงต้องรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต
“หรูซือ คุณเป็นยังไงบ้าง?”
หลินหยางพูดด้วยความเป็นห่วง พลางหยิบเข็มเงินออกมาฝังเข็มให้หลิวหรูซือ
“ฟู่!”
หลิวหรูซือถอนหายใจอย่างโล่งอก หลังจากที่ได้รับการฝังเข็ม ความเจ็บปวดบนร่างกายของเธอบรรเทาลงไม่น้อย แต่มือและเท้าของเธอยังรู้สึกปวดมาก ร่างกายกำลังสั่นเล็กน้อย
“พี่หลิน! คุณมาทําอะไรที่นี่? คุณรีบไปเดี๋ยวนี้ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ…” หลิวหรูซือพูดด้วยความร้อนใจ
“หรูซือ ทำไมคุณถึงทำเรื่องโง่แบบนี้?” หลินหยางพูดตำหนิ
“พี่หลิน…”
“คุณไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ที่เหลือปล่อยให้ผมเป็นคนจัดการเอง”
หลิวหรูซือเงียบทันที
“ผู้มาเป็นใคร? ใจกล้ามาก ถึงขั้นกล้ามาก่อกวนการลงทัณฑ์!”
อาวุโสสี่ลุกขึ้นตะคอกด้วยความไม่พอใจทันที
น้ำเสียงที่เย็นชาของเขาเต็มไปด้วยแรงกดดัน
และทันทีที่พูดจบ ผู้ลงทัณฑ์ทั้งสามสิบหกคนชักดาบออกมา พุ่งเข้าไปปิดล้อมหลินหยาง
เจตนาแห่งการฆ่าท่วมท้น
“อาวุโสสี่ทำแบบนี้หมายความว่ายังไง? ทำไมต้องปรักปรำคนดี? ทำไมต้องฆ่าคนที่ไม่เกี่ยวข้อง?”
หลินหยางเงยหน้าพูดกับอาวุโสสี่ด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาอย่างกะทันหัน
“บัดซบ! หลินหยาง คุณหมายความว่ายังไง? ถึงขั้นกล้าใช้น้ำเสียงแบบนี้พูดกับอาวุโสสี่? คุณรู้หรือเปล่าว่าที่นี่คือที่ไหน?” หลี่เถาก้าวออกมาตะคอกด้วยความโกรธ
“ใช่แล้ว! อีกอย่างนะหลินหยาง คุณบอกว่าปรักปรำคนดี? ฆ่าคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง? นี่คุณกำลังพูดเหลวไหลอะไรของคุณ? หลิวหรูซือรับสารภาพทั้งหมดแล้ว หลักฐานพยานอยู่ที่นี่ หรือคุณต้องการเปลี่ยนดำให้กลายเป็นขาว?” เสวียเซียงพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูถูก
“เรื่องเปลี่ยนดำให้เป็นขาวผมไม่ทำแน่ แต่ถ้าหากมีคนบอกว่าขาวคือดำ ผมไม่มีทางอยู่เฉยแน่นอน!” หลินหยางคะคอก
คำพูดประโยคนี้ทำให้ทุกคนขมวดคิ้ว
เสวียเซียงชี้หน้าด่าทอโดยตรง “หลินหยาง! คุณกำลังผายลมเหรอ? หลิวหรูซือคิดจะฆ่าผมต่อหน้าผู้คนมากมาย! เรื่องนี้ทุกคนเห็นกับตา! คุณไปเอาเรื่องปรักปรำมาจากไหน? คุณอย่ามาพูดเหลวไหล!”
“บังอาจ!”
หลินหยางหันไปตะคอกอย่างกะทันหัน “อาวุโสอยู่ที่นี่ทั้งคน คุณพูดจาเสียมารยาทแบบนี้ได้ยังไง? หรือคุณไม่เห็นความน่าเกรงขามและความศักดิ์สิทธิ์ของตำหนักลงทัณฑ์สวรรค์อยู่ในสายตา? หรือว่าคุณไม่เคยเห็นอาวุโสอยู่ในสายตาเลย?”
“คุณ…” สีหน้าของเสวียเซียงเปลี่ยนไปทันที เริ่มพูดอ้ำอึ้ง “ผมจะกล้าไม่เห็นอาวุโสอยู่ในสายตาได้ยังไง? ผมก็แค่โกรธมากเกินไป ก็เลยพูดเสียงดังไปหน่อย ไม่เหมือนคุณ บุกรุกเข้ามาก่อกวนโดยตรง! คนที่ทำตัวบังอาจควรจะเป็นคุณมากกว่า!”
“ผมก็แค่ไม่อยากให้อาวุโสตัดสินใจผิด ดังนั้นก็เลยบุกเข้ามา ที่ผมทำไปทั้งหมดก็เพราะหวังดีต่ออาวุโสสี่ของตำหนักลงทัณฑ์สวรรค์ คุณไปเอาคำพูดพวกนี้มาจากไหน?” หลินหยางถามด้วยน้ำเสียงที่นิ่งสงบ
“คุณ…พูดเหลวไหล! พูดเหลวไหล!” เสวียเซียงยิ่งรู้สึกโมโห
“น้องพี่ ใจเย็นก่อน อย่าไปต่อปากต่อคำกับเขา”
ในตอนนั้นเอง ชวี่ช่ายกวนยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดห้ามปรามเสวียเซียงที่เริ่มไม่สามารถควบคุมตัวเอง
“พี่ใหญ่ คุณต้องออกหน้าแทนผมด้วย” เสวียเซียงรีบพูด
“สบายใจได้ มีอาวุโสสี่อยู่ที่นี่ ถึงเขาจะพูดยังไงก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความจริง”
มุมปากของชวี่ช่ายกวนกระตุกขึ้น หันไปพูดกับหลินหยาง “ศิษย์น้องหลิน ตามที่คุณเพิ่งพูดมา คุณคิดว่าหลิวหรูซือไม่มีความผิดใช่หรือเปล่า?”
“แน่นอน”
“แต่ทุกคนเห็นกับตาว่าเธอใช้มีดสั้นแทงเสวียเซียง หรือคุณคิดว่าตาของทุกคนมีปัญหา?” ชวี่ช่ายกวนยิ้มแล้วพูด
“ผมว่าเขาเห็นพวกเราเป็นคนโง่มากกว่า!”
“แล้วมันไม่จริงเหรอ ก็พวกเราเห็นกับตาถึงได้พูดไปแบบนั้น”
“ฉันว่าสมองของหลินหยางต้องมีปัญหาแน่”
“ใช่!”
ลูกศิษย์ทุกคนพากันพูดเยาะเย้ย
เสวียเซียงก็เริ่มไม่สบอารมณ์ พูดด้วยน้ำเสียงที่ขยะแขยง “พอได้แล้วมั้ง? หลินหยาง! คุณเลิกทำให้ทุกคนเสียเวลาได้แล้ว! เสร็จหรือยัง?”
“เสร็จแล้ว!”
หลินหยางดึงมือกลับ พยักหน้าเล็กน้อย
“ในเมื่อตรวจสอบเรียบร้อย ผลสรุปก็น่าจะชัดเจนแล้วมั้ง?” เสวียเซียงยิ้มเล็กน้อย หันไปพูด “อาวุโสสี่ เชิญคุณประกาศผลการตัดสิน ทำการลงโทษได้แล้ว!”
“อืม”
อาวุโสสี่พยักหน้า ในขณะที่กำลังจะพูด
หลินหยางถามขึ้นอย่างกะทันหัน “ประกาศผลอะไร?”
“ก็ต้องเรื่องที่หลิวหรูซือพยายามฆ่าศิษย์พี่เสวียเซ๊ยงไง” หลี่เถายิ้มอย่างเย็นชาแล้วพูด
“พยายามฆ่า? ไร้สาระสิ้นดี” หลินหยางพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์
“หลินหยาง เมื่อกี้คุณก็ตรวจสอบบาดแผลแล้ว! ทำไม? หรือคุณอยากเปลี่ยนดำให้เป็นขาว?” เสวียเซียงพูด
“เปลี่ยนดำให้เป็นขาวอะไร? ก็เห็นอยู่ว่าตรงหน้าอกของคุณไม่มีบาดแผล! แต่คุณกลับใส่ร้ายศิษย์น้องหลิว! ผมว่าคนที่กำลังจะเปลี่ยนดำให้เป็นขาวคือคุณมากกว่า!” หลินหยางพูด
คำพูดประโยคนี้ทำให้ทุกคนตกตะลึง
“คุณพูดอะไรนะ? ตรงหน้าอกของผมไม่มีบาดแผล?”
“ใช่!”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ผมว่าคุณบ้าไปแล้วมั้ง? เบิกตาสุนัขของคุณดูให้ดีว่านี่ใช่บาดแผลที่หลิวหรูซือใช้มีดแทงผมหรือเปล่า!”
เสวียเซียงหัวเราะ จากนั้นเปิดเสื้อช่วงตรงหน้าอก เพื่อแสดงบาดแผลต่อหน้าทุกคน
“ทุกคนดูให้เต็มตา หมอนี่กำลังผายลม!”
ทว่า…ทุกคนที่หันไปมองกับตกตะลึง
“เห็นหรือยัง? เห็นหรือยัง?”
เสวียเซียงเดินวนหนึ่งรอบ หลังจากนั้นหันหน้าอกของตนเองไปทางอาวุโสสี่ เขายิ้มอย่างมีชัย “อาวุโสสี่ หลักฐานพยานทุกอย่างอยู่ที่นี่แล้ว! คำพูดของหลินหยางไม่น่าเชื่อถือ! ตอนที่อาวุโสลงโทษหลิวหรูซือ รบกวนช่วยลงโทษหลินหยางข้อหาใส่ร้ายผู้อื่นด้วย!”
เสวียเซียงพูดอย่างหนักแน่น
ทว่า…ทุกคนที่อยู่ในห้องโถงกับเงียบสนิท
สายตาของทุกคนมองไปทางบาดแผลของเขา
เสวียเซียงเห็นสถานการณ์ รอยยิ้มบนใบหน้าแข็งทื่อ
มองดูสีหน้าของผู้คนโดยรอบ หัวใจของเขาสั่นสะท้าน ลางสังหรณ์ที่ไม่ดีผุดขึ้นในตใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...