"มึงดูจะลงทุนมากเลยนะ" คนที่พูดก็คือเสกสรรซึ่งมายืนเท้าสะเอวมอง และรู้ดีว่าเพื่อนใช้เงินของตัวเอง ทั้งหมดโดยไม่ได้พึ่งเงินงบประมาณ ถ้าจะขอน้ำประปาคงรออีกเป็นปี กว่าจะได้ แต่ถ้าใช้เงินตัวเอง แค่วันถึงสองวันก็คงจะได้ใช้แล้ว
"เรื่องของกู..มึงอย่าพูดมากแล้วกัน"
"พ่อพระ..พ่อมหาจำเริญ อยากจะปิดทองหลังพระว่างั้น"
"กูว่ามึงอย่ามายุ่งเรื่องของกูเลยดีกว่าไปยุ่งเรื่องของมึงโน่น..มาโน่นแล้ว"
เสกสรรค์หันกลับไปมองก็เห็นว่าจั๊กจั่นกำลังเดินมา
"กูอยากตาย ตาม เช้า กลางวัน เย็น"
"ติดใจมึงล่ะสิ"
"กูแค่จะทำเล่นๆ"
พอเห็นจั๊กจั่นเดินมาถึงทั้งสองก็เลยหยุดพูดกัน
"พี่มาทำอะไรตรงนี้ฉันไปหาที่บ้านก็ไม่เจอ"
"ไม่เห็นหรือไงว่ามาทำอะไร ถามอยู่ได้รำคาญ" ว่าแล้วเสกสรรก็เดินกลับบ้าน
เย็นวันเดียวกัน..
"เขาทำอะไรกัน" ตอนนี้ท่อส่งน้ำประปาได้มาใกล้บ้านของลุงและป้าเข้าไปทุกทีแล้ว และคนที่ถามก็คือ ภูธร เพราะเพิ่งจะขึ้นมาจากสวนผัก พร้อมกับลุงพงษ์
"ไม่รู้เหมือนกัน" ทั้งสองก็เลยแวะเข้าไปถามก่อน
"น้ำประปา!?" ต่างก็พูดขึ้นพร้อมกันเมื่อรู้ว่ามันคืออะไร
"แล้วจะต่อไปไหนเหรอ" ลุงพงษ์ก็เลยถามบ้างเพราะไม่รู้ว่ามีงบของรัฐบาลมาทางนี้
"ทำไปบ้าน 2-3 หลังนั่นแหละ"
"เออดีว่ะจะได้ไม่ต้องตักน้ำให้เหนื่อย" ทั้งสองพูดคุยกันในระหว่างเดินกลับมาที่บ้าน
"มีอะไรพ่อ"
"เขาต่อน้ำประปามาให้เราใช้"
"ต่อมาที่นี่น่ะนะ?"
"ใช่"
"ไม่เห็นผู้ใหญ่บ้านประกาศอะไรเลย" เพราะถ้ามีงบประมาณออกมาผู้ใหญ่บ้านหรือกำนันต้องประกาศเสียงตามสายเพื่อแจ้งชาวบ้านให้รู้ ป้าวรรณีก็เลยสงสัย
"คงเป็นงานเร่งด่วนมั้ง"
"แบบนี้ก็มีด้วยเหรอ"
พอภูธรกลับมาถึงบ้านก็เล่าเรื่องน้ำประปาให้ลูกสาวและภรรยาฟัง
"น้ำประปาเหรอคะ" มิลานรีบเดินออกมาส่องมองดู เพราะวันนี้เธอไม่ได้ไปไหนรู้สึกเวียนหัวก็เลยนอนทั้งวัน
ไม่ใช่ฝีมือเขาใช่ไหม? คงไม่ใช่หรอกเขาจะทำเพื่อเราขนาดนี้เลยเหรอ?? ..คิดแล้วก็นึกขำความคิดของตัวเอง คิดไปได้ยังไงว่าเขาต่อน้ำประปามาเพื่อให้เธอได้ใช้ เพราะมันไม่ใช่งบประมาณน้อยๆ หลักแสนคงไม่อยู่แน่
คนงานที่กำลังขุดเจาะต่างก็ไม่หยุดพักถึงแม้ว่าจะมืดมากแล้ว แต่ก็มีสปอร์ตไลท์ส่องสว่างจากรถให้เห็น
"ผมฝากป้าเอาแกงปลาไปให้บ้านนั้นหน่อยครับ" เขาทำกับข้าวเสร็จแต่ไม่กล้ายกไป เพราะตอนนี้พ่อของเธอกลับมาแล้ว
"ทำไมไม่เอาไปเอง"
"ป้าเห็นสายตาพ่อเธอไหมล่ะ"
พอเห็นท่าทางหลานชายเป็นแบบนั้นก็เลยเอาอาหารที่หลานชายปรุงขึ้นมาเดินไปส่งให้
"ไม่น่าต้องลำบากเลยคะป้า"
"ไม่ลำบากหรอก ทำไว้เยอะ"
"ป้าจะทานด้วยกันไหมคะ"
"ไม่หรอกป้าจะรีบกลับไปเตรียมอาหารให้ลุง"
"เดี๋ยวมิลานจะเอาหม้อกลับไปส่งนะคะ"
ได้ยินแบบนั้นป้าวรรณีก็เดินกลับมาซึ่งมีหลานชายมองตาม
"มองตาละห้อยเลยนะเอ็ง"
"เธอว่ายังไงบ้างครับป้า"
"ไม่ว่าอะไร"
"อ้าว"
"พี่เหนือ"
ในขณะที่เหนือตะวันกำลังยืนคุยกับป้า ก็ได้ยินเสียงเรียกอยู่ด้านหลัง
"มีอะไรแตน"
"ต้องมีอะไรถึงมาได้เหรอ"
"ก็เห็นมันมืดแล้วอันตราย"
"เชื่อตายล่ะ!"
"มีเมียแล้วจะมีแฟนอีกได้ยังไง"
"มิลานกลับมาแล้วเหรอลูก" ภูธรได้ยินเสียงคนคุยกันอยู่ใกล้บ้านก็เลยลงมาส่องดู
"อืมม!!" มือเรียวพยายามผลักคนตัวสูงออก..ตอนที่เธอกำลังจะตอบพ่อ แต่เขาได้แนบริมฝีปากลงมาก่อน
"สงสัยเป็นเสียงของคนงานที่ขุดเจาะอยู่ตรงโน้นมั้งพ่อ" แม่ไม่ได้ยินเสียงตอบจากลูกสาว ก็เลยเดินลงมาดูตรงบันไดเหมือนกัน
"สงสัยจะใช่ คงจะนั่งเล่นอยู่กับยายวรรณีล่ะสิ" พ่อกับแม่ก็เลยเดินกลับขึ้นบ้านไป เพราะคิดว่าถ้านานยังไม่กลับมา ถึงจะไปตาม
ตุ๊บ! เสียงกำปั้นทุบแผ่นอกกว้างเพื่อให้เขาปล่อย
แต่เหนือตะวันก็ไม่ได้สะทกสะท้านเขายังจูบอยู่แบบนั้น..จนเธอหยุดดิ้น
"เข้าไปในหมู่บ้านด้วยไหม" ก่อนที่เขาจะอดใจตัวเองไม่ไหวก็เลยปล่อยจูบออกก่อน
"ไปทำไม"
"ไปส่งตั๊กแตนด้วยกัน"
"นายจะไปส่งก็ไปส่งเองสิ"
"อย่างอนแล้วกัน" เพราะเขาก็ปล่อยให้ตั๊กแตนเดินกลับคนเดียวไม่ได้ อย่างที่ตั๊กแตนพูดกลุ่มนั้นมีแต่ผู้ชาย แถมคืนนี้ก็จะนอนอยู่แถวหน้างานกันด้วย
มือหนาค่อยๆ คลายคนร่างบางออกจากอ้อมกอด แต่เธอก็ยังไม่ขยับไปไหน
"ไม่มีอะไรหรอกแค่จะไปส่งแล้วก็กลับมา" ถ้ามะลิซ้อนอยู่ด้วย เขาคงจะใช้ไปส่งแล้ว แต่ถ้าจะใช้ลุงก็คงจะไม่ได้
หญิงสาวเดินกลับขึ้นบ้าน แต่สายตาของเธอยังมองกลับมาที่เขา ..แค่เขาจะเดินเข้าไปส่งผู้หญิงคนนั้นทำไมเธอถึงมีความรู้สึกแบบนี้
"พ่อคะเดี๋ยวลูกกลับมานะ" เธอขึ้นมาถึงบนบ้านก็บอกกล่าวผู้เป็นพ่อไว้ก่อนกลัวจะเป็นห่วง
"ลูกจะไปไหนเหรอ"
"ไปธุระแป๊บเดียวค่ะ"
เหนือตะวันเดินกลับมาถึงก็เห็นตั๊กแตนนั่งรออยู่ที่แคร่ใต้ถุนบ้าน
"ไหนบอกไปส่งกันแล้วไง" ตั๊กแตนเริ่มหน้าบูดบึ้งเมื่อเห็นว่ามิลานเดินตามหลังเหนือตะวันมา
ชายหนุ่มรีบหันกลับไปมอง เพราะเขาคิดว่าเธอขึ้นบ้านไปแล้วก็เลยออกมา
"ฉันจะเข้าไปซื้อของในหมู่บ้านด้วย"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สยบรัก