ความวุ่นวายในการถ่ายทำหนังพยัคฆ์สงครามครั้งนี้ ถึงแม้ฟานเล่อจะเป็นผู้นำ แต่ก็มีผู้สมรู้ร่วมคิดไม่น้อย เหมือนกับเฉิงเจิ้งนายคนอื่นที่ถูกไล่ออกจากการเป็นสมาชิกกองถ่ายพยักฆ์สงคราม ทุกคนล้วนแต่ได้รับจดหมายทนาย ถูกยื่นฟ้องในข้อหาปลอมเอกสารสัญญาและกล่าวหาผู้อื่นอย่างเป็นเท็จ
เมื่ออยู่ต่อหน้ากฎหมาย พวกเขาสารภาพสมรู้ร่วมคิดกับฟานเล่ออย่างรวดเร็ว
หลังจากที่จัดการคนพวกนี้ สำนักงานกฎหมายของหยางหัวไล่รายชื่อคนกลุ่มหนึ่งออกมา
คนพวกนี้ส่วนใหญ่เป็นบุคคลในวงการบันเทิง มีทั้งหมดแปดคน
คนทั้งแปดล้วนแต่เคยสนับสนุนฟานเล่อ กล่าวหาว่าร้ายคนของหยางหัว
ทันทีที่ได้รับจดหมายทนาย คนทั้งแปดรีบแสดงความคิดเห็นต่อสาธารณะชนทันที คนที่ถูกเรียกว่าประธานหลินของหยางหัวกรุ๊ปกำลังจงใจเอาคืนพวกเขา ตั้งใจใช้ประโยชน์จากทีมทนายความใส่ร้ายพวกเขา ต้องการให้พวกเขาพบกับจุดจบที่เหมือนกับฟานเล่อ
แต่หลินหยางกลับไม่ได้โต้แย้ง แต่สั่งให้คังเจียห่าวเปิดคลิปวีดีโอช่วงหนึ่งบนศาล
ภาพของคลิปวีดีโอเป็นคนทั้งแปดกำลังสนุกอย่างบ้าคลั่งกับเด็กสาวหลายคนในห้อง หลังจากที่เห็นเด็กสาวพวกนี้ ทุกคนเงียบขรึมลงทันที
คนทั้งแปดไม่มีใครพูดอะไรอีก
บนโลกอินเตอร์เน็ต ผู้คนพากันด้าคนทั้งแปดอย่างบ้าคลั่ง
"สัตว์เดรัจฉาน!"
"พวกจัญไร!"
"อายุของพวกเธอเพิ่งจะเท่ากับลูกสาวของพวกคุณ!"
"พวกคุณยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า?"
"น่าขยะแขยงสิ้นดี!"
สาธารณชนรู้สึกโกรธเกลียดการกระทำของพวกเขามาก
ในบรรดาคนทั้งแปดมีนักแสดงและผู้กำกับ หลังจากที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย คนพวกนี้ต้องเข้าไปอยู่ข้างในอย่างน้อยสามปี
ส่วนหนังที่พวกเขากำลังถ่ายทำต้องหยุดพักโปรเจคทั้งหมด
สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งวงการบันเทิง!
ทุกคนถึงกับลิ้นพันกันพูดอะไรไม่ออก ไม่มีใครเคยคิดเพียงเพราะฟานเล่อคนเดียว กลับส่งผลกระทบในวงกว้างมากขนาดนี้
ซ่งจิงนั่งดูข่าวบนโทรศัพท์ในบ้านอย่างเงียบๆ สูดหายใจลึกแล้วหลับตาลง
อันที่จริงวงการบันเทิงลึกซึ้งแค่ไหนสกปรกแค่ไหนเขารู้ตั้งนานแล้ว
แต่เนื่องจากเพื่อผลประโยชน์ จึงไม่มีใครไปเจาะม่านที่ถูกปิดกั้น
แต่ประธานหลินคนนี้แตกต่างกัน!
เขาไม่จำเป็นต้องใส่ใจและสนใจเรื่องพวกนี้
เมื่อไหร่ที่มีคนมายุ่งกับเขา เขาก็จะไม่ปล่อยให้คนคนนั้นได้อยู่อย่างสุขสบาย
"หลังจากผ่านเรื่องนี้ การถ่ายทำพยัคฆ์สงคราม…น่าจะราบรื่นมั้ง? แต่หลังจากที่ปล่อยหนังออกมา เกรงว่าคนทั้งวงการบันเทิงและภาพยนตร์ต้องต่อต้านแน่นอน ประธานหลินนะประธานหลิน คุณรู้หรือเปล่าว่าคุณดึงหน้ากากของผู้คนจำนวนมากออกมาแล้ว คุณล่วงเกินบุคคลที่มองไม่เห็นมากมาย ไม่มีความช่วยเหลือจากคนพวกนี้ ถึงผมจะสามารถถ่ายทำพยัคฆ์สงครามออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ เกรงว่ายอดขายคงไม่เกินหนึ่งร้อยล้าน…ดูเหมือน เงินสามพันล้านของคุณต้องสูญเปล่าแล้ว!"
ซ่งจิงหลับตาลงแล้วพูดพึมพำ
รุ่งเช้าวันที่สอง ซ่งจิงกลับไปที่กองถ่ายอีกครั้ง
ซูหยูและหลินหยางก็ไปถึงแล้ว
แน่นอน หลินหยางยังคงอยู่ในโฉมของประธานหลินผู้สง่างาม บวกกับกลิ่นอายที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่รู้ว่ามีเสน่ห์มากกว่าฟานเล่อกี่เท่า
แม้กระทั่งซูหยูก็อดไม่ได้ที่จะแอบมองหลายครั้ง
"สวัสดีประธานหลิน!"
ซ่งจิงพูดทักทาย ท่าทีของเขาไม่กระตือรือร้นแต่ก็ไม่เย็นชา
เห็นได้ชัด เขาไม่สนับสนุนการกระทำของหลินหยาง ถึงแม้หยางหัวจะได้รับชัยชนะ แต่เขายังคงคิดว่าหยางหัวไม่สามารถหัวเราะจนถึงตอนจบ
"อืม" หลินหยางพยักหน้า "ดูเหมือนวันนี้จะมีคิวถ่ายของผมใช่หรือเปล่า? พวกเรามาเริ่มกันเลย"
"ได้ อายิง คุณพาประธานหลินไปแต่งตัว"
"ได้ค่ะผู้กำกับซ่ง ประธานหลิน เชิญตามฉันมา" ผู้หญิงหน้าแดงอายุไม่ถึงสามสิบคนหนึ่งพูดกับหลินหยางด้วยท่าทางที่เขินอายเล็กน้อย
"อืม" หลินหยางพยักหน้า หลังจากนั้นเดินตามเธอเข้าไปในห้องแต่งตัว
หลังจากนั้นประมาณหนึ่งชั่วโมง หลินหยางในชุดเครื่องแบบทหารเดินออกมา
เขาสวมชุดลายพราง แขนเสื้อถูกพับขึ้น สวมเสื้อเกราะกันกระสุนทับอีกชั้น มือถือปืนกลอัตโนมัติ ดูแล้วเหมือนหน่วยรบพิเศษที่มีความเด็ดเดี่ยวและเย็นชา
ทุกคนหันไปมองแล้วรู้สึกอึ้ง
มีพนักงานผู้หญิงไม่น้อยที่มองหลินหยางไม่กระพริบตา
"ผู้กำกับซ่ง คุณอาจจะแพ้แล้ว เกรงว่าแค่รูปโฉมของประธานหลิน ยอดขายก็คงจะสามารถทะลุร้อยล้านได้อย่างง่ายดาย" พนักงานคนหนึ่งอดไม่ได้ที่จะพูด
ทว่าซ่งจิงกลับส่ายหัวแล้วพูดเสียงเบา "คุณไม่เข้าใจวงการภาพยนตร์ของประเทศเรา ยอดขายของภาพยนตร์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับพล็อตเรื่องและหน้าตา แต่ต้องขึ้นอยู่กับการดำเนินงาน…ตอนนี้ทางด้านประธานหลินได้สูญเสียการดำเนินงานไปแล้ว ด้วยใบหน้าของเขาอย่างมากก็ห้าสิบล้าน ยอดขายไปไม่ถึงไหนหรอก พวกเรารอดูกันต่อไป"
ซูหยูนึกขึ้นได้จึงรีบเปิดวีแชทแล้วส่งข้อความหาหลินหยาง เธอจะเล่าเรื่องที่ถ่ายหนังคู่กับประธานหลินในวันนี้ให้เขาฟัง
ทว่าว่าหลังจากที่ส่งข้อความออกไป
ติง
โทรศัพท์ของหลินหยางแสดงข้อความเข้าทันที
ซูหยูรู้สึกอึ้งไปสักพัก แต่ก็ไม่ได้เก็บเอาไปใส่ใจ เห็นหลินหยางไม่ยอมตอบ จึงกดส่งข้อความอีกครั้ง
ติง
โทรศัพท์ของหลินหยางที่วางไว้บนชั้นวางหน้ารถสว่างขึ้นอีกครั้ง
มันทำให้ซูหยูรู้สึกสงสัยมาก
อดไม่ได้ที่จะกวาดสายตามองบนหน้าจอ
ทว่าเพียงแค่แวบเดียว ซูหยูต้องตกตะลึง
เป็นเพียงข้อความที่ถูกส่งเข้าเป็นของ…ซูหยู!
ซูหยูตกตะลึง
"ประ…ประธานหลิน?" ซูหยูเอ่ยปากด้วยความยากลำบาก
"ฮืม?"
หลินหยางที่กำลังขับรถอย่างตั้งใจรู้สึกตัว พอดีกับรถยนต์ขับมาจอดลงที่ไฟแดง หันไปมองซูหยูและโทรศัพท์ หลินหยางก็รู้สึกอึ้งทันที
กลับเห็นซูหยูมองโทรศัพท์ด้วยสายตาที่สับสน หลังจากนั้นกดส่งข้อความอย่างรวดเร็วอีกครั้ง
ติง…
โทรศัพท์ของหลินหยางดังอีกครั้ง
บนหน้าจอมีข้อความจากซูหยูสว่างขึ้น…
คราวนี้มั่นใจได้แล้ว
"ประธานหลิน ทำไมโทรศัพท์ของพี่เขยฉัน…ถึงมาอยู่ที่นี่?" ซูหยูเงยหน้าขึ้นมองหลินหยางอย่างกะทันหัน
"นี่…ใช่…ใช่…น่าแปลกจัง ทำไมโทรศัพท์ของหลินหยางถึงมาอยู่ที่นี่?" หลินหยางรีบตั้งสติแล้วพูดด้วยความสงสัย
ยิ่งมีความสงสัยปรากฏขึ้นบนใบหน้าของซูหยู อดไม่ได้ที่จะพูด "หรือว่า…"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...