สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา นิยาย บท 1545

สุดท้ายลั่วเฉียนก็ไม่ได้รับประทานอาหารที่ภัตตาคารปี่อี้ ทั้งสองเลือกทานอาหารร้านเล็กๆ ข้างทาง

หลินหยางเป็นคนง่ายๆ ไม่เลือกมากเรื่องการกิน ขอแค่บรรยากาศดี รสชาติอร่อยก็เพียงพอแล้ว

เมื่อทานเสร็จ หลินหยางก็ไปส่งลั่วเฉียนที่บ้าน

และหลังจากที่หม่าไห่มารายงานความคืบหน้าในการรื้อถอนภัตตาคารปี่อี้ หลินหยางก็เข้าใจได้ทันทีว่าทำไมลั่วเฉียนถึงพยายามทำการจองบัตรคิวและยืนหยัดว่าจะเข้าไปรับประทานอาหารที่นั่น

ที่แท้ภัตตาคารปี่อี้ก็มีความหมายแฝงที่ลึกซึ้ง คนที่มาทานที่นี่ส่วนใหญ่ล้วนเป็นคนวัยหนุ่มสาวและเป็นแฟนหรือคู่รักกัน

ว่ากันว่าใครที่ได้มารับประทานอาหารที่นี่ จะมีรักที่ยั่งยืนอยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่า

ความปรารถนาที่สวยงามเช่นนี้ คนจำนวนมากจึงได้เลือกมาที่นี่

แม้ว่าคนจำนวนมากต่างก็รู้ว่าเป็นความจงใจแต่งเรื่องขึ้นมาของเถ้าแก่ภัตตาคารปี่อี้ ทว่าคนจำนวนมากต่างก็หลงใหลไปกับสิ่งนี้และยอมจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อแลกกับการเดิมพันในครั้งนี้

ประธานหลินสั่งรื้อถอนภัตตาคารปี่อี้อย่างเด็ดเดี่ยว ส่งผลให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์บนโซเชียลอย่างครึกโครม คนจำนวนไม่น้อยต่างโกรธเคืองและแสดงความเห็นว่าประธานหลินทำเกินไป

ทว่าหลินหยางกลับไม่ให้ความสนใจความคิดเห็นของคนเหล่านั้น

ตอนนี้เขามีเรื่องสำคัญอย่างอื่นที่ต้องทำ

เมื่อส่งลั่วเฉียนเสร็จ หลินหยางก็กลับไปเตรียมการที่บริษัท

เช้าวันต่อมา จางซั่วก็รีบนำศีรษะของหลินหยางมุ่งหน้าไปสมัชชาใหญ่

ปัจจุบันสำนักงานของสมัชชาใหญ่ตั้งอยู่ที่สถานที่แห่งหนึ่งที่ชื่อภูเขาหลงหลิงซาน

แต่นี่กลับไม่ใช่ที่ตั้งหลักของสมัชชาใหญ่ เป็นเพียงแค่สำนักงานชั่วคราวเท่านั้น ส่วนสำนักงานหลักจริงๆ ของสมัชชาใหญ่อยู่ที่ไหนนั้น ไม่มีใครรู้ได้

และการจัดการประชุมของสมัชชาใหญ่ จะจัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่ของสมัชชาใหญ่เท่านั้น

ว่ากันว่าเรื่องของกลุ่มธุรกิจซางเหมิงครั้งนี้ เบื้องหลังยังมีคนของตระกูลหลินคอยบงการ และหลินหยางยังไม่ไปคิดบัญชีกับตระกูลหลินเลยด้วยสิ

รอให้จัดการเรื่องหลงเจียงเฟิงให้เสร็จและกลับไปยังเจียงเฉิน ก็สามารถใช้โอกาสนี้คิดบัญชีกับตระกูลหลินได้

หลินหยางขึ้นเครื่องบินส่วนตัวไปยังภูเขาหลงหลิงซาน

จางซั่วได้ขึ้นไปบนภูเขาก่อนล่วงหน้าหนึ่งชั่วโมง

เขาได้ทิ้งแผนที่เอาไว้และได้แจ้งเรื่องที่ควรระวังระหว่างทางเอาไว้แล้ว จึงทำให้การแอบบุกเข้าไปยังสมัชชาใหญ่เป็นเรื่องง่าย ทว่าเส้นทางและข้อควรระวังหรือแม้กระทั่งกับดักของสมัชชาใหญ่มักจะมีการเปลี่ยนแปลงทุกสามวัน ฉะนั้นครั้งนี้หลินหยางสามารถเข้ามาได้ แต่ครั้งหน้าอาจไม่สามารถเข้ามาได้ก็ได้

สมัชชาใหญ่มีความศักดิ์สิทธิ์ ลึกลับและน่าเกรงขาม

ถือเป็นสิ่งที่น่าเคารพนับถือของธุรกิจทุกแขนง ทุกสาขาอาชีพและทุกพื้นที่ในประเทศ สถานะของพวกเขา แทบไม่มีใครกล้าแตะต้องไม่สามารถเทียบได้เลย

การมีอยู่ของสมัชชาใหญ่เป็นเรื่องเร้นลับมาโดยตลอด

ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขามีอยู่มานานแค่ไหนแล้ว และไม่รู้ว่าพวกเขามีอำนาจและการควบคุมมากเพียงใด

ทว่าทุกคนรู้ดีว่าหากเอาชนะสมัชชาใหญ่ได้ นั่นก็เท่ากับชนะทุกสิ่ง

หากต้องการจะทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า หากคิดจะก้าวข้ามช่องว่างและอุปสรรคต่างๆ หากต้องการเปลี่ยนเป็นผู้นำ หากคิดอยากเป็นผู้มีอำนาจ ถ้ายังคิดแผนการไม่ได้ งั้นยังมีอีกวิธีหนึ่ง นั่นก็คือเข้าร่วมสมัชชาใหญ่และชนะมันให้ได้

นี่คือความเชื่อที่หลายคนต่างยอมรับ

เป็นเป้าหมายที่หลายกลุ่มอำนาจ หลายตระกูลและหลายสำนักนิกายต่างๆ เพียรพยายามเพื่อให้ได้มา

และสมัชชาใหญ่ในสายตาของทุกคนแล้วนั้น เปรียบเสมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องสูง

ไม่มีใครกล้าดูหมิ่น นับประสาอะไรกับการจะไปต่อต้าน

มีใครบ้างหรือที่จะกล้าเหมือนหลินหยางที่แอบบุกเข้าไปในสมัชชาใหญ่ด้วยเจตนาร้าย?

จางซั่วอุ้มศีรษะของหลินหยางและแอบเรียกเขาว่าคนบ้า

หากสมัชชาใหญ่รู้เข้าถึงการปรากฏตัวของหลินหยาง เกรงว่าทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเขาคงต้องถูกฆ่าตายอย่างแน่นอน

"โชคร้ายมากที่ไปเจอกับคนบ้าคลั่งแบบนี้"

จางซั่วบ่นพึมพำและเร่งฝีเท้า

เขาไม่ได้ขึ้นไปยังภูเขาหลงหลิงซานจริงๆ เพียงแค่เดินไปถึงครึ่งทางและเลี้ยวเข้าไปทางเดินลำธารอันเงียบสงบ

เดินอยู่หลายนาที เข้าไปยังป่าไผ่ที่มีร่องรอยของคนไม่กี่คน และมีความมืดสลัว

จางซั่วมองไปรอบๆ และเลียนเสียงนกกาเหว่าร้องส่งสัญญาณออกไป

ผ่านไปครู่หนึ่ง ชายคนหนึ่งก็ปรากฏขึ้นหน้าจางซั่วอย่างเงียบๆ

คนคนนั้นคือหลงเจียงเฟิง!

"ฮึ ฉันเป็นใคร? ฉันเป็นถึงคนของสมัชชาใหญ่! คนที่ฉันหามาแน่นอนว่าไม่ธรรมดา แค่ฆ่าหมอเทวดาหลินกระจอกๆ คนหนึ่งจะไปยากอะไร?" หลงเจียงเฟิงพูดอย่างดูถูก

"ให้ผมดุศีรษะของหมอเทวดาหลินหน่อยได้ไหมครับ?"

"นายยังไม่เชื่อเหรอ? งั้นให้นายให้เห็นเป็นบุญตาสักหน่อยแล้วกัน! ฉันรู้ว่าพวกนายก็มีเรื่องคับแค้นใจกับหมอเทวดาหลิน ตอนนี้หมอเทวดาหลินก็ตายไปแล้ว พวกนายก็หมดคนที่คอยกวนใจไปได้อีกคนหนึ่งแล้วสินะ?" หลงเจียงเฟิงหัวเราะชอบใจ และโยนศีรษะออกไป

ชายคนนั้นรับมาและพิจารณาอย่างละเอียด

ผ่านไปนาน สีหน้าของชายคนนั้นก็เปลี่ยนไป

"แย่แล้ว ศีรษะนี้เป็นของปลอม! เราถูกหลอกแล้ว!"

"อะไรนะ?"

รอยยิ้มของหลงเจียงเฟิงแข็งทื่อและจ้องมองไปยังชายคนนั้น "นายไม่ได้ดูผิดใช่ไหม? ศีรษะนี่ของปลอมเหรอ?"

"ไม่ผิดแน่นอน! นี่ต้องเป็นของปลอม!" ชายคนนั้นพูดแน่วแน่

"แต่ฉันดูแล้ว...ไม่เหมือนของปลอมเลยนะ..."

"คุณชายหลง วิธีการปลอมนี้ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ! มันไม่ใช่วิชาการปลอมแปลง แต่มันคล้ายกับวิธีการปลูกถ่ายผิวหนังอย่างหนึ่ง! แต่แตกต่างกับการปลูกถ่ายผิวหนังทางการแพทย์ทั่วไป มันคือการปลูกถ่ายผิวหนังที่แทบจะไร้รอยต่อ! นี่คือศีรษะของหมอเทวดาหลินก็จริง แต่ฉีกผิวหนังชั้นนี้ออกไปก็จะไม่ใช่แล้ว!"

ชายคนนั้นกล่าวอย่างเคร่งขรึมและจัดการดึงผิวหนังชั้นบนออกจากศีรษะ

และทันใดนั้น หลงเจียงเฟิงก็ตกตะลึง

ภายใต้ผิวหนังชั้นบนกลับเป็นซี่โครงหมูและเศษซากเนื้อที่รวมกันเป็นศีรษะ

มันเหมือนกับรูปปั้นที่ถูกคนใช้กาวนำมาปะติดปะต่อกัน จากนั้นใช้เครื่องมือต่างๆ นานามาขัดและทำรูปทรงที่ต้องการ เพื่อให้มีรูปร่างและรูปทรงที่เหมือนกับหมอเทวดาหลินมากที่สุด

แต่ทั้งสองกลับดูออกและรู้ว่านี่คือผลผลิตของเนื้อสัตว์แปรรูปชัดๆ!

ถ้ารวมผิวชั้นบนและดูจากภายนอกนั้น ไม่มีใครเชื่อหรอกว่าเป็นศีรษะของมนุษย์ที่ทำมาจากสมองหมู...

"ทำไมถึงเป็นแบบนี้? มันเป็นของปลอมได้ยังไง?"

หลงเจียงเฟิงเบิกตากว้างอย่างว่างเปล่า

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา