สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา นิยาย บท 1527

อี้เซียนเทียนไม่ได้เปิดลำโพง แต่ต่อให้เป็นแบบนั้น หลินหยางก็ได้ยินที่อีกฝ่ายพูดออกมาอย่างชัดเจน

"เป็นยังไงบ้าง จัดการไปถึงไหนแล้ว?" เสียงที่เคร่งขรึมดังออกมาจากโทรศัพท์

"ท่าน...ท่านถง ยัง...ยังไม่ราบรื่นเท่าไรครับ..." อี้เซียนเทียนลังเลเล็กน้อยก่อนจะรวบรวมความกล้าพูดออกไป

"ไม่ราบรื่น? เกิดอะไรขึ้น? คนของหยางหัวไม่ตกลงยอมจำนนเหรอ?" น้ำเสียงของท่านถงเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

"ครับ...เจอเรื่องยุ่งยากนิดหน่อยครับ...แต่ไม่เป็นไรครับ ท่านวางใจได้ ผมสามารถจัดการได้อย่างรวดเร็วครับ ให้เวลาผมอีกสักนิดนะครับ..." อี้เซียนเทียนพยายามฝืนยิ้มเพื่อให้น้ำเสียงของเขาฟังดูผ่อนคลายมากขึ้น

"ฮึ ฉันก็อยากให้เวลานายหรอกนะ แต่ฉันไม่มีเวลาแล้ว"

"ไม่มีเวลา?" อี้เซียนเทียนตกตะลึง เดิมทีไม่คิดจะถามซักไซ้ แต่หลินหยางกลับกดมีดลงไปที่คอเล็กน้อย

จู่ๆ อี้เซียนเทียนก็ขนลุกไปทั่วทั้งตัว และรีบถามออกไป "ท่านถง เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ? ทำไมถึงไม่มีเวลาแล้ว?"

"หืม? นายเป็นอะไรไป?" ท่านถงเหมือนได้ยินอะไรแปลกๆ จึงได้ถามขึ้นมาอย่างระมัดระวัง

"อ้อ...ไม่...ไม่มีอะไรครับ แค่ริมแม่น้ำลมแรงเลยรู้สึกหนาวน่ะครับ...ไม่มีอะไร..." อี้เซียนเทียนฝืนยิ้มออกมา

ท่านถงคงไม่คิดอะไรและได้พูดออกมา "ฟังนะ รีบเอาสูตรยาของหยางหัวกลับมาเดี๋ยวนี้ ส่วนคนของหยางหัว บอกให้เฮ่อเจี้ยนซินฆ่าทิ้งให้หมด และคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ก็ฆ่าให้หมดอย่าให้เหลือ"

"ทำ...ทำไมเหรอครับ?" อี้เซียนเทียนหน้าซีดเผือด

"คนคนนั้นใกล้จะกลับมาแล้ว!" ท่านถงกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม

"คนนั้น...ท่านหมายถึง??"

"จู่ๆ ฉันก็ได้รับข่าวว่าคนนั้นจัดการธุระเสร็จเรียบร้อยแล้วและวันนี้บ่ายจะออกจากสมัชชาใหญ่และรีบกลับมาที่กลุ่มธุรกิจซางเหมิง หากทำให้เขารู้ว่าฉันลงมือจัดการหยางหัว เขาจะต้องโกรธมากแน่ๆ สิ่งที่ต้องทำตอนนี้ก็คือรีบทำภารกิจให้สำเร็จ กำจัดหยางหัวอย่าให้มีหลักฐานหลงเหลืออยู่ ให้ตายอย่างให้หลักฐาน! เข้าใจไหม?"

ท่านถงตะโกนอย่างเคร่งขรึม

"เข้า...เข้าใจครับ" อี้เซียนเทียนเกือบจะร้องไห้ออกมา

ท่านถงกลับพูดออกมาแบบนี้ ทำให้เขารับรู้ได้ถึงสายตาที่แปลกประหลาดของผู้คนโดยรอบ

หากกลุ่มธุรกิจคิดกำจัดหยางหัวจริง เกรงว่าอี้เซียนเทียนคงได้กลายเป็นเครื่องสังเวยแทนคนเหล่านี้ก่อน...

"จากที่ฉันได้ข่าวมาคนนั้นได้ผ่านภูเขาตงหลงมาแล้ว! และกำลังเตรียมขึ้นเครื่องบินส่วนตัวที่สนามบินเมืองตงหลงกลับมา คาดว่าพรุ่งนี้เที่ยงจะเดินทางมาถึงกลุ่มธุรกิจซางเหมิง ตอนนี้ฉันให้เวลานายสองชั่วโมงในการจัดการเรื่องทั้งหมดให้เรียบร้อย หลังจากนี้สองชั่วโมง ฉันจะจัดการลงมือกับหยางหัว! ได้ยินไหม?"

"สองชั่วโมง?" อี้เซียนเทียนหันไปมองหลินหยางด้วยอาการสั่นเทา

หลินหยางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและส่งสัญญาณทางสายตาออกไป

อี้เซียนเทียนเข้าใจได้ทันทีและรีบตะโกนออกไป "ท่านถง เวลาแค่นี้ไม่พอครับ!"

"ทำไมจะไม่พอ?"

"ท่านถง ทางนี้เจอเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นจริง ท่าน...ท่านให้เวลาผมอีกสองชั่วโมงได้ไหมครับ ผมสัญญาว่าจะจัดการให้เสร็จเรียบร้อย!" อี้เซียนเทียนร้องขอ

"ฮึ ไร้ประโยชน์! เรื่องแค่นี้ก็ทำไม่สำเร็จ? กลุ่มธุรกิจซางเหมิงมีนายไว้เพื่ออะไร? อีกสองชั่วโมงโทรกลับมาหาฉัน ฉันหวังว่าจะได้ยินข่าวว่านายทำสำเร็จอย่างราบรื่น ไม่อย่างนั้น นายก็ไม่ต้องกลับมาที่กลุ่มธุรกิจซางเหมิงแล้ว!" ท่านถงพูดน้ำเสียงเยือกเย็นและตัดสายไป

อี้เซียนเทียนถือโทรศัพท์และมองไปที่หลินหยางอย่างสั่นคลอน

"คุณ...คุณหลิน คุณได้ยินหมดแล้วใช่ไหม? ไม่...ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากยื้อเวลาให้คุณ...แต่...แต่เป็นเพราะท่านถงไม่ยอม..." อี้เซียนเทียนพูดเสียงสั่น

"เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณ วางใจได้ ผมไม่โทษคุณ"

หลินหยางกล่าวด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง

"งั้นดี" อี้เซียนเทียนถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

"เจ้าลัทธิ! ฟังจากที่ท่านถงอะไรนั่นพูดมา ดูเหมือนว่าหัวหน้าผู้นำของกลุ่มธุรกิจซางเหมิงกำลังกลับไป! เราต้องคิดหาวิธียื้อเวลาและรอให้ผู้นำคนนั้นกลับไปถึง ตอนนั้นเราก็จะไม่เป็นอะไร" หยวนซิงพูดเสียงเบา

"ผู้นำของพวกเขากำลังเดินทางกลับก็จริง แต่คุณไม่ได้ยินเหรอว่าท่านถงอะไรนั่นทนไม่ไหวแล้ว! เขาได้เร่งเวลาในการโจมตีขึ้นมาแล้ว! ตอนนี้เราแทบไม่มีโอกาสยื้อเวลาได้เลยด้วยซ้ำ! เดิมทียังพอมีเวลาถึงวันพรุ่งนี้ แต่ดูจากตอนนี้คงยื้อไม่ถึงเที่ยงคืนแล้วล่ะ!" หลินหยางกล่าวเสียงแหบแห้ง

หยวนซิงตกใจและไม่พูดอะไร

หญิงคนนั้นไม่พูดอะไร ในมือถือแก้วไวน์และแกว่งเบาๆ แววตาที่ลึกลงไปของเธอเต็มไปด้วยความซับซ้อน

เป็นเวลานานผู้หญิงคนนั้นจึงพูดขึ้นมา "เรื่องของสมัชชาใหญ่ไม่จำเป็นต้องจัดการแล้ว ยังจะอยู่ที่นั่นอีกทำไม? อีกอย่างช่วงนี้กลุ่มธุรกิจซางเหมิงก็มีเรื่องให้ต้องจัดการอีกเยอะ รีบกลับไปจัดการจะได้ไม่เป็นปัญหาภายหลัง"

"รับทราบท่านผู้นำ"

"อ้อใช่ท่านผู้นำ ได้ยินมาว่าคนของพรรคเทียนเจียวก็ไปที่สมัชชาใหญ่ด้วยจริงเหรอ?"

"หืม?" ผู้หญิงผมหงอกหรือผู้นำของกลุ่มธุรกิจซางเหมิงหันหน้าไปและกวาดสายตามองคนที่ถามและกล่าวว่า "ถามไปทำไม?"

"ฮ่าๆ ผมก็แค่ถามไปเรื่อยเปื่อยเท่านั้นเอง...ไม่มีอะไรครับ" คนคนนั้นหัวเราะกลบเกลื่อนและรีบอธิบาย

"เจิ้งหม่า อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ความคิดของนายล่ะ? นายก็แค่อยากรู้ข่าวคราวของทางสมัชชาใหญ่ จะได้นำข่าวไปขายเพื่อให้ได้เงินใช่ไหม?" ผู้หญิงผมหงอกพูดขึ้นมาด้วยสีหน้านิ่งเฉย

"ไม่ๆๆ ครับ ท่านผู้นำ ผมไม่เคยคิดแบบนั้นเลย" คนที่ชื่อเจิ้งหม่ารีบยกมือปฏิเสธ

"พอเถอะ นายไม่ต้องยอมรับหรอก ฉันรู้จักนายดี ในสำนักงานย่อยของกลุ่มธุรกิจซางเหมิงทางตอนใต้ มีนายคนเดียวที่เจ้าเล่ห์และคอยคิดแสวงหาผลประโยชน์ให้ตัวเอง! ข่าวคราวของสมัชชาใหญ่ไม่ว่าเรื่องเล็กใหญ่แค่ไหนก็สามารถขายและทำเงินได้มหาศาล! นายไม่ต้องการจริงเหรอ?" ผู้หญิงผมหงอกดื่มไวน์และพูดออกมา

เจิ้งหม่าตกตะลึงเล็กน้อยและหัวเราะออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ "ท่านผู้นำ ผม...ผมก็แค่อยากหาเงินเพิ่มบ้าง ท่านก็รู้ว่าลูกชายผมเพิ่งเกิด ค่าใช้จ่ายเลยเยอะขึ้น..."

"เกิดอีกแล้วเหรอ? หมายความว่าตอนนี้นายมีลูกชายสิบแปดคน และมีลูกสาวอีกยี่สิบเอ็ดคน?"

"ใช่ ใช่ครับ"

"ภรรยาของนายแต่ละคนใช้เงินราวกับน้ำไหล แต่ละคนขับรถหรูและอาศัยอยู่ในวิลล่า ซื้อเครื่องบินส่วนตัว ใส่เสื้อผ้าแบรนด์เนม กินสเต๊กเนื้อนำเข้าจากต่างประเทศ ค่าใช้จ่ายแต่ละวันกว่าสิบล้าน และตอนนี้ก็มีลูกชายเพิ่มมาอีก แถมยังเพิ่มค่าใช้จ่ายอีก ถ้าเป็นแบบนี้ เจิ้งหม่า นายได้เงินไปจากกลุ่มธุรกิจซางเหมิงไม่น้อยเลยทีเดียวนะ" หญิงผมหงอกวางแก้วไวน์ลงและพูดน้ำเสียงเรียบ

"ไม่เยอะอะไร ก็แค่นิดหน่อย นิดหน่อยเท่านั้นครับ..." เจิ้งหม่ารู้สึกเกรงใจที่พูดออกมา

"นิดหน่อยเท่านั้น? ฉันคิดว่าไม่น่าใช่นะ?"

"เอ่อ...เอ่อ..."

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา