สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา นิยาย บท 1588

หลินหยางรีบสังเกตอีกฝ่ายทันที

จึงพบว่าอีกฝ่ายคือชายวัยกลางคนผมยาวคนหนึ่ง

ชายวัยกลางคนก็สวมชุดสูท ร่างกายสูงใหญ่ไหล่กว้าง และใบหน้าเคร่งขรึม แววตาทั้งสองแดงก่ำ มีความรู้สึกถึงความชั่วร้ายบางอย่าง

"คุณคือ?

จ้านอี้ตาวมองชายวัยกลางคนด้วยสีหน้าประหลาดใจ

ปิงชางจุนและหลินหยางรู้สึกสงสัยและตื่นตัวอย่างมาก

แขกในงานก็ต่างพากันงุนงง

คนนี้คือใคร? ดูเหมือนว่าเขาจะมีความสามารถมาก?

ขณะนี้เองก็มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา!

ผู้ที่เดินนำหน้าคือเจียงหนานซงนั่นเอง!

นอกจากนั้นยังมียอดฝีมือของตระกูลเหลียงอีกเป็นจำนวนมาก!

เหลียงซวนเหม่ยก็เป็นหนึ่งในนั้น

เมื่อเห็นคนเหล่านี้เดินเข้ามา บรรดาแขกในงานต่างเดินเข้าไปทักทาย

"โธ หัวหน้าเจียง! ในที่สุดคุณก็มาสักที่!"

"หัวหน้าเจียง! ไม่เจอกันนาน! สบายดีไหม?"

"หัวหน้าเจียง! เดี๋ยวเราต้องมาดื่มกันสักหน่อยแล้วนะ!"

เสียงทักทายอย่างกระตือรือร้นยังคงดังอยู่ต่อเนื่อง

เจียงหนานซงก็ยิ้มทักทายทุกคน

"ขอโทษทุกคนด้วยนะครับ ขอให้ผมได้จัดการเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนนะครับ"

เจียงหนานซงยิ้มและเดินไปยังโต๊ะที่เกิดเรื่อง

"เกิดอะไรขึ้นเหรอ? หมอเทวดาหลิน คุณจี้! ทำไมถึงก่อเรื่องขึ้นในงานเลี้ยงที่ผมจัดขึ้นด้วย? ผมให้การต้อนรับไม่ดีตรงไหนเหรอครับ?" เจียงหนานซงถามขึ้นด้วยความประหลาดใจ

"หัวหน้าเจียง! คนนี้คือใคร? ทำไมถึงกล้าแตะต้องลูกชายของผม?" ชายวัยกลางคนหันไปมองหลินหยางและถามขึ้นด้วยสีหน้าเฉยเมย

"อ้อ บุคคลนี้คือหมอเทวดาหลินผู้มีชื่อเสียง คุณจี้ คุณน่าจะเคยได้ยินชื่อของเขาอยู่บ้างนะครับ!" เจียงหนานซงยิ้ม

"หมอเทวดาหลิน? ไอ้ลูกหมา!"

ชายวัยกลางคนมองหลินหยางอย่างดูถูกดูแคลน

แววตาคู่นั้นเหมือนกำลังจ้องมองมดตัวเล็กๆ ที่หยิ่งผยองและไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง

หลินหยางขมวดคิ้ว

ผู้คนโดยรอบก็ต่างแปลกใจ

"คนนี้คือใครกัน? พูดจาไม่เกรงใจใครเลย?"

"ต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ ไม่เห็นเหรอว่าหัวหน้าเจียงดูเคารพและเกรงกลัวเขาขนาดนั้น? จะต้องเป็นคนมีอำนาจคนใหญ่คนโตแน่ๆ!"

"จะเป็นใครนะ?"

"ไม่รู้สิ..."

ทุกคนต่างซุบซิบนินทาและวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานา

ขณะนี้เอง ชายวัยกลางคนก็ชี้ไปที่หลินหยางและกล่าวว่า "ไสหัวมานี่ โขกศีรษะให้ลูกชายของฉันเดี๋ยวนี้ เร็วเข้า!"

เมื่อพูดจบ ทุกคนก็ต่างตกตะลึงและเกิดความโกลาหล

"ว้าว!"

ทุกคนต่างรู้สึกทึ่ง

ให้หมอเทวดาหลินคุกเข่าโขกศีรษะ?

บ้าไปแล้วหรือเปล่า?

พวกเขาไม่รู้จักหมอเทวดาหลิน แต่หมอเทวดาหลินเป็นคนยังไง ทุกคนในงานต่างรู้เป็นอย่างดี

มีหรือว่าเขาจะยอมคุกเข่าลงต่อหน้าคนอื่น?

และวินาทีนี้สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่ชายวัยกลางคน และคาดเดาว่าผู้ชายคนนี้เป็นใครกันแน่

"สารเลว! คุณเป็นใคร? ทำไมถึงกล้าสั่งให้อาจารย์คุกเข่าลง?"

ปิงชางจุนโกรธมาก มีหรือจะยอมให้อีกฝ่ายมาเหยียดหยามหลินหยาง?

ทว่าชายวัยกลางคนกลับไม่แยแสและจ้องมองไปยังปิงชางจุน "แล้วแกเป็นใคร?"

"เป็นใคร? นี่คุณไม่รู้เหรอว่าคนคนนี้ก็คือปิงชางจุนลำดับที่เก้าแห่งเทียนเจียว ฉายารัชทายาทเชียวนะ! เขาไม่ใช่คนธรรมดาหรอกนะ!"

แขกในงานคนหนึ่งอดไม่ได้และพูดขึ้นมา

คาดไม่ถึงว่าเมื่อชายวัยกลางคนได้ยินเข้าก็หัวเราะเยาะและเอานิ้วแตะจมูก

"เทียนเจียว? ลำดับที่เก้า? ฮึ คนแบบนี้ถ้าไม่ใช่หมูหมาแล้วจะเป็นอะไรไปได้? ฉันคิดว่าถ้าไม่ใช่สามลำดับแรกละก็ ล้วนเป็นขยะ!"

คำพูดนี้เหิมเกริมอย่างมาก!

ทุกคนต่างตาเบิกกว้างอย่างไม่เชื่อสายตา

นักศิลปะการต่อสู้ของสมาคมต่างพากันอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง

เขาเป็นถึงผู้มีรายชื่อในอันดับเทียนเจียวเชียวนะ!

ต่อให้ไม่ใช่สามลำดับแรก แต่สำหรับทุกคนแล้วนั้นเขาถือเป็นยอดอัจฉริยะที่ไม่อาจต้านทานได้!

ทว่าในสายตาของชายวัยกลางคนคนนี้กลับกลายเป็นเพียงเศษฟางและยังถูกด่าดูถูกดูแคลนอีก?

"คุณ..." ปิงชางจุนโมโหมากและมีหรือที่จะปล่อยให้อีกฝ่ายดูถูกเหยียดหยามแบบนี้? เขาคำรามและยกฝ่ามือขึ้นทันที

"ปิงชางจุน! กลับมา!" หลินหยางรีบตะโกนออกไป

แต่...ไม่ทันซะแล้ว!

ร่างกายของเขาเดือดพล่านไปด้วยความโกรธ เขาพุ่งเข้าไปที่ร่างกายของชายวัยกลางคนราวกับกระทิงป่าที่พร้อมพุ่งทำลายทุกสิ่ง

แต่ในขณะเดียวกัน จ้านอี้ตาวก็รีบเดินมาข้างหน้าและกระซิบ "คุณหลิน อย่าประมาทเชียวนะครับ!! คนคนนี้รับมือได้ไม่ง่ายเลยครับ!"

"ทำไมเหรอ? คุณรู้จักเขาเหรอ?" หลินหยางถามกลับ

"ไม่รู้จักครับ แต่ผมรู้ทักษะกระบวนท่าของเขา ถ้าผมทายไม่ผิด คนคนนี้ต้องเป็นคนของสำนักกายเทียนจงแน่ๆ!!"

"สำนักกายเทียนจง?"

"ใช่ครับ คุณหลิน ชีวิตนี้ของผมมีน้อยครั้งที่จะพ่ายแพ้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยแพ้หรือไม่มีคู่ต่อสู้ อันที่จริงผมเคยแพ้มาครั้งหนึ่ง นั่นก็คือการแพ้ให้กับคนของสำนักกายเทียนจง! ศิลปะการต่อสู้ของสำนักกายเทียนจงนั้นลึกลับซับซ้อนและมีมนต์ขลังมาก และว่ากันว่าสำนักกายเทียนจงถือเป็นสำนักที่ซ่อนเร้นอยู่ในเยี่ยนจิ่ง และมีประวัติความเป็นมาอยู่ที่นี่กว่าร้อยปี รากฐานของพวกเขาแข็งแรงและอำนาจมาก! หากคิดเป็นศัตรูกับสำนักที่แข็งแกร่งแบบนี้ จะต้องเกิดความสูญเสียอย่างแน่นอน ฉะนั้นคุณหลิน...คุณต้องอย่าประมาทนะครับ..." จ้านอี้ตาวพูดเกลี้ยกล่อม

เมื่อหลินหยางได้ยินดังนั้นก็ขมวดคิ้วและครุ่นคิด

ผ่านไปครู่หนึ่งเขาก็เงยหน้ากวาดสายตามองชายวัยกลางคนและกล่าวว่า "อี้ตาว บางเรื่องควรทำหรือไม่ควรทำ ผมรู้ดี! วันนี้ปิงชางจุนออกหน้าแทนผมและทำห้เขาต้องได้รับบาดเจ็บ ในฐานะที่ผมเป็นอาจารย์ของเขา ผมจะปล่อยไปง่ายๆ แบบนี้เหรอ?"

"คุณหลิน..."

"ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว"

หลินหยางยกมือขึ้นห้ามจ้านอี้ตาวที่พยายามพูดเกลี้ยกล่อม จากนั้นลุกขึ้นเดินไปหน้าชายวัยกลางคนและกล่าวว่า "เรื่องนี้จะว่ายังไง?"

"อะไรคือว่ายังไง? หรือว่าคุณจะออกหน้าแทนเขา?" ชายวัยกลางคนถาม

ท่าทางของเขายังคงเหิมเกริมโดยไม่เห็นหลินหยางอยู่ในสายตาแม้แต่นิดเดียว

"ฮึ ไม่รู้จักดูตัวเองเลยสักนิด รู้ไหมว่าพ่อของฉันเป็นใคร? ที่กล้ามาเป็นศัตรูกับเรา? เชื่อไหมว่าวันนี้พวกแกไม่มีทางได้เดินออกจากงานเลี้ยงนี้ไปได้หรอก?" คนที่อยู่ข้างหลังชายวัยกลางคนตะโกนด่าทอออกมา

หลินหยางได้ยินเข้าก็พยักหน้า "มีแค้นก็ต้องชำระ พ่อของคุณทำร้ายลูกศิษย์ของผมจนบาดเจ็บอันนี้ก็แน่นอนอยู่แล้ว แต่เมื่อกี้ผมบอกแล้วว่าให้คนของผมจัดการสับเขาให้เละเป็นชิ้น เรื่องนี้ก็ปล่อยไปไม่ได้เช่นกัน!"

"อ้อ? จริงเหรอ? ฮ่าๆๆ คุณมีความสามารถมากขนาดนั้น! มาสิ! สับผมให้ละเอียดเป็นชิ้นๆ ต่อหน้าพ่อของผมเลยสิ! ผมก็อยากจะเห็นเหมือนกันว่าคุณจะมีความสามารถสักแค่ไหนกัน! ฮ่าๆๆๆ..."

ชายวัยกลางคนหัวเราะอย่างมีความสุข โดยไม่สนใจคำพูดของหลินหยางเลยสักนิด

หลินหยางพยักหน้าโดยไม่พูดอะไร

แขกในงานที่อยู่รอบๆ ต่างจับจ้องสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่กะพริบตาและไม่พูดอะไร

เจียงหนานซงยังคงไม่พูดอะไรตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ ราวกับเป็นคนนอก

ทว่าเหลียงซวนเหม่ยกลับร้อนใจมากและเมื่อจะพูดออกมาก็ถูกคนของตระกูลเหลียงห้ามไว้

"หุบปากเดี๋ยวนี้ เรื่องนี้ใครก็เข้าไปยุ่งเกี่ยวไม่ได้!"

เหลียงหูเซียวกระซิบเตือนและจ้องเหลียงซวนเหม่ยอย่างเกรี้ยวกราด

เห็นได้ชัดว่าเขาก็พอจะได้ยินเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างหลินหยางและเหลียงซวนเหม่ยอยู่บ้าง

เหลียงซวนเหม่ยหน้าซีดเผือด เธออ้าปากค้างและพูดไม่ออก

บรรยากาศเต็มไปด้วยความโกลาหลอย่างน่าประหลาด

ทว่าไม่มีใครสังเกตเห็นว่าแววตาของหลินหยางได้เยือกเย็นลง

เขามองไปรอบๆ เพราะเป็นงานเลี้ยงของนักศิลปะการต่อสู้ ทำให้ผู้ที่อยู่ในงานจำนวนมากต่างพกอาวุธประจำตัวกันแทบทุกคน

ขณะที่เห็นชายคนหนึ่งพกดาบติดตัว หลินหยางก็รีบเดินเข้าไป

"ขอโทษนะครับ ขอยืมดาบสักครู่ได้ไหมครับ?"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา