สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา นิยาย บท 1502

"รีบปลอมตัวออกไป ปกปิดตัวตนให้ดีและรอจังหวะที่เหมาะสมเพื่อพาตัวหลินหยางออกไป! จำไว้ว่าอย่าให้เขาได้รับอันตรายเด็ดขาด!"

เชียนเย่กล่าวน้ำเสียงทุ้มต่ำ "หากพาหลินหยางกลับไปสำนักสวรรค์อินทนิลของผมได้ เพียงแค่มีอสูรร้ายไร้เทียมทานคนนี้เพียงคนเดียว สำนักสวรรค์อินทนิลของผมก็ไม่จำเป็นต้องเกรงกลัวใครอีกต่อไปแล้ว!"

"รับทราบ!"

ทุกคนต่างขานรับ

ทว่าขณะนี้เอง

"ฮ่าๆๆ..."

เสียงหัวเราะได้ดังกึกก้องไปทั่วท้องฟ้า

ทุกคนต่างพากันตื่นตระหนกและเงยหน้าขึ้นมอง

ที่แท้แล้วคนที่หัวเราะเสียงดังกังวานก็คือเจ้าสำนักโม่ซินนั่นเอง

เมื่อเห็นว่าใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้มและแววตาที่ลุกเป็นประกายจับจ้องไปที่หลินหยาง "สหาย! ขอบคุณมาก! ขอบคุณจริงๆ! ฮ่าๆๆ..."

"ขอบคุณ?" หลินหยางพึมพำและจ้องมองเธอ

"วันนี้ฉันบังเอิญได้เลือดวิญญาณลั่วหลินสิบหยดมาครอบครอง เดิมทีก็คิดว่าวันนี้เป็นวันที่โชคดีมากแล้ว แต่คิดไม่ถึงเลยว่าคุณจะนำเลือดวิญญาณลั่วหลินยี่สิบหยดมามอบให้ฉันอีก แล้วแบบนี้ทำไมฉันจะไม่ขอบคุณคุณล่ะ" เจ้าสำนักโม่ซินหัวเราะเสียงดัง

"โม่ซิน คุณอย่าเพิ่งได้ใจไปหน่อยเลย! คุณมีเพียงแค่สิบสามหยดเท่านั้น ผมมีถึงยี่สิบหยด ระหว่างผมและคุณใครจะเป็นฝ่ายชนะก็ยังไม่แน่เสมอไป!" หลินหยางกล่าวน้ำเสียงเรียบ

"คุณไม่อยู่สถานการณ์ตรงหน้าให้ดีหน่อยเหรอ?" เจ้าสำนักโม่ซินหัวเราะและกล่าวว่า "คุณลืมไปแล้วเหรอว่าตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน? ยี่สิบหยด? สิบสามหยด? คุณคิดว่าฉันจะต่อสู้กับคุณเพียงลำพังงั้นเหรอ?"

หลังจากพูดจบ เจ้าสำนักโม่ซินได้หยิบท่อนไม้ขนาดเท่ากับปากกาออกมาจากด้านหลังและยกขึ้นสูง จากนั้นได้หักท่อนบนลงด้วยมือเปล่า

ในชั่วพริบตา

ฟิ้ว!

จากนั้นก็มีประกายแสงสีแดงพุ่งออกมาจากท่อนไม้นั้นและเข้าไปยังท้องฟ้าและแตกกระจาย

ทุกคนต่างพากันเงยหน้าขึ้นมอง

จากนั้นก็เห็นลวดลายนกศักดิ์สิทธิ์เหมือนลายนกฟีนิกซ์สีแดงเพลิงปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าแล้วก็สลายไป

คือพลุส่งสัญญาณ!

หลายคนพอจะเข้าใจอะไรบางอย่างได้

ทว่าวินาทีต่อมา เสียงร้องอุทานอย่างตกตะลึงของเจิ้งถงหยวนก็ได้ดังขึ้น

"คำสั่งนกศักดิ์สิทธิ์! นี่คือคำสั่งนกศักดิ์สิทธิ์!!"

"อะไรนะ? คำสั่งนกศักดิ์สิทธิ์?"

"นี่เป็นคำสั่งเตือนขั้นสูงสุดในการต่อสู้ของสำนักสวรรค์นิรันดรของเราไม่ใช่เหรอ?"

"เจ้าสำนักหมายความว่า? หรือว่าต้องการ...รวบรวมกำลังคนของทั้งสำนักสวรรค์นิรันดรมาเพื่อรับมือกับชายคนนั้น?"

เกิดความโกลาหลขึ้นในที่เกิดเหตุ และผู้คนของสำนักสวรรค์นิรันดรก็ต่างพากันวิตกกังวลเล็กน้อย

จากนั้นได้มีเจ้าตำหนักคนหนึ่งรีบตะโกนออกไป "ทุกคนรีบเตรียมตัวรับมือ และเตรียมพร้อมกับการต่อสู้ทุกขณะ!"

และเมื่อเสียงนี้ดังออกไป ทุกคนจึงได้สติและรีบรวมตัวเพื่อเตรียมพร้อมกับการต่อสู้ตลอดเวลา

และในขณะเดียวกัน ทั้งสำนักสวรรค์นิรันดรก็เกิดความวุ่นวายอลหม่านเกิดขึ้น

อาวุโสห้าได้นำลูกศิษย์จำนวนมากพากันมาสมทบที่วังสุริยาจันทราดารา

"รองหัวหน้าพันธมิตร นี่มันเกิดอะไรขึ้น?" คนของยอดเขากูเฟิงมองไปรอบๆ ที่มีผู้คนเข้ามาไม่หยุดด้วยความตกใจ และอดไม่ได้ที่จะถามออกมา

"ยังดูไม่ออกอีกเหรอ? เพราะโม่ซินต้องการจะครอบครองเลือดวิญญาณลั่วหลินยี่สิบหยดนั่นยังไงล่ะ! เธอรู้ดีว่าเลือดวิญญาณลั่วหลินสิบสามหยดของเธอไม่สามารถรับมือเจ้าหมอนั่นได้ จึงได้ส่งสัญญาณเรียกรวบรวมกองกำลังของสำนักสวรรค์นิรันดรทั้งหมดมาเพื่อล้อมเขา! เพื่อไม่ให้เขาหนีไปได้! นับว่าเลือดวิญญาณลั่วหลินยี่สิบหยดนั้นน่าเกรงกลัวมาก แต่ก็ไม่ได้เป็นเพียงหนึ่งเดียว บนโลกนี้อาจจะไม่มีใครสามารถต้านทานต่อเลือดวิญญาณลั่วหลินยี่สิบหยดได้เพียงคนเดียว แต่ในสำนักสวรรค์นิรันดรนี้ ผู้คนจำนวนนับหมื่น ชายคนนั้นจะหลุดพ้นไปได้ยังไงล่ะ?" หยานชางไห่พึมพำอย่างเคร่งขรึม

"หมายความว่า เจ้าสำนักโม่ซินจะเป็นผู้ครอบครองเลือดวิญญาณลั่วหลินสามสิบสามหยดงั้นเหรอ?" คนข้างๆ ถามออกไปด้วยความสงสัย

หยานชางไห่ถอนหายใจและกล่าวด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง "หากปล่อยให้เธอได้ครอบครองเพียงคนเดียว บนโลกนี้คงได้ตกเป็นของเธอ และเมื่อถึงตอนนั้น ยอดเขากูเฟิง สำนักสวรรค์อินทนิลก็จะเป็นเพียงเรื่องตลกในสายตาของเธอเท่านั้น..."

"อะไรนะ?"

"งั้น...งั้นจะทำยังไงกันดีล่ะรองหัวหน้าพันธมิตร!"

"เราหันหน้าโอนอ่อนไปหาพวกเขาดีไหม เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับพวกเขาดีไหม?"

ทุกคนโดยรอบต่างพากันตกตะลึงและรีบกล่าวกระซิบ

"ร่วมเป็นพันธมิตร? งั้นคุณคิดว่าเราจะยังมีหัวหน้าพันธมิตรอีกไหม? จะยังมีวันคืนที่แสนสบายแบบนี้อีกไหม? ถึงตอนนั้นเจ้าสำนักโม่ซินจะต้องฆ่าเราให้ตายทั้งเป็น คุณอยากเอาชีวิตของตัวเองไปฝากไว้ที่คนอื่นงั้นเหรอ?"

"งั้นรองหัวหน้าพันธมิตรหมายความว่า..."

"เดี๋ยวเราหาโอกาสจังหวะเหมาะแล้วไปแย่งชิงมา!" หยานชางไห่กล่าวอย่างเขี้ยวแค้น

"รับทราบ รองหัวหน้าพันธมิตร!"

ทุกคนต่างขานรับด้วยเสียงต่ำ และสายตาที่แน่วแน่

หลังจากที่โม่ซินปล่อยพลุสัญญาณเตือนขั้นสูงสุดออกไป ทั้งวังสุริยาจันทราดาราก็เต็มไปด้วยผู้คนที่มาปิดล้อม

ทุกคนต่างพากันจับจ้องไปที่หลินหยางอย่างกระตือรือร้น และพร้อมจะฉีกเลือดฉีกเนื้อของเขาทุกเมื่อ

ในขณะนี้ หลินหยางดูไร้ความช่วยเหลือ!

และไม่มีใครรู้ว่าหลินหยางกำลังคิดอะไรอยู่

นำเลือดวิญญาณลั่วหลินยี่สิบหยดมาที่สำนักสวรรค์นิรันดรเพื่อยั่วยุเจ้าสำนัก?

นี่ไม่เป็นการนำเลือดวิญญาณลั่วหลินมามอบให้อย่างเปิดเผยเหรอ?

เจ้าสำนักก็ไม่ใช่คนโง่ที่จะต่อสู้กับเขาเพียงลำพัง

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเลือดวิญญาณลั่วหลิน โม่ซินจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เลือดวิญญาณลั่วหลินมาครอบครองให้ได้!

และตอนนี้หลินหยางก็ตกอยู่ในสภาวะที่ถูกปิดล้อมอย่างแน่นหนา แม้จะมีปีกก็ยากจะบินหนีออกไป นอกจากนอนรอความตายแล้ว เขายังมีตัวเลือกอื่นอีกเหรอ?

คนของสำนักสวรรค์นิรันดรต่างไม่ละสายตาไปจากเขา ทุกคนต่างเฝ้าจับตามองอย่างกระตือรือร้น

ทว่าหลินหยางกลับเฉยเมยและไม่ร้อนรน

"สหาย! ฉันจะไม่ทำให้คุณลำบากใจเกินไป หากคุณยอมจำนนและมอบเลือดวิญญาณลั่วหลินยี่สิบหยดออกมาแต่โดยดี ฉันจะไม่ฆ่าคุณ" เจ้าสำนักโม่ซินหัวเราะเบาๆ

"โม่ซิน คุณคิดว่าเรื่องแค่นี้จะสามารถทำอันตรายกับผมได้ยังงั้นเหรอ? ถ้าเป็นแบบนั้นความคิดของคุณช่างไร้เดียงสาเหลือเกิน" หลินหยางส่ายหน้าและกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย

"คุณคิดว่าพวกเขาไม่มีทางฆ่าคุณได้งั้นเหรอ?"

"บางครั้งคนเยอะก็ไม่ได้จะดูมีประโยชน์เสมอไป! ในเมื่อผมกล้ามาที่นี่ ผมก็ไม่มีทางกลัวพวกเขา โม่ซิน ผมเตือนคุณไว้เลยว่าอย่าให้พวกเขาลงมือ คุณบอกให้พวกเขาลงมือก็เหมือนการส่งพวกเขามาตาย! ถือว่าได้ไม่คุ้มเสีย" หลินหยางกล่าว

"ฮ่าๆ น่าสนใจ! น่าสนใจมาก! สำนักสวรรค์นิรันดรของฉันกลับถูกดูถูกเหยียดหยามโดยคนที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงอย่างคุณ! ดี! ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นฉันจะทำให้คุณได้เห็นความสามารถอันเก่งกาจของคนในสำนักสวรรค์นิรันดรดูสักหน่อย!" โม่ซินพูดจบและได้ตะโกนออกมา "ได้ยินที่ฉันพูดไหม?"

"ชายคนนั้น...ดูเหมือนจะเก่งกาจมากๆ!"

"พลังความสามารถของเลือดวิญญาณลั่วหลินยี่สิบหยดช่างน่าหวาดกลัวมากจริงๆ มันสามารถทำให้ร่างกายของเราเป็นเหมือนเหล็กกล้า และพละกำลังที่เหมือนหุบเขาและสายฟ้า เหลือเชื่อจริงๆ!"

ขณะที่มีลูกศิษย์บาดเจ็บล้มตายลงเรื่อยๆ บนพื้นก็ยิ่งเต็มไปด้วยเลือดสดที่ไหลนอง

"เจ้าตำหนัก ช่วยด้วย!"

ลูกศิษย์คนหนึ่งที่ถูกเข็มของหลินหยางแทงได้ร้องขอความช่วยเหลืออย่างโหยหวน

เจิ้งถงหยวนเห็นเช่นนั้นจึงได้รีบวิ่งเข้าไป

แต่ยังไม่ทันจะเข้าไปใกล้ ลูกศิษย์คนนั้นก็กระอักเลือดออกมา จากนั้นก็มีเลือดไหลทะลักออกมาทั้งจากดวงตาและจมูกของเขา

สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปอย่างมาก

เจิ้งถงหยวนรีบดึงเข็มออกเพื่อทำการรักษา

"เจ้าตำหนักเจิ้ง เขาเป็นยังไงบ้าง?" เจ้าตำหนักที่อยู่ข้างๆ รีบถามขึ้นมา

"เส้นหลอดเลือดเส้นหนึ่งของเขาฉีกขาด แม้ว่าตอนนี้จะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ก็ทำให้เขาต้องเจ็บปวดทุกข์ทรมานมาก และคงอีกไม่นานเขาจะต้องตายลงเพราะการเสียเลือดมาก!" เจิ้งถงหยวนกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม

"จริงเหรอ? ผมก็คิดว่าเขาถูกวางยาพิษซะอีก!"

"เข็มของเจ้าหมอนี่...โหดร้ายมาก!"

ทุกคนต่างพากันสาปแช่ง

"ลูกศิษย์ธรรมดาเกรงว่าจะรับมือเขาไม่ได้! ต้องให้เจ้าสำนักลงมือจัดการ ไม่งั้นจะต้องมีคนบาดเจ็บล้มตายมากขึ้นแน่ๆ" อาวุโสห้าอดไม่ได้ที่จะพูดออกมา

"พูดถูก!"

เจิ้งถงหยวนพยักหน้า และเดินนำทุกคนไปยังโม่ซิน

อย่างไรก็ตาม โม่ซินกำลังจ้องมองไปยังหลินหยางอย่างคิ้วขมวด ราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่าง

"เจ้าสำนักรีบลงมือจัดการคนชั่วสารเลวคนนั้นเถอะ!" เจิ้งถงหยวนยกกำปั้นขึ้นกล่าว

"เจ้าสำนักรีบลงมือจัดการคนชั่วคนนั้นเถอะ!"

ทุกคนต่างพากันร้องตะโกน

ทว่าเจ้าสำนักโม่ซินยังคงจ้องมองหลินหยางอย่างไม่ละสายตา ราวกับไม่ได้ยินสิ่งที่พวกเขาเหล่านั้นพูดออกไป

เจิ้งถงหยวนและอาวุโสห้ามองหน้ากันอย่างทำอะไรไม่ถูก

เจ้าสำนักเป็นอะไรไป?

และจังหวะนี้เอง เจ้าสำนักโม่ซินก็ได้พึมพำออกมา "แปลก! แปลกมาก!"

แปลกมาก?

ทุกคนต่างพากันสงสัยมากขึ้น

"เจ้าสำนัก มีอะไรผิดปกติไปงั้นเหรอ?" อาวุโสห้าถามออกไปอย่างลังเลใจ

"เลือดนี้...มีปัญหา!" โม่ซินกล่าวอย่างเคร่งขรึม และทันใดนั้นเองเหมือนเธอนึกอะไรบางอย่างได้ จากนั้นสีหน้าของเธอก็ซีดเผือดลงอย่างมาก...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา