สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา นิยาย บท 315

“ซ่า!”

ภายในสนามแข่งเดือดพล่านขึ้นมาอีกครั้ง

“บ้าเกินไปหรือเปล่า! นั่นมันเซียวซื่อเจี๋ยเลยนะ!”

“หมอนี่ทำตัวหยิ่งยโสเกินไปแล้ว!”

“บ้าบอสิ้นดี!”

“บ้านโอสถของเรามีหนูสายตาสั้นที่คิดจะมองเบื้องสูงแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”

“ตกลงเขารู้จักเซียวซื่อถูหรือเปล่า? ตกลงเขาเข้าใจความหมายของคำว่าสิบอัจฉริยะผู้ยิ่งใหญ่หรือเปล่า? เขารู้หรือเปล่าว่าอันดับสามของสิบอัจฉริยะผู้ยิ่งใหญ่เป็นบุคคลที่แม้แต่อาจารย์บางคนก็ยังไม่สามารถเทียบ? แต่หมอนี่กลับพูดคำว่าแล้วแต่กับเซียวซื่อเจี๋ย?”

“ฉันมึนไปหมดแล้ว มีคนโง่แบบนี้ด้วยเหรอ?”

ผู้ชมทุกคน นักเรียนทุกคน อาจารย์ทุกคนพากันสบถด่ายกใหญ่ ทุกคนโดนคำพูดของหลินหยางกระตุ้นต่อม

พูดกับคนที่ติดอันดับสามของยอดอัจฉริยะแบบนี้ โม่เสี่ยวหวู่คนนี้ต้องมีปัญหาทางด้านสมองแน่นอน

ส่วนหมิงหยูไม่ได้พูดอะไร เธอกำลังมองไปทางเฉียนโม่ด้วยสายตาที่ครุ่นคิดแล้วถาม “คุณเฉียนโม่ ฉันจำได้ว่าโม่เสี่ยวหวู่กับตระกูลของคุณพอมีความสัมพันธ์อยู่บ้างใช่หรือเปล่า?”

“ก็พอมีอยู่บ้าง แต่ความสัมพันธ์ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น วางใจเถอะคุณหมิงหยู พวกเราไม่ยุ่งเรื่องของเสี่ยวหวู่แน่นอน และพวกเราก็เข้าไปยุ่งไม่ได้ ผลทั้งหมดเขาจะรับผิดชอบคนเดียว!” เฉียนโม่ยิ้มแล้วยิ้มอีก

“จริงเหรอ?” หมิงหยูรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ทำไมเฉียนโม่ถึงต้องเว้นระยะห่างกับโม่เสี่ยวหวู่มากขนาดนี้

เท่าที่จำได้โม่เฉียนเป็นคนพาโม่เสี่ยวหวู่มา…แต่ทำไมถึงทอดทิ้งเขาอย่างง่ายดายแบบนี้?

คำพูดของหลินหยางทำให้ทุกคนรู้สึกโกรธมาก เดิมทีเซียวซื่อเจี๋ยคิดจะปฏิเสธ แต่เนื่องจากความโกรธแทบจะทำให้เขาสูญเสียสติสัมปชัญญะ เขารู้สึกโกรธจนหัวเราะ “ได้! ได้! ได้! ในเมื่อคุณให้ผมเลือก! งั้นพวกเรามาแข่ง…”

“แข่งเข็มเงิน!”

ในขณะที่เซียวซื่อเจี๋ยกำลังพูด เฝิงฉือที่อยู่ด้านข้างพูดขึ้นอย่างกะทันหัน

คำพูดประโยคนี้ทำให้เซียวซื่อเจี๋ยกลืนคำพูดที่มาถึงปลายลิ้นแล้วกลับเข้าไป…

ส่วนคนที่เหลือก็มองไปทางเฝิงฉือ

“รองเจ้าบ้านโอสถ นี่…” เซียวซือเจี๋ยเริ่มไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไง เดิมทีเขาตั้งใจจะแข็งการประเมินยาสมุนไพร แต่คำพูดของรองเจ้าบ้านโอสถทำให้เขาพูดอะไรไม่ออก

“ซื่อเจี๋ย โม่เสี่ยวหวู่คนนี้ต้องมีปัญหาอะไรแน่นอน เมื่อกี้เขาเพิ่งตอบคำถามเกี่ยวกับการประเมินยาที่ยากมากข้อหนึ่ง ผมเดาว่าเขาน่าจะเคยศึกษาเกี่ยวกับทักษะการแพทย์แผนจีนโบราณมาบ้าง การประเมินยาอาจจะเป็นความถนัดของเขา ถ้าหากคุณแข่งประเมินยาวกับเขา คุณไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาแน่นอน แข่งเข็มเงิน! เชื่อผม ทักษะการใช้เข็มเงินของคุณถึงขั้นสามารถเทียบกับจื่อเย่ หรือแม้กระทั่งไม่เสียเปรียบให้ซวนเย้าด้วยซ้ำ! แข่งเข็มเงินกับเขาเถอะ! ไม่ว่ายังไง จะประมาทไม่ได้เด็ดขาด!” เฝิงฉือพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย

ผู้คนที่อยู่โดยรอบได้ยินแล้วเข้าใจทันที

เซียวซื่อเจี๋ยก็เริ่มสงบลง

ถูกต้อง…ความถนัดของเขานอกจากประเมินยาก็คือเข็มเงิน!

ส่วนทักษะการประเมินของโม่เสี่ยวหวู่…ดูจากเมื่อกี้จะต้องไม่ธรรมดาแน่นอน

ในเมื่อเป็นแบบนั้น ทำไมไม่ลองแข่งเข็มเงินกับเขาดู?

คิดถึงตรงนี้ เซียวซื่อเจี๋ยหันหลังไปตะโกนเสียงดัง “โม่เสี่ยวหวู่ ผมจะแข่งเข็มเงินกับคุณ!”

“เห้อ!”

ทางด้านของเฉียนโม่ที่อยู่ตรงโซนแขกรับเชิญถอนหายใจ ท่าทางของเธอดูผิดหวัง

หมิงหยูที่เห็นสถานการณ์ลมหายใจหยุดชะงัก ลางสังหรณ์ที่ไม่ดีถาโถมเข้าปกคลุมหัวใจทันที

ส่วนทางด้านของโม่เสี่ยวหวู่ส่ายหัวแล้วยิ้มโดยไม่มีใครสังเกตเห็น

“นี่เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดครั้งใหญ่ของคุณ…ก็ได้ ในเมื่อต้องการแข่งเข็มเงิน งั้นก็เข็มเงินเถอะ! คุณอยากแข่งด้านไหน?” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย

ได้ยินคำพูดของหลินหยาง สีหน้าของเซียวซื่อเจี๋ยเคร่งขรึมจนถึงขีดสุด

ในที่สุดเขาก็รู้สึกได้แล้ว โม่เสี่ยวหวู่คนนี้…ดูเหมือนตั้งแต่เริ่มจนจบจะไม่เคยเห็นเขาอยู่ในสายตา

“ไอ้ลูกหมา! ได้! อวดดีไปเถอะ อีกเดี๋ยวฉันจะตบหน้าแกให้ดู แกจะได้รู้ว่าแกมันเป็นแค่ตัวอะไร!”

เซียวซื่อเจี๋ยคิดในใจ หลังจากนั้นพูด “ถ้าหากแค่แข่งรักษาผู้ป่วย แบบนั้นมันน่าเบื่อเกินไป ในเมื่อวันนี้มีผู้คนมากมายขนาดนี้ เรามาเล่นอะไรที่มันตื่นเต้นกันหน่อยดีกว่า! เข็มคนละสิบเล่ม ใช้ชีพจรบนหน้าอกเป็นหลัก ใครที่สามารถแทงเข็มเงินลงบนจุดชีพจรอีกฝ่ายได้มากและแม่นยำที่สุดถือเป็นผู้ชนะ”

“จุดชีพจรบนหน้าอก? รวมไปถึงจุดตายด้วยหรือเปล่า?” หลินหยางลังเลสักพักแล้วถาม

“แน่นอน” เซียวซื่อเจี๋ยพูด

คำพูดประโยคนี้ทำให้ทุกคนรู้สึกตกใจมาก

รวมจุดตายด้วย? งั้นก็เท่ากับว่า…มีความเป็นไปได้ที่เซียวซื่อเจี๋ยคิดจะเล่นงานจุดตายของหลินหยาง ถ้าหากโดนแทงเข้าไปไม่ตายก็ต้องพิการแน่นอน!

เซียวซื่อเจี๋ยต้องการฆ่าหลินหยางเหรอ?

สีหน้าของนักเรียนที่อยู่ข้างหลังดูตื่นตระหนกขึ้นมาทันที

ผู้ชมเองก็อุทานออกมาด้วยความตกใจไม่หยุด

เดิมทีเขาอยากปฏิเสธ เพราะถ้าทำแบบนั้นสิทธิ์การตัดสินก็จะอยู่ในมือของเขาเพียงผู้เดียว แต่ตอนนี้ขึ้นหลังเสือแล้วยากที่จะลง

“คุณอยากเลือกใครเป็นกรรมการ?” เฝิงฉือมองหลินหยางแล้วถาม

“แขกรับเชิญก็แล้วกัน” หลินหยางคิดแล้วพูด

“เหอะ คุณคงจะไม่ได้เลือกเฉียนโม่หรอกมั้ง? ผมรู้อยู่นะว่าคุณเป็นญาติกับคุณเฉียนโม่! ในเวลาแบบนี้คุณคงจะไม่ได้หวังคุณเฉียนโม่ช่วยคุณหรอกมั้ง?” ในตอนนั้นเอง หลัวฟู่หรงที่อยู่ด้านล่างตะโกนด้วยน้ำเสียงที่แปลกประหลาด

เสียงตะโกนของเขาทำให้หลินหยางตัดความเป็นไปได้ที่จะเลือกเฉียนโม่มาให้ความเป็นธรรม

หลินหยางขมวดคิ้วมองไปทางโซนแขกรับเชิญ

ส่วนเฉียนโม่ก็กำลังมองเขาด้วยสีหน้าที่นิ่งสงบ

อันที่จริงหลินหยางคิดเผื่อไว้แล้ว

ถึงเขาจะเชิญเฉียนโม่ออกหน้า…แต่เฉียนก็ต้องปฏิเสธแน่นอน

ในเมื่อเลือกเฉียนโม่ไม่ได้ งั้นก็ต้องเลือกคนที่ดูแล้วค่อนข้างมีความยุติธรรม ใจคนที่มามีคนไหนบ้างที่ไม่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับบ้านโอสถฉี ไอ้พวกเขามาเป็นผู้ตัดสิน แบบนั้นไม่เท่ากับหาคนของบ้านโอสถฉีมาเป็นผู้ตัดสินเหรอ?

“อืม?”

สายตาของหลินหยางจ้องชายหนุ่มสวมแว่นคนหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านข้างโซนแขกรับเชิญ

เขาเดินตรงเข้าไป ชายหนุ่มคนนั้นก็รู้สึกประหลาดใจเหมือนกัน ราวกับเขาไม่เข้าใจว่าทำไมหลินหยางถึงเดินมาหาตัวเอง ร่างกายก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว

“คุณน่าจะไม่ใช่คนของบ้านโอสถถูกหรือเปล่า?” หลินหยางมองเขาแล้วพูด

“ไม่ใช่ ผม…ผมเลี่ยวหุยนักข่าวฝึกหัดจากกวงเฉินเดลินิวส์ มา…มาเพื่อทำการสัมภาษณ์…” ท่าทางของชายหนุ่มคนนั้นไม่คุ้นเคยกับคนแปลกหน้า เขาพูดด้วยความระมัดระวัง

“งั้นดี คุณนี่แหละ ผมขอเชิญคุณเป็นกรรมการตัดสินการแข่งครั้งนี้ร่วมกับรองเจ้าบ้านเฝิง” หลินหยางพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย

“หา? ผม?” เลี่ยวหุยรู้สึกอึ้ง

“ทำไม? ลำบากใจมากเลยเหรอ?”

“ผม…ผมกลัวว่าจะทำได้ไม่ดี อาจจะมีข้อผิดพลาด…”

“ไม่เป็นไร แค่คุณรู้สึกว่ามันถูก คุณก็บอกว่าถูก คุณรู้สึกว่าผิด คุณก็ตัดสินว่าผิด ทำตามความรู้สึกของคุณเลย คุณมาเพื่อสัมภาษณ์ไม่ใช่เหรอ? มีประสบการณ์แบบนี้ ผมคิดว่ามันน่าจะมีประโยชน์ต่อการรายงานข่าวของคุณไม่ใช่เหรอ?” หลินหยางยิ้มแล้วพูด

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา