"คุณจะเข้าใจแบบนี้ก็ได้ นี่ก็เป็นอีกเหตุผลที่ทำไมแต่ละตำหนักถึงต้องการแย่งคนอย่างบ้าคลั่ง คนยิ่งมาก กองกำลังยิ่งแข็งแกร่ง โอกาศที่จะแย่งแหวนได้ก็ยิ่งสูง ถ้าหากตัวคนเดียว ถึงได้แหวนมาก็ไม่สามรถปกป้องเอาไว้อยู่ดี!"
"แล้วคนที่ได้แหวนมา ต้องทำยังไงทุกคนถึงจะยอมรับ?" หลินหยางถาม
"ง่ายมาก!"
เจียงเช่อชี้ไปทางวังตงหวงที่อยู่ข้างบนสุดแล้วพูด "คนที่แย่งแหวนได้ต้องเดินทางไปเปิดสมบัติลับที่เจ้านิกายคนก่อนซ่อนไว้ในวังตงหวง คนที่ได้รับการสืบทอดทั้งหมดของเจ้านิกาย ก็จะกลายเป็นเจ้านิกายคนใหม่ของนิกายตงหวง หลังจากที่ได้สมบัติลับ ทุกคนต้องยอมรับทุกคน เพราะสมบัติลีบมีเพียงส่วนเดียว มีเพียงเจ้านิกายเท่านั้นที่สามารถรับได้!"
หลินหยางได้ยินแล้วสูดหายใจเข้าลึกๆ มองดูจุดรายงานตัวตรงหน้าแล้วก้าวเท้าเดินเข้าไป
คนที่อยู่ใกล้ที่สุดคือหญิงชราร่างผอมบางและสีหน้าซีดเล็กน้อย
ตามที่เจียงเช่อแนะนำ คนพวกนี้ล้วนแต่เป็นผู้พิทักษ์ของวังตงหวง ไม่นับเป็นคนของตำหนักใดตำหนักหนึ่ง
พวกเขาจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับบุญคุณความแค้นของแต่ละตำหนัก แต่พวกเขาจะปกป้องผู้ที่ได้รับการสืบทอดสมบัติลับอย่างสุดกำลัง
หลินหยางเดินเข้าไปวางตราสัญลักษณ์เจ้าตำหนักลงบนโต๊ะ
หญิงชราคนนี้มีรอยเหี่ยวย่นและรอยด่างทั่วใบหน้า
หญิงชราเงยหน้าขึ้นมองหลินหยาง หลังจากนั้นพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย "ตราสัญลักษณ์เจ้าตำหนักชิงเหอ ตำหนักชิงเหอเข้าร่วมงานประชุมใหญ่ตงหวง ปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนหนึ่งคน"
พูดจบ เริ่มลงมือเขียนข้อมูลพื้นฐานของหลินหยางลงในกระดาษ
หลินหยางกวาดสายตามองแล้วต้องขมวดคิ้ว
มีข้อมูลอยู่บนกระดาษไม่น้อย
นอกจากรายชื่อตำหนักชิงเหอของเขา ตำหนักอื่นมีจำนวนคนอย่างน้อยนับร้อย
ดูเหมือนตำหนักชิงเหอจะค่อนข้างโดดเดี่ยว
แต่ก็ช่วยไม่ได้ ตำหนักชิงเหอเป็นกลุ่มที่อ่อนแอที่สุดในบรรดาตำหนักทั้งหมดแล้ว
"นี่เป็นป้ายหมายเลขของคุณ เชิญเข้าไปได้" หญิงชราวางป้ายหมายเลขลงบนโต๊ะ ดันแว่นตรงสะพานจมูกของตนเอง แล้วหลับตาลงอีกครั้ง
หลินหยางหยิบป้ายหมายเลขขึ้นมา
หมายเลข 1700
หรือก่อนหน้านี้มีคนเข้าไปแล้วหนึ่งพันกว่าคน?
น่าจะไม่ใช่แค่นั้น
อาจจะเป็นเพราะป้ายหมายเลขมีการปะปนกันมา
หลินหยางเก็บป้ายหมายเลข หันไปมองเจียงเช่อ "คุณไม่ลงทะเบียนเหรอ?"
"ไม่…ไม่ต้อง…ฉัน…ฉันลงทะเบียนทีหลัง…"เจียงเช่อเค้นรอยยิ้มแล้วพูด
"ลงทะเบียนทีหลัง? หมายความว่ายังไง?" หลินหยางถามด้วยความไม่เข้าใจ
ทว่าก่อนที่เจียงเช่อจะอธิบาย กลับมีเสียงที่เฉยเมยดังมาจากด้านหลัง
"ถ้าหากลงทะเบียนทีหลัง ก็สามารถเข้าไปหลังคนอื่น พอเข้าไปหลังคนอื่น ก็สามารถไปถึงงานประชุมใหญ่หลังคนอื่น! ก็เป็นแบบนี้ ก็ไม่ต้องเผชิญหน้ากับผู้คนหรือยอดฝีมือมากเกินไป อย่างน้อยก็สามารถรักษาเอาชีวิตรอด!"
หลังจากได้ยินคำพูดประโยคนี้ ทั้งสองคนหันไปมองตามต้นทางของเสียงพร้อมกัน
เพิ่งสังเกตเห็นคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา
เจียงเช่อมองเพียงแค่แวบเดียว ถึงกับหน้าถอดสีทันที
คนพวกนี้…เป็นคนของตำหนักกู่หลิง
คนที่เป็นผู้นำคือเจิ้งตาน
เธอเดินเข้ามาพร้อมกับคนเกือบนับพัน แต่ละคนจ้องมาทางหลินหยางด้วยสายตาที่มุ่งร้ายและเกลียดชัง
"ศิษย์น้องเล็ก…" เจียงเช่ออุทาน
เจิ้งตานไม่ได้สนใจเธอ แต่หรี่ลงมองหลินหยางแทน
"คนแซ่หลิน ฉันคิดว่าคุณควรให้คำตอบตำหนักกู่หลิงของเราได้แล้ว อาจารย์ของเราให้เวลาคุณมากพอแล้ว! คำตอบของคุณว่ายังไง?" เจิ้งตานหรี่ตาลง ยิ้มแล้วพูด
"คำตอบอะไร?"
หลินหยางรู้สึกอึ้ง มองเจิ้งตานด้วยความประหลาดใจ
"หืม?" เจิ้งตานกระตุกมุมปากขึ้น "ดังนั้นหมายความว่าพี่หลินปฏิเสธอาจารย์ของเรา?"
"คุณหมายถึงเรื่องที่อาจารย์ของคุณต้องการให้ผมเข้าร่วมตำหนักกู่หลิงเหรอ?" หลินหยางถามกลับ
"ถูกต้อง"
"ไม่เข้าร่วมแล้วจะเป็นยังไง?"
"มันก็ต้องตายสถานเดียวอยู่แล้ว"
"ผมไม่คิดว่าคนแค่นี้ของคุณจะทำอะไรผมได้" หลินหยางส่ายหัว
"ถูกต้อง พวกเราไม่สามารถทำอะไรคุณ แต่ฉันจะบอกอะไรให้ อาจารย์ของพวกเราจะสั่งให้ยอดฝีมือของตำหนักพาคนของตำหนักอื่นเข้าไปด้วย ถ้าหากคุณไม่ตอบตกลง พวกเราแค่ถ่วงเวลาคุณ หลังจากนั้นส่งข่าวให้ยอดฝีมือของอาจารย์ เชิญพวกเขามาเล่นงานคุณ ถึงเวลาคุณมีปีกก็หนีไม่พ้น"
"ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง…"
"ถ้าหากกลัวแล้วก็มาเข้าร่วมกับพวกเราอย่างเชื่อฟัง เมื่อเป็นแบบนั้น อย่างน้อยคุณก็ยังมีทางรอด" เจิ้งตานพูดอย่างยิ้มแย้ม "พวกเราร่วมมือกันแย่งแหวนศักดิ์สิทธิ์ตงหวง มันไม่ดีตรงไหน?"
"มันก็ถือว่าเป็นวิธีที่ดี แต่ว่า…ทำไมพวกคุณไม่เข้าร่วมตำหนักชิงเหอของผมล่ะ?" หลินหยางถามกลับ
โดยรวมแล้วน่าจะมีหลายร้อยคน
ทุกคนยืนจับกลุ่มคุยกัน บางคนก็ถือแผนที่กำลังวิเคราะห์อะไรบางอย่าง บางคนก็กำลังแจกจ่ายยาและอาวุธ
มีไม่น้อยที่สะพายกระบี่และดาบไว้ที่แผ่นหลัง หรือแม้กระทั่งอาวุธลับ
แสงสีเงินที่เป็นประกายทำให้ผู้คนรู้สึกหนังศีรษะชาและอกสั่นขวัญแขวน
แต่สิ่งที่ทำให้หลินหยางรู้สึกประหลาดใจมากกว่านั้นก็คือคนพวกนี้ไม่เพียงแต่เตรียมอาวุธอย่างเช่นดาบและมีดมาเท่านั้น ถึงขั้นมีเครื่องกระสุนปืนและเครื่องยิงจรวดRPG
เรื่องนี้ทำให้หลินหยางรู้สึกอึ้งมาก
ดูเหมือนคนของนิกายตงหวงก็ทันยุคสมัยเหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ยุคสมัยโบราณแล้ว
หลินหยางนั่งลงตรงมุมที่ไม่มีคน หลังจากนั้นหลับตาลง
คนของตำหนักกู่หลิงเดินเข้ามาทีละคน
พวกเขามารวมตัวกันที่ทางเข้า แต่ละคนหันมามองหลินหยางพร้อมกับพูดกระซิบอะไรบางอย่าง
ประมาณเห็นว่าคนของตำหนักกู่หลิงมองมาทางหลินหยาง มีผู้คนไม่น้อยจึงอดไม่ได้ที่จะหันไปมองทางหลินหยางด้วยเช่นกัน
ไม่นาน เจิ้งตานก็เดินเข้ามาแล้ว
เธอพาคนเดินเข้าไปล้อมรอบหลินหยาง
แน่นอน แค่ล้อมไว้เท่านั้น ไม่ได้ทำอะไรนอกเหนือจากนี้
เพราะที่นี่คือทางเข้าของงานประชุมใหญ่ตงหวง
ก่อนที่งานประชุมใหญ่จะเริ่มต้นขึ้น ห้ามทำอะไรส่งเดชเด็ดขาด นี่คือกฎ
ถึงแม้กฎระเบียบของานประชุมใหญ่ตงหวงจะมีไม่เยอะ แต่ถ้าหากมีใครจะกล้าแหกกฎ…ผลที่ตามมาจะร้ายแรงมาก
"ฮึ่ม อีกเดี๋ยวดูซิว่าเขาจะอวดดียังไงอีก!"
"ฉันต้องทำให้เขาคุกเข่าลงอ้อนวอนขอร้อง!"
"หน้าตาก็หล่อใช้ได้ แต่น่าเสียดายไม่มีสมอง! ถ้าเป็นศัตรูกับตำหนักกู่หลิง พวกเราสามารถเก็บเขาไว้ได้เหรอ?"
"ใช่! หวังว่าอีกเดี๋ยวเขายังสามารถทำตัวนิ่งแบบนี้ก็แล้วกัน"
มีเสียงพูดเสียดสีดังมา
หลินหยางไม่ได้รู้สึกอะไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...