สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา นิยาย บท 336

“ฉันคิดว่าคุณกำลังหาเรื่องอย่างไร้เหตุผล!” ซุเหยียนที่เป็นคนนิสัยดีมาโดยตลอดก็ทนไม่ไหวแล้ว

“ฉันหาเรื่องอย่างไร้เหตุผล? คุณกล้าพูดว่าฉันหาเรื่องอย่างไร้เหตุผล? อาเทียน คุณว่าเรื่องนี้ควรทำยังไงดี?” ้เสี่ยวชิวเบิกตากว้างใส่ซูเหยียน หลังจากนั้นหันไปมองทางจ้าวแล้วพูด

“เรื่องนี้…” จ้าวเทียนเองก็รู้สึกลำบากใจมาก เขามองไปทางซูเหยียนแวบหนึ่งแล้วถอนหายใจ “คุณซู เดิมทีมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรอยู่แล้ว หรือไม่เอาแบบนี้ คุณขอโทษแล้วก็จ่ายค่าชดเชยเล็กน้อย…”

“ผู้จัดการจ้าว คุณพูดแบบนี้ได้ยังไง?” ซูเหยียนแสดงสีหน้าที่เหลือเชื่อออกมา

“แต่ปัญหาคือพวกคุณเป็นคนทำรองเท้าของเสี่ยวชิวเปื้อนจริง!”

“มันก็แค่มีคราบน้ำติดอยู่นิดหน่อย เช็ดนิดเดียวก็สะอาดแล้ว พวกคุณ…” ซูเหยียนไม่รู้ว่าควรพูดยังไงดีแล้ว

จ้าวเทียนที่ได้ยินสีหน้ากลับเคร่งขรึมลง “คุณซู ผมพูดกับพวกคุณด้วยความเกรงใจมากแล้ว อะไรคือคราบน้ำติดอยู่นิดหน่อย? ทำให้เปื้อนก็คือทำให้เปื้อน! ผมคิดว่าคำขอของเสี่ยวชิวสมเหตุสมผล!”

“แต่ว่า…”

“คุณไม่อยากจ่ายค่าชดเชยก็ได้ คุณมานี่ มาเช็ดรองเท้าของฉันให้สะอาด แล้วฉันจะไม่สืบสาวเอาเรื่องนี้อีก!” ซูเหยียนยังอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่โดนเสี่ยวชิวพูดขัดจังหวะโดยตรง

ซูเหยียนที่ได้ยิน สีหน้าเคร่งขรึมลงทันที

เช็ดรองเท้าให้เธอ?

แบบนี้มันกำลังดูหมิ่นกันไม่ใช่เหรอ?

“ไร้เหตุผลสิ้นดี! ไร้เหตุผลสิ้นดี!”

จางชิงหยู่โกรธจนแทบจะระเบิด

ซูเหยียนก็กำหมัดแน่น

ในตอนนั้นเอง จ้าวเทียนพูดขึ้นอีกครั้ง

“ถ้าหากประธานซูไม่เห็นด้วยกับคำขอของพวกเรา โครงการของเราในวันนี้…คงต้องหยุดอยู่แค่นี้แล้ว!”

คำพูดประโยคนี้ทำให้ร่างกายของซูเหยียนสั่นสะท้านเหมือนโดนฟ้าผ่า เธอเซไปข้างหลังจนเกือบจะล้มลง

“ลูกแม่!”

เห็นซูเหยียนเซถอยหลัง จางชิงหยู่รีบเดินเข้าไปประคองเธอ

“แม่ หนูไม่เป็นไร…” ซูเหยียนเค้นรอยยิ้มออก มองไปทางจ้าวเทียนอย่างไร้เรี่ยวแรง

โครงการในวันนี้สำหรับซูเหยียนถือว่าสำคัญมาก ช่วงก่อนเกิดเรื่องขึ้น งานหลายอย่างของเยว่เหยียนอินเตอร์เนชั่นแนลต้องหยุดชะงักอย่างกะทันหัน ผู้ลงทุนหลายคนก็เริ่มถอนตัวเพราะเหตุผลนี้ ถ้าหากไม่ได้เป็นเพราะยังมีเงินทุนจำนวนมหาศาลของหยางหัวกรุ๊ป เกรงว่าเยว่เหยียนอินเตอร์เนชั่นแนลคงจะเจ๊งไปตั้งนานแล้ว

เพราะเหตุนี้ ซูเหยียนจึงตัดสินใจจะทำโครงการของหยางหัวกรุ๊ปให้ดี

ทำทุกวิถีทางโดยไม่สนว่าต้องจ่ายด้วยอะไร

ดังนั้นเธอจึงจดจ่ออยู่กับโครงการนี้โดยที่สภาพร่างกายยังไม่หายดี

ส่วนโครงการนี้หม่าไห่เป็นคนมอบหมายให้จ้าวเทียนดำเนินการ อย่างไรก็ตามหม่าไห่ในตอนนี้ก็งานยุ่งมากเหลือเกิน หยางหัวกรุ๊ปเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว หม่าไห่แทบจะต้องแบ่งเวลานอนมาทำงาน

แต่คงไม่มีใครเคยคิดว่าจ้าวเทียนจะใจกล้ามากขนาดนี้ ถึงขั้นเอาเรื่องของโครงการมาข่มขู่!

ต้องบอกก่อน คนทั้งเมืองเจียงเฉินต่างก็รู้ว่ามีความเป็นไปได้ที่ประธานใหญ่ของหยางหัวกรุ๊ปจะสนใจซูเหยียน

อย่างที่โบราณเขาว่าไม่มองสถานการณ์ตรงหน้าก็ควรจะมองเบื้องหลัง ทำไมจ้าวเทียนต้องบีบคั้นซูเหยียนจนไม่มีทางเลือกเพราะเรื่องแค่นี้? เขาไม่กลัวประธานหลินมาถามหาความผิดเหรอ?

ทุกคนเข้าใจจุดนี้ดี

แต่แล้วซูเหยียนกลับไม่ได้พิจารณาถึงเรื่องพวกนี้

จ้าวเทียนเองก็มีแผนรับมือของเขาเหมือนกัน

จางชิงหยู่รู้สึกโมโหจนแทบจะระเบิดแล้ว ตาทั้งคู่ของเธอเบิกกว้าง โกรธจนขนตั้งตรง ตะโกนพูดเสียงดัง “พวกคุณพูดอะไรนะ? จะให้ลูกสาวของฉันไปรองเท้าของนางแพศยาคนนี้? ฝันไปเถอะ!”

“ไอ้บ้านนอก พูดอะไรนะ?” เสี่ยวชิวก็ด่ากลับเหมือนกัน

“ประธานซู นี่ก็คือคุณสมบัติของแม่คุณเหรอ?” จ้าวเทียนสะบัดมือแล้วพูดด้วยความโมโห “ในเมื่อเป็นแบบนั้น พวกเราไม่ต้องคุยเรื่องของโครงการนี้แล้ว! ลาก่อน!”

พูดจบ จะหันหลังเดินจากไปทันที

“พวกคุณรอจดหมายทนายได้เลย เรื่องนี้ไม่จบแค่นี้!” เสี่ยวชิวตะโกนเสียงแหลม

“รอก็รอสิ คนอย่างฉันไม่เคยกลัว!” จางชิงหยู่พูดด้วยท่าทีที่ไม่คิดจะยอมเหมือนกัน

ต่างฝ่ายต่างด่าทอพร้อมกับจะแยกย้าย

แต่ในตอนนั้นเอง ซูเหยียนพูดขึ้นอย่างกะทันหัน

“ประธานจ้าว คุณชิว รอก่อน!”

จะให้เธออดทนกับเรื่องแบบนี้เหรอ?

ดังนั้นภายในใจของเธอจึงแผนเล่นงานซูเหยียนตั้งแต่แรกแล้ว

คิดไม่ถึงว่าแผนนี้มันจะพัฒนาไปในทางที่เธอต้องการอย่างราบรื่น

เพียงแต่…ในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด มีมือข้างหนึ่งยื่นออกมาจากด้านข้าง ดึงซูเหยียนที่กำลังนั่งลงลุกขึ้น

ทุกคนรู้สึกอึ้ง หันไปมองตามทิศทางเจ้าของมือพร้อมกัน

“หลินหยาง?” ซูเหยียนพูดด้วยความประหลาดใจ

“นั่นใคร?” เสี่ยวชิวก็รู้สึกอึ้ง รีบถามออกมาทันที

“สามีของฉัน”

หลินหยางตึงซูเหยียนลุกขึ้นแล้วมองคนทั้งสองด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์ “เรื่องนี้อยู่ในสายตาของผมทั้งหมด พวกคุณกำลังหาเรื่องอย่างไร้เหตุผล ผมหวังว่าเรื่องนี้จะจบแค่นี้ พวกคุณรีบไปเถอะ!”

“หลินหยาง ที่นี่ไม่มีธุระของคุณ! หลบไปด้านข้างเลย!” ซูเหยียนพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม

“ไม่มีธุระของผม? คุณเป็นภรรยาของผม ตอนนี้คุณยอมก้มหัวเช็ดรองเท้าให้คนอื่น คุณไม่ได้เสียหน้าเพียงคนเดียว มันรวมไปถึงผมด้วย!” หลินหยางพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม

“แหม กลัวเสียหน้า? ฉันนึกว่าใครซะอีก? นี่ไม่ใช่ราชาหน้าขาวแห่งเจียงเฉินเหรอที่มีชื่อเสียงของเราเหรอ?” เสี่ยวชิวสองมือกอดอก พูดอย่างไม่เกรงใจ

“ประธานซู เขาเป็นสามีของคุณใช่หรือเปล่า? ถ้าหากเขาเป็นสามีของคุณจริง ผมหวังว่าสามีของคุณก็จะขอโทษผมด้วย ไม่อย่างนั้นโครงการนี้คงต้องหยุดแค่นี้!” จ้าวเทียนพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

“ผู้จัดการจ้าว ใจเย็นก่อน! ฉันจะคุยกับเขาเอง” ซูเหยียนรีบพูดอธิบาย

แต่หลินหยางกลับพูดขัดจังหวะของเธอ เขามองไปทางจ้าวเทียนแล้วพูดด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์ “โครงการนี้หยุดไม่ได้ ในทางกลับกัน อาชีพของคุณในหยางหัวกรู๊ปคงต้องจบแค่นี้!”

คำพูดประโยคนี้ทำให้จ้าวเทียนและคนอื่นรู้สึกอึ้ง

เสี่ยวชิวมองไปทางหลินหยางด้วยความประหลาดใจ ผ่านไปสักพักถึงจะพูด “ไอ้คนเกาะผู้หญิงกินอย่างคุณนี่มันยังไง? สมองมีปัญหาเหรอ? คำพูดที่ไร้หัวคิดแบบนี้พูดออกมาได้ยังไง? คุณรู้หรือเปล่าว่ากำลังพูดอะไรอยู่?”

“ผมว่าคุณมันบ้าไปแล้ว!” จ้าวเทียนขมวดคิ้ว

ซูเหยียนลากหลินหยางไปด้านข้างด้วยความโมโหแล้วพูด “หลินหยาง พอได้แล้ว!”

“เสี่ยวเหยียน ผมสามารถจัดการเรื่องนี้!” หลินหยางพูดด้วยความอดกลั้น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา