สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา นิยาย บท 864

"คุณจะเข้าใจแบบนี้ก็ได้ นี่ก็เป็นอีกเหตุผลที่ทำไมแต่ละตำหนักถึงต้องการแย่งคนอย่างบ้าคลั่ง คนยิ่งมาก กองกำลังยิ่งแข็งแกร่ง โอกาศที่จะแย่งแหวนได้ก็ยิ่งสูง ถ้าหากตัวคนเดียว ถึงได้แหวนมาก็ไม่สามรถปกป้องเอาไว้อยู่ดี!"

"แล้วคนที่ได้แหวนมา ต้องทำยังไงทุกคนถึงจะยอมรับ?" หลินหยางถาม

"ง่ายมาก!"

เจียงเช่อชี้ไปทางวังตงหวงที่อยู่ข้างบนสุดแล้วพูด "คนที่แย่งแหวนได้ต้องเดินทางไปเปิดสมบัติลับที่เจ้านิกายคนก่อนซ่อนไว้ในวังตงหวง คนที่ได้รับการสืบทอดทั้งหมดของเจ้านิกาย ก็จะกลายเป็นเจ้านิกายคนใหม่ของนิกายตงหวง หลังจากที่ได้สมบัติลับ ทุกคนต้องยอมรับทุกคน เพราะสมบัติลีบมีเพียงส่วนเดียว มีเพียงเจ้านิกายเท่านั้นที่สามารถรับได้!"

หลินหยางได้ยินแล้วสูดหายใจเข้าลึกๆ มองดูจุดรายงานตัวตรงหน้าแล้วก้าวเท้าเดินเข้าไป

คนที่อยู่ใกล้ที่สุดคือหญิงชราร่างผอมบางและสีหน้าซีดเล็กน้อย

ตามที่เจียงเช่อแนะนำ คนพวกนี้ล้วนแต่เป็นผู้พิทักษ์ของวังตงหวง ไม่นับเป็นคนของตำหนักใดตำหนักหนึ่ง

พวกเขาจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับบุญคุณความแค้นของแต่ละตำหนัก แต่พวกเขาจะปกป้องผู้ที่ได้รับการสืบทอดสมบัติลับอย่างสุดกำลัง

หลินหยางเดินเข้าไปวางตราสัญลักษณ์เจ้าตำหนักลงบนโต๊ะ

หญิงชราคนนี้มีรอยเหี่ยวย่นและรอยด่างทั่วใบหน้า

หญิงชราเงยหน้าขึ้นมองหลินหยาง หลังจากนั้นพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย "ตราสัญลักษณ์เจ้าตำหนักชิงเหอ ตำหนักชิงเหอเข้าร่วมงานประชุมใหญ่ตงหวง ปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนหนึ่งคน"

พูดจบ เริ่มลงมือเขียนข้อมูลพื้นฐานของหลินหยางลงในกระดาษ

หลินหยางกวาดสายตามองแล้วต้องขมวดคิ้ว

มีข้อมูลอยู่บนกระดาษไม่น้อย

นอกจากรายชื่อตำหนักชิงเหอของเขา ตำหนักอื่นมีจำนวนคนอย่างน้อยนับร้อย

ดูเหมือนตำหนักชิงเหอจะค่อนข้างโดดเดี่ยว

แต่ก็ช่วยไม่ได้ ตำหนักชิงเหอเป็นกลุ่มที่อ่อนแอที่สุดในบรรดาตำหนักทั้งหมดแล้ว

"นี่เป็นป้ายหมายเลขของคุณ เชิญเข้าไปได้" หญิงชราวางป้ายหมายเลขลงบนโต๊ะ ดันแว่นตรงสะพานจมูกของตนเอง แล้วหลับตาลงอีกครั้ง

หลินหยางหยิบป้ายหมายเลขขึ้นมา

หมายเลข 1700

หรือก่อนหน้านี้มีคนเข้าไปแล้วหนึ่งพันกว่าคน?

น่าจะไม่ใช่แค่นั้น

อาจจะเป็นเพราะป้ายหมายเลขมีการปะปนกันมา

หลินหยางเก็บป้ายหมายเลข หันไปมองเจียงเช่อ "คุณไม่ลงทะเบียนเหรอ?"

"ไม่…ไม่ต้อง…ฉัน…ฉันลงทะเบียนทีหลัง…"เจียงเช่อเค้นรอยยิ้มแล้วพูด

"ลงทะเบียนทีหลัง? หมายความว่ายังไง?" หลินหยางถามด้วยความไม่เข้าใจ

ทว่าก่อนที่เจียงเช่อจะอธิบาย กลับมีเสียงที่เฉยเมยดังมาจากด้านหลัง

"ถ้าหากลงทะเบียนทีหลัง ก็สามารถเข้าไปหลังคนอื่น พอเข้าไปหลังคนอื่น ก็สามารถไปถึงงานประชุมใหญ่หลังคนอื่น! ก็เป็นแบบนี้ ก็ไม่ต้องเผชิญหน้ากับผู้คนหรือยอดฝีมือมากเกินไป อย่างน้อยก็สามารถรักษาเอาชีวิตรอด!"

หลังจากได้ยินคำพูดประโยคนี้ ทั้งสองคนหันไปมองตามต้นทางของเสียงพร้อมกัน

เพิ่งสังเกตเห็นคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา

เจียงเช่อมองเพียงแค่แวบเดียว ถึงกับหน้าถอดสีทันที

คนพวกนี้…เป็นคนของตำหนักกู่หลิง

คนที่เป็นผู้นำคือเจิ้งตาน

เธอเดินเข้ามาพร้อมกับคนเกือบนับพัน แต่ละคนจ้องมาทางหลินหยางด้วยสายตาที่มุ่งร้ายและเกลียดชัง

"ศิษย์น้องเล็ก…" เจียงเช่ออุทาน

เจิ้งตานไม่ได้สนใจเธอ แต่หรี่ลงมองหลินหยางแทน

"คนแซ่หลิน ฉันคิดว่าคุณควรให้คำตอบตำหนักกู่หลิงของเราได้แล้ว อาจารย์ของเราให้เวลาคุณมากพอแล้ว! คำตอบของคุณว่ายังไง?" เจิ้งตานหรี่ตาลง ยิ้มแล้วพูด

"คำตอบอะไร?"

หลินหยางรู้สึกอึ้ง มองเจิ้งตานด้วยความประหลาดใจ

"หืม?" เจิ้งตานกระตุกมุมปากขึ้น "ดังนั้นหมายความว่าพี่หลินปฏิเสธอาจารย์ของเรา?"

"คุณหมายถึงเรื่องที่อาจารย์ของคุณต้องการให้ผมเข้าร่วมตำหนักกู่หลิงเหรอ?" หลินหยางถามกลับ

"ถูกต้อง"

"ไม่เข้าร่วมแล้วจะเป็นยังไง?"

"มันก็ต้องตายสถานเดียวอยู่แล้ว"

"ผมไม่คิดว่าคนแค่นี้ของคุณจะทำอะไรผมได้" หลินหยางส่ายหัว

"ถูกต้อง พวกเราไม่สามารถทำอะไรคุณ แต่ฉันจะบอกอะไรให้ อาจารย์ของพวกเราจะสั่งให้ยอดฝีมือของตำหนักพาคนของตำหนักอื่นเข้าไปด้วย ถ้าหากคุณไม่ตอบตกลง พวกเราแค่ถ่วงเวลาคุณ หลังจากนั้นส่งข่าวให้ยอดฝีมือของอาจารย์ เชิญพวกเขามาเล่นงานคุณ ถึงเวลาคุณมีปีกก็หนีไม่พ้น"

"ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง…"

"ถ้าหากกลัวแล้วก็มาเข้าร่วมกับพวกเราอย่างเชื่อฟัง เมื่อเป็นแบบนั้น อย่างน้อยคุณก็ยังมีทางรอด" เจิ้งตานพูดอย่างยิ้มแย้ม "พวกเราร่วมมือกันแย่งแหวนศักดิ์สิทธิ์ตงหวง มันไม่ดีตรงไหน?"

"มันก็ถือว่าเป็นวิธีที่ดี แต่ว่า…ทำไมพวกคุณไม่เข้าร่วมตำหนักชิงเหอของผมล่ะ?" หลินหยางถามกลับ

โดยรวมแล้วน่าจะมีหลายร้อยคน

ทุกคนยืนจับกลุ่มคุยกัน บางคนก็ถือแผนที่กำลังวิเคราะห์อะไรบางอย่าง บางคนก็กำลังแจกจ่ายยาและอาวุธ

มีไม่น้อยที่สะพายกระบี่และดาบไว้ที่แผ่นหลัง หรือแม้กระทั่งอาวุธลับ

แสงสีเงินที่เป็นประกายทำให้ผู้คนรู้สึกหนังศีรษะชาและอกสั่นขวัญแขวน

แต่สิ่งที่ทำให้หลินหยางรู้สึกประหลาดใจมากกว่านั้นก็คือคนพวกนี้ไม่เพียงแต่เตรียมอาวุธอย่างเช่นดาบและมีดมาเท่านั้น ถึงขั้นมีเครื่องกระสุนปืนและเครื่องยิงจรวดRPG

เรื่องนี้ทำให้หลินหยางรู้สึกอึ้งมาก

ดูเหมือนคนของนิกายตงหวงก็ทันยุคสมัยเหมือนกัน

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ยุคสมัยโบราณแล้ว

หลินหยางนั่งลงตรงมุมที่ไม่มีคน หลังจากนั้นหลับตาลง

คนของตำหนักกู่หลิงเดินเข้ามาทีละคน

พวกเขามารวมตัวกันที่ทางเข้า แต่ละคนหันมามองหลินหยางพร้อมกับพูดกระซิบอะไรบางอย่าง

ประมาณเห็นว่าคนของตำหนักกู่หลิงมองมาทางหลินหยาง มีผู้คนไม่น้อยจึงอดไม่ได้ที่จะหันไปมองทางหลินหยางด้วยเช่นกัน

ไม่นาน เจิ้งตานก็เดินเข้ามาแล้ว

เธอพาคนเดินเข้าไปล้อมรอบหลินหยาง

แน่นอน แค่ล้อมไว้เท่านั้น ไม่ได้ทำอะไรนอกเหนือจากนี้

เพราะที่นี่คือทางเข้าของงานประชุมใหญ่ตงหวง

ก่อนที่งานประชุมใหญ่จะเริ่มต้นขึ้น ห้ามทำอะไรส่งเดชเด็ดขาด นี่คือกฎ

ถึงแม้กฎระเบียบของานประชุมใหญ่ตงหวงจะมีไม่เยอะ แต่ถ้าหากมีใครจะกล้าแหกกฎ…ผลที่ตามมาจะร้ายแรงมาก

"ฮึ่ม อีกเดี๋ยวดูซิว่าเขาจะอวดดียังไงอีก!"

"ฉันต้องทำให้เขาคุกเข่าลงอ้อนวอนขอร้อง!"

"หน้าตาก็หล่อใช้ได้ แต่น่าเสียดายไม่มีสมอง! ถ้าเป็นศัตรูกับตำหนักกู่หลิง พวกเราสามารถเก็บเขาไว้ได้เหรอ?"

"ใช่! หวังว่าอีกเดี๋ยวเขายังสามารถทำตัวนิ่งแบบนี้ก็แล้วกัน"

มีเสียงพูดเสียดสีดังมา

หลินหยางไม่ได้รู้สึกอะไร

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา