สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา นิยาย บท 94

ซูเหยียนรู้สึกวิตกกังวลเล็กน้อย มองหน้าประตูของบ้านตระกูลจาง ย่างเก้านั้นหนักอย่างมาก

"เสี่ยวเหยียน พวกเราเข้าไปกันเถอะ" ซูกวงเอ่ยปากพูด

"ฉัน...ฉัน..." ปากเล็กๆ ของซูเหยียนขยับ แต่กลับไม่กล้าเดิน

ในตอนนี้มีมือใหญ่มาจับเธอไว้อย่างนุ่มนวล

ซูเหยียนสั่น เห็นหลินหยางยิ้มให้กับเธอ: "ไม่ต้องกลัว มีผมอยู่"

ซูเหยียนหรี่ตา ก้มหน้าลงและพูดด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น: "คุณจะไม่ถามหรอว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"

"ถ้าคุณจะพูด คุณก็จะอธิบายเอง ถ้าคุณไม่พูด ผมก็ไม่อยากบังคับให้คุณพูด" หลินหยางพูดอย่างเรียบเฉย

บางเรื่องไม่ถามดีกว่าถาม

"จริงๆ แล้วพูดกับคุณก็ไม่มีอะไร" ซูเหยียนหันครึ่งหน้า ร่องรอยความเจ็บปวดและความกลัวก็ปรากฎในดวงตาฤดูใบไม้ร่วงของเธอ: "ฉันรู้จักเขาไม่นาน แค่สองสามวัน ฉันก็ถูกพวกลุงๆ จัดการให้เจอกับไคโม่คนนี้แล้ว คุณเองก็รู้ ตระกูลจางตระกูลใหญ่แบบนี้คู่ควรเหมาะสม จริงๆ แล้วก็แค่อยากให้แต่งงานเท่านั้น ฉันไม่ได้สนใจในตัวไคโม่ แต่เพราะความแข็งแกร่งของตระกูล ฉันจึงต้องไปเจอกับไคโม่อย่างช่วยไม่ได้ ที่ฉันหมายถึงคืออดีต เมื่อเจอหน้าก็ทำให้เสร็จทันที หลังจากนั้นก็ไม่สนใจคนคนนี้ แต่กลับไม่เคยคิดเลยว่าหลังจากที่คนคนนี้เจอฉัน จะเหมือนคนบ้าที่คอยติดตามฉัน บ้ายิ่งกว่าหม่าฟง เดิมทีฉันคิดว่าตราบใดที่ฉันไม่ไปสนใจก็ไม่เป็นอะไร ใครจะคิดว่าไคโม่คนนี้น่ากลัวยิ่งกว่าที่ฉันคิดไว้อีก..."

เมื่อพูดถึงตรงนี้ ร่างกายของเธอก็สั่นเทา ใบหน้าของเธอซีดเหมือนกระดาษขาว

"เสี่ยวเหยียน ไม่ต้องพูดแล้ว" จางชิงหยูรีบเข้ามากอดซูเหยียน

ใบหน้าเล็กๆ ของซูเหยียนซีด กลัวอย่างมา แต่ก็ยังคงพูดต่อ

"นั่นเป็นวันที่สามหลังจากที่ฉันนัดบอดกับไคโม่ ฉันไม่สามารถทนกับการไล่ตามของไคโม่ได้ ดังนั้นจึงวางแผนที่จะนั่งรถกลับไปยังเมืองเจียงเฉินก่อนเวลา ใครจะรู้ว่ารถแท็กซี่ที่ฉันนั่งออกไปจะเป็นคันที่ไคโม่เตรียมเอาไว้ ฉันนั่งอยู่แถวหลังและเห็นข้อความที่คนขับส่งให้กับไคโม่ ฉันรู้ว่าหากตกอยู่ในมือของไคโฒ่แล้ว ฉันต้องตายอย่างอนาถอย่างแน่นอน เพราะมีข่าวลือว่าไคโม่มักจะ ข่มเหงผู้อื่นและกระทั่งผู้หญิงยังถูกทารุณกรรม ถูกทรมานจนตาย ฉันจึงรีบกระโดดลงจากรถ คนขับรีบแจ้งไคโม่ให้มาจับฉันในทันที ฉันซ่อนตัวบนดาดฟ้าของอาคารที่พักอาศัยใกล้เคียงแล้วหลบหนี จนกระทั่งพ่อแม่มารับฉันและพาฉันไปที่โรงพยาบาล..."

เมื่อพูดถึงตอนนี้ ร่างของเธอสั่นมากกว่าเดิน

หลินหยางไม่พูดอะไร แต่เขาแอบกำหมัดของเขาอย่างแน่น

รังสีแห่งเจตนาฆ่าแทรกซึม

กล้าดียังไงถึงมาทำให้ผู้หญิงที่อ่อนแอกระโดดลงจากรถ? มันน่ากลัวขนาดไหน?

ยิ่งกว่านั้น หลังจากที่เด็กสาวกระโดดลงจากรถ เธอต้องหลบซ่อนคนเป็นจำนวนมาก นี่มันเรื่องที่ลำบากอย่างมาก

ร่างกายของซูเหยียนไม่ได้ดี เธอโดดลงจากรถก็นับว่าเป็นปาฏิหารย์แล้ว ต้องได้รับบาดเจ็บหนัก ทั้งยังต้องหนีเอาชีวิตในขณะที่บาดเจ็บหนักด้วย ยากที่จะจินตนาการจริงๆ

ไม่น่าแปลกใจที่ซูเหยียนจะตกใจขนาดนี้เมื่อเจอไคโม่

เพราะในใจของเธอ ไคโม่เป็นเหมือนปีศาจร้ายแล้ว

"ไม่ได้พูดเรื่องนี้กับคนตระกูลจางหรอ?" หลินหยางพูดอย่างเคร่งขรึม

"บอกแล้ว แต่ไม่มีประโยชน์" ซูกวงถอนหายใจ: "ตระกูลจากคงไม่หาเรื่องตระกูลไคเพราะเรื่องนี้หรอก อีกทั้งยังไงไคโม่ก็ไม่ยอมรับ ไม่มีหลักฐาน เรื่องนี้ก็เลยจบไปแบบนั้น"

"โอเค เรื่องที่ผ่านไปแล้วก็ปล่อยให้ผ่านไป หลังจากนี้พวกเราก็อยู่ห่างกับตระกูลไคหน่อยก็โอเคแล้ว" จางชิงหยูพูดด้วยความกังวล

จริงๆ แล้วเธอโมโหมาก

แม้ว่าซูเหยียนจะไม่ใช่แซ๋จาง แต่ในร่างกายของเธอก็มีสายเลือดตระกูลจางอยู่

เธอถูกรังแกเช่นนี้ ตระกูลจางกลับไม่สนอะไรเลย นี่มันอะไรกัน?

แต่น่าเสียดายที่ตำแหน่งของจางชิงหยูในตระกูลจางนั้นต่ำมาก ใครก็ไม่สนใจครอบครัวของพวกเขา

"เข้าไปกันเถอะ"

หลินหยางพูด สายตาของเขาเยือกเย็นอย่างมาก

ไม่รู้ว่าความรู้สึกที่เขามีต่อซูเหยียนนั้นมากเท่าไหร่ แต่ในเวลานี้ซูเหยียนก็ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาของเขา เขาจะทวงคืนความยุติธรรมนี้

หน้าประตูตระกูลจางมีผู้คนมากมาย คนมีหน้ามีตามีชื่อเสียงจากทุกที่ของมณฑลกวงหนิงมากันหมดแล้ว

จางชิงหยูเดินนำซูกวงและคนอื่นๆ เข้าไป

แต่เมื่อเธอกำลังเดินเข้าประตู ชายในชุดสีเทาก็ยื่นมือมาขวางเอาไว้

"คุณคือใคร? นี่คือสถานที่ส่วนตัว ถ้าไม่ได้รับบัตรเชิญก็ไม่สามารถเข้าไปได้!"

จางชิงหยูตะลึงสักพักและพูด: "อาเปียว ฉันเอง จางชิงหยู คุณไม่รู้จักฉันหรอ?"

"จางชิงหยู? คือใคร?" ชายคนนั้นกวาดสายตามองจางชิงหยูอย่างละเอียด งุนงง

"คุณ...ไอบ้า ฉันเป็นคนตระกูลจาง! คุณก็แค่คนที่ตระกูลจางของฉันจ้างมาดูแลประตู คุณกล้าไม่ให้ฉันเข้าหรอ?" จางชิงหยูกัดฟันด้วยความโมโห

ในขณะที่หลินหยางพูดเขาก็ใช้มือถืออัดวิดีโอ

เมื่อสิ้นเสียง สีหน้าของอาเปียวก็เปลี่ยนไป

จางชิงหยูผงะ จากนั้นก็พูดอย่างมีสติ พยักหน้า: "ดี ดี หลินหยาง บันทึกเอาไว้ ถ่ายหน้าเขาเอาไว้ ถึงเวลานั้นฉันอยากจะเห็นว่าเขาจะพูดอะไรอีก!"

อาเปียวตัวสั่น

จริงอยู่ที่จางชิงหยูมีตำแหน่งไม่สูงในตระกูลจาง แต่ถ้าเรื่องเขาเป็นคนนอกไม่ยอมให้คนตระกูลจางเข้าไปเคารพอวยพรวันเกิดไปเข้าถึงหูของผู้เฒ่าแล้ว คงแย่อย่างมาก

ผู้เฒ่าไม่ใช่คนแบบนั้น อย่าว่าแต่จางชิงหยูไม่ใช่คนที่มีตำแหน่งสูง แม้ว่าจะเป็นอากาศ ตราบใดที่เธอแซ๋จาง ก็แตกต่างกัน

"ไปกันเถอะ" หลินหยางเก็บโทรศัพท์และพูดอย่างนิ่งเฉย

"โอเค!" ซูเหยียนพยักหน้า จับมือหลินหยางก่อนจะจากไป

"นี่..." อาเปียวรีบร้อน

"ช้าก่อน!"

ในเวลานี้มีเสียงตะโกนออกมา

หลินหยางยิ้มอย่างเย็นชา

ในที่สุดก็มีคนออกมาแล้วหรอ?"

หลายคนหันหน้าไป เห็นชายผู้แข็งแกร่งสวมเสื้อกั๊กสีดำวิ่งเหยาะๆ

ชายคนนี้มีผิวสีเข้มและมีรอยแผลเป็นบนใบหน้า เขาดูดุมาก และแขนที่เปลือยเปล่าของเขาแข็งแรงมาก ทำให้เขารู้สึกกดดันเมื่อเดินเข้าไปหาเขา

"เม้าเนียน?" จางชิงหยูแปลกใจ

"คุณป้า คุณอา พวกคุณจะไปไหน?" จางเม้าเหนียนถามด้วยสีหน้ากังวล

"กลับ"

"กลับหรอ? วันนี้เป็นวันเกิดของคุณปู่ พวกคุณยังไม่ได้อวยพรเลย ทำไมกลับแล้วหล่ะ?" จางเม้าเหนียนขมวดคิ้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา