สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา นิยาย บท 1511

หลังจากที่หยานชางไห่ตายลง ยอดเขากูเฟิงก็ไร้ซึ่งผู้นำและคนที่เหลืออยู่มีหรือจะกล้าต่อสู้อีก? จากนั้นทั้งหมดก็ได้แยกย้ายกันหนีออกไป

หัวหน้าของพรรคอื่นๆ ที่เหลืออยู่ก็ตื่นตระหนกและต่างไม่กล้าออกมาสู้

แม้แต่หยานชางไห่ก็ถูกฆ่าตาย พวกเขาจะยังกล้าออกมาต่อสู้กับหลินหยางอีกเหรอ?

ระยะเวลาเพียงไม่นานทุกคนก็ต่างถดถอยออกไป และบริเวณรอบตัวของหลินหยางก็เหมือนกับเป็นสุญญากาศที่ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้

เมื่อหลินหยางเห็นแบบนี้ก็ได้หันหลังขวับและกล่าวอย่างเคร่งขรึม "คุณเจิ้ง!"

"อยู่นี่..." เจิ้งฮั่นซานรีบตอบรับหลังจากดึงสติได้

"ไปกันเถอะ!"

หลินหยางหันหลังกลับและเดินออกไปทันที

"อ๋า?"

เจิ้งฮั่นซานตกตะลึง

หลินหยางที่นมีพละกำลังแข็งแกร่งและฆ่าผู้คนอย่างโหดเหี้ยมที่ไม่มีใครเทียบได้ ทำไมจู่ๆ ถึงบอกยกเลิกการต่อสู้ง่ายดายแบบนี้?

ทว่าดูเหมือนเชียนเย่จะเข้าใจอะไรบางอย่างจึงได้ตะโกนไปยังลูกศิษย์ที่ได้รับบาดเจ็บ "รีบตามหลินหยางออกไป เร็วเข้า!"

จากนั้นคนของสำนักสวรรค์อินทนิลก็ได้แยกย้ายกันออกไปอย่างรวดเร็ว

เมื่อมีหลินหยางนักฆ่าผู้ไม่ปรานีใครอยู่ ทำให้ใครก็ไม่อาจมาขัดขวางเขาได้

เป็นผลให้ภายนอกของสำนักสวรรค์นิรันดรที่มีกลุ่มลูกศิษย์จำนวนมากรายล้อมอยู่ ทว่ากลับไม่มีใครกล้าเข้ามาขัดขวางหลินหยางสักคน และกลับเปิดทางปล่อยให้เขาออกไปอย่างง่ายดาย

"อะไรกัน?"

อาวุโสห้า เจิ้งถงหยวนและคนอื่นๆ ต่างพากันตกตะลึงหน้าถอดสี

"อย่าให้พวกเขาหนีไป! เร็วเข้า! รีบขัดขวางพวกเขาเดี๋ยวนี้!" เจ้าตำหนักเวินตะโกนสุดเสียง

ทว่า...กลับไม่มีใครขานรับ

"พวกคุณมัวทำอะไรกัน? รีบขัดขวางพวกเขาไว้! เร็วเข้า!" เจิ้งถงหยวนร้อนใจจนกระโดดโลดเต้นและตะโกนออกไปอย่างต่อเนื่อง

ทว่าลูกศิษย์ทั้งหมดกลับก้มหน้าลงและยืนอยู่กับที่ด้วยอาการตัวสั่น

ล้อเล่นกันใช่ไหม!

เขาเพิ่งจะตัดศีรษะของรองหัวหน้าพันธมิตรของยอดเขากูเฟิงไป

พวกเราเป็นเพียงลูกศิษย์กระจอกงอกง่อยธรรมดาที่มีความสามารถน้อยนิดเท่านั้น จะเอาอะไรไปสู้กับเขาได้?

อีกอย่างแม้แต่คนที่เป็นอาวุโสและเจ้าตำหนักก็ยังไม่สามารถขัดขวางได้ และปล่อยให้ลูกศิษย์ธรรมดาอย่างพวกเขาไปขัดขวาง? เรียกให้พวกเขาไปตายเหรอ?

จึงส่งผลให้ ไม่ว่าบรรดาเจ้าตำหนักและอาวุโสจะตะโกนออกไปยังไงก็ไม่มใครกล้าขยับ

ทำให้โม่ซินที่กำลังเตรียมเข็มร้อนใจอย่างมากและจ้องเขม็งมองไปที่หลินหยางที่กำลังเดินจากไป แววตาของเธอแดงก่ำและร่างกายก็สั่นสะท้านไปทั่ว

และในที่สุด

อั่ก!

โม่ซินอ้าปากและกระอักเลือดออกมา

การใช้ทักษะวิชาเข็มเทพทำลายล้างไม่สามารถหลุดจากสมาธิได้ แต่การที่หลินหยางเดินหนีออกไปแบบนี้ จะไม่ทำให้เธอหลุดจากสมาธิได้ยังไง?

เมื่อเห็นโม่ซินกระอักเลือดออกมาก็ทำให้ทุกคนรู้ได้ว่า การทำงานของวิชาเข็มเทพทำลายล้างไม่เป็นผลสำเร็จ

เมื่อเป็นแบบนี้ ทำให้แผนการสุดท้ายในการกำจัดหลินหยางของสำนักสวรรค์นิรันดรก็ไม่มีเหลืออยู่เลย

"คนสารเลว! อย่าคิดจะได้ออกไปจากที่นี่เลย! คืนเลือดวิญญาณลั่วหลินมาให้ฉันเดี๋ยวนี้!"

โม่ซินตะโกนออกไปสุดเสียงและไม่สนใจร่างกายที่บาดเจ็บจากผลกระทบของวิชาเข็มเทพทำลายล้างที่ล้มเหลวลง จากนั้นได้ลุกขึ้นไล่ตามหลินหยางอย่างบ้าคลั่ง

"เจ้าสำนัก! อย่าทำแบบนั้น!"

"เจ้าสำนักใจเย็นเข้าไว้! อย่าประมาท! การทำงานของวิชาเข็มเทพทำลายล้างล้มเหลวลงแล้ว และตอนนี้เราไม่ได้เป็นคู่ต่อสู้ของชายคนนั้นได้แล้ว หากยังประมาทอยู่แบบนี้ก็มีแต่จะตาย!"

"เจ้าสำนักใจเย็น!"

ทุกคนต่างพากันไปขัดขวางโม่ซินและพากันเกลี้ยกล่อมเธอ

โชคดีที่แม้ว่าโม่ซินจะโกรธจัดและอารมณ์เดือดพล่าน แต่เธอยังไม่เสียสติและมีเหตุผลอยู่

แม้การทำงานของวิชาเข็มเทพทำลายล้างจะไม่เป็นผล และต่อให้ไล่ตามชายคนนั้นได้ทันก็ไม่สามารถรั้งเขาเอาไว้ได้ ตอนนี้เธอก็ได้สูญเสียเลือดวิญญาณลั่วหลินไป หากยังต่อสู้กับเขาอีกจะยิ่งแย่ไปกันใหญ่

"พวกคุณไร้ประโยชน์!" โม่ซินกัดฟันกรอดและผลักหลังมือออกไป รัศมีบางอย่างกระทบไปยังบรรดาอาวุโสและเจ้าตำหนัก

"อ๊า!"

ทุกคนต่างร้อนอุทานอย่างคร่ำครวญและกระอักเลือดออกมา

"คนจำนวนมากขนาดนี้ แต่กลับรั้งคนคนเดียวไว้ไม่ได้! สำนักสวรรค์นิรันดรเลี้ยงพวกคุณที่ไร้ความสามารถแบบนี้ไปเพื่ออะไร?" โม่ซินด่าทอออกมาด้วยความโกรธ

และเมื่อคนเหล่านี้เพิ่งจะพุ่งเข้ามา แต่ละคนก็ตัวแข็งทื่อและล้มชักลงกับพื้นทันที ด้วยอาการน้ำลายฟูมปาก...

"อะไรกัน?"

เชียนเย่และทุกคนต่างตกตะลึง

"หรือเป็นเพราะ...ผลกระทบของฝุ่นผงของหลินหยาง?" เจิ้งฮั่นซานกล่าวอย่างไม่เชื่อสายตา

"ทักษะทางการแพทย์ของคนคนนี้ดูเหมือนจะไม่ต่างไปจากโม่ซินเท่าไร เร็วเข้า รีบตามหลินหยางไปให้ทัน!"

เชียนเย่กล่าวอย่างเคร่งขรึมและรีบตามไป

หลินหยางหยุดพักลงที่หมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งภายนอกหุบเขา

ในโรงแรม ณ หมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง เขาได้พบกับหลิวหรูซือที่กำลังนอนหมดสติอยู่

ทว่าตอนนี้หลิวหรูซือได้ฟื้นตัวขึ้นมากกว่าเดิมแล้ว ชีพจรและการเต้นของหัวใจก็เป็นปกติแล้ว ภายใต้การรักษาและยาดีจากหลินหยางทำให้อาการของเธอหายดีเกือบจะกลับไปเป็นปกติแล้ว และเชื่อว่าอีกไม่นานเธอก็จะฟื้นขึ้นมาได้

หลินหยางถอนหายใจด้วยความโล่งอกและเปิดห้องเพื่อพักผ่อนอย่างสงบ

การต่อสู้ในครั้งนี้ทำให้เขารู้สึกเหน็ดเหนื่อยอย่างมาก

แต่โชคดีที่เขานำเลือดวิญญาณลั่วหลินสิบหยดที่ถูกสำนักสวรรค์นิรันดรแย่งชิงไปกลับคืนมาได้ และยังได้เลือดวิญญาณลั่วหลินสามหยดของโม่ซินมาได้อีกด้วย

และสิ่งที่ต้องทำตอนนี้คือ พยายามเพิ่มระดับความแข็งแกร่งให้กับร่างเทพยุทธของตัวเองและทำให้พลังของเลือดวิญญาณลั่วหลินคงที่

เชียนเย่และคนอื่นๆ ไม่ได้รีบร้อนจะไปไหน พวกเขายังต้องการเจรจากับหลินหยาง จึงได้เปิดห้องข้างๆ เพื่อพักผ่อนรอเขา

เช้าวันรุ่งขึ้น จู่ๆ ก็มีคนของสำนักสวรรค์นิรันดรจำนวนมากเข้ามาในหมู่บ้าน

คนจำนวนหนึ่งปลอมตัวเข้ามานั่งดื่มน้ำชาอยู่ที่ร้านน้ำชาข้างๆ โรงแรม

"หลินหยาง เรามาพูดคุยกันสักหน่อยเถอะ"

เชียนเย่มองไปข้างนอกที่มีลูกศิษย์ของสำนักสวรรค์นิรันดรเดินไปมาและกล่าวขึ้นมา

"หากจะพูดเรื่องการเข้าร่วมกับสำนักสวรรค์อินทนิลคงไม่ต้องพูดแล้ว ผมไม่สนใจ" หลินหยางดื่มน้ำชาและกล่าวด้วยเสียงเรียบเฉย

"หลินหยาง ผมรู้ว่าคุณไม่สนใจ แต่สถานการณ์ของคุณในตอนนี้ไม่ดีเท่าไรนัก งั้นผมพูดตรงๆ เลยแล้วกัน สำนักสวรรค์นิรันดรจะต้องพยายามหาคุณให้เจอเพราะคุณมีเลือดวิญญาณลั่วหลินมากขนาดนี้ โม่ซินไม่มีทางปล่อยคุณไปและเธอจะสรรหาทุกวิถีทางเพื่อแย่งชิงเลือดวิญญาณลั่วหลินในมือคุณไปให้ได้ ผมยอมรับว่าเลือดวิญญาณลั่วหลินมีความแข็งแกร่งมากก็จริง แต่หากต้องเผชิญหน้ากับคนของสำนักสวรรค์นิรันดรจำนวนมากขนาดนั้น แน่นอนว่าคุณไม่มีทางรับมือได้อย่างเด็ดขาด"

เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ เชียนเย่โน้มตัวเข้ามาใกล้เร็วน้อยและกล่าวกระซิบ "ส่วนอาวุโสของสำนักสวรรค์นิรันดร คุณรู้ดีกว่าผมแน่ ครั้งนี้โม่ซินยังไม่ทันฉุกคิดขึ้นได้และถูกคุณทำร้ายจนรับมือแทบไม่ได้ แต่หากเธอเตรียมพร้อมอย่างดีและใช้วิชาลับเฉพาะของสำนักสวรรค์นิรันดรอีก และใช้ยอดฝีมือจำนวนมากของสำนักสวรรค์นิรันดรเข้าโจมตีคุณอีก หลินหยาง ผมว่าคุณคงหมดโอกาสที่จะต้านทานได้แน่ๆ!"

เชียนเย่ไม่ได้พูดให้ตื่นตระหนกเลยสักนิด

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา