ในความเป็นจริง วันเวลาของหุบเขาฉีเฟิงนั้นผ่านมาอย่างยากลำบาก ในยุคปู่ของฉีจ้งคุน หุบเขาฉีเฟิงมีอำนาจมาก ถึงขั้นได้เลื่อนตำแหน่งให้เป็นตระกูลผู้นำเหล่าสำนัก
แต่เนื่องจากปู่ของฉีจ้งคุนถึงแก่กรรม และไม่ผู้ที่มีพรสวรรค์ที่โดดเด่นปรากฏในหุบเขาฉีเฟิงอีก ทำให้อำนาจของตระกูลก็ลดลงอย่างรวดเร็ว
ในความเป็นจริงฉีจ้งคุนรู้สึกว่าที่เสื่อมโทรมเพราะเหตุนี้ เขาไม่สามารถตำหนิใครได้ เพราะเขาไม่มีความสามารถเพียงพอ
แต่ด้วยการเสื่อมโทรมอย่างรวดเร็วของหุบเขาฉีเฟิง วิกฤตก็ค่อยๆปรากฏขึ้น
ประการแรกศัตรูในอดีตที่หุบเขาฉีเฟิงเคยสร้างมาก่อน
พวกเขาใช้ประโยชน์จากการเสื่อมโทรมของหุบเขาฉีเฟิง มาโจมตีหุบเขาฉีเฟิงอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งใจที่จะทำลายมัน
ประการที่สองคือตระกูลที่มีอำนาจขนาดใหญ่อื่นๆ ที่ต้องการครอบครองหรือปล้นผลประโยชน์ของหุบเขาฉีเฟิง
แม้ว่า หุบเขาฉีเฟิงจะเป็นเพียงตระกูลที่มีอำนาจขนาดกลางๆในตอนนี้ แต่เขาก็เคยมีภูมิหลังของตระกูลที่ทรงพลังยิ่งใหญ่ ตอนนี้ความแข็งแกร่งของเขาอ่อนแอและลดลงทุกวัน เขาจะดึงดูดผู้คนมากมายให้อยากโจมตีเขาโดยธรรมชาติ
ดังนั้น หุบเขาฉีเฟิงจึงต้องการคนที่สามารถนำพวกเขาให้ลุกขึ้นใหม่อย่างเร่งด่วน
บุคคลนี้ไม่จำเป็นต้องแข็งแกร่ง ขอเพียงให้หุบเขาฉีเฟิงมีความสามารถในการปกป้องตัวเอง
เห็นได้ชัดว่าฉีสุ่ยเยว่เป็นผู้ที่ถูกเลือก
แต่สวรรค์ช่างกลั่นแกล้ง ฉีสุ่ยเยว่เผลอกินยาโดยไม่ได้ตั้งใจและกลายเป็นอัมพาต และก็ทำให้หุบเขาฉีเฟิงกลับคืนสู่รูปร่างเดิม
หากไม่สามารถรักษาฉีสุ่ยเยว่ได้ วันเวลาของหุบเขาฉีเฟิงก็จะไม่ดีขึ้นมากนัก
ดังนั้น การคุกเข่าในครั้งนี้ ฉีจ้งคุนไม่เพียงแต่คุกเข่าเพื่อลูกสาวของเขาเท่านั้น แต่ยังคุกเข่าเพื่อหุบเขาฉีเฟิงทั้งหมดด้วย
"อย่างที่ข้าเคยพูด เจ้าหุบเขา จ้าอาจไม่สามารถรักษาฉีสุ่ยเยว่ได้ เพื่อประโยชน์ของคุณอ้ายหร่านและฉีสุ่ยเยว่ ข้าจะพยายาม แต่ข้าเอวก็ไม่สามารถรับประกันผลลัพท์ได้"หลินหยางพูดแหบแห้ง
ในความเป็นจริง หลินหยางไม่ต้องการยุ่งเรื่องของหุบเขาฉีเฟิง ถ้าฉีสุ่ยเยว่ไม่บอกข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับ เซียวเหยาเสินส่านให้เขาฟัง เขาก็คงไม่ทำอะไร
แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเห็นแก่หน้าอ้ายหร่าน
หากมีอะไรเกิดขึ้นกับฉีสุ่ยเยว่ อ้ายหร่านจะต้องเจ็บปวด ในสายตาของหลินหยาง อ้ายหร่านเป็นคนที่ไว้ใจได้อยู่แล้วและเขาไม่ต้องการให้คนรอบข้างต้องเจ็บปวดเช่นนี้
"ตกลง ตกลง! คุณหลิน ตราบใดที่คุณรับปากว่าลองดู ฉีจ้งคุนจะยอมรับไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร!" ฉีจ้งคุนพูดอย่างตื่นเต้น แต่ดวงตาเสือของเขาเป็นสีแดงและเต็มไปด้วยน้ำตา
"ฉีหยาง เมื่อเจ้าเข้ารอบชิงชนะเลิศในภายหลัง เจ้าต้องให้ความร่วมมือกับคุณหลินอย่างเต็มที่ หากจำเป็น แม้ว่าเจ้าจะต้องถูกกำจัด เจ้าก็ต้องปกป้องคุณหลิน เข้าใจไหม" ผู้เฒ่ารองฉีกล่าวกับฉีหยาง
ฉีหยางตกใจมองไปที่อ้ายหร่าน จากนั้นมองไปที่หลินหยาง ดวงตามุ่งมั่น และพูดด้วยเสียงต่ำว่า "ขอรับ"
ข่าวความพ่ายแพ้ของหลาวยิงต่อฉีสุ่ยเยว่ต่อ แพร่กระจายไปทั่วดินแดนสุเมรุ ลุกลามเหมือนไฟป่า
"เฮ้ เจ้าได้ยินไหมว่า คุณหนูฉีสุ่ยเยว่แห่งหุบเขาฉีเฟิงเอาชนะหลาวยิงได้"
“อะไรนะ? คุณฉีสุ่ยเยว่ เป็นอัมพาตไปแล้วไม่ใช่หรือ? ตำแหน่งเจ็ดอัจฉริยะก็ถูกริบคืนไปแล้วเช่นกัน ตอนนี้เธอเป็นคนไร้ประโยชน์ เธอจะเอาชนะอัจฉริยะหลาวยิงได้อย่างไร”
"ฉันได้ยินมาว่าคนที่มีพรสวรรค์พิเศษ สามารถรักษาอาการป่วยของคุณหนูสุ่ยเยว่ได้"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...