วันรุ่งขึ้น
ฉู่เชียนหลีนอนอยู่บนเตียงยังคงคำนึงถึงเรื่องที่ตนเองต้องสูญทรัพย์สินล้านล้านล้านไปในคืนเดียว นางกอดผ้าห่ม ยังคงอยู่ในอารมณ์เศร้าสลดเนิ่นนานมิอาจกลับมาเป็นตัวของตัวเองได้
“เฮ้อ!”
พอรุ่งเช้า เยว่เอ๋อร์ต้องวุ่นหน้าวุ่นหลัง ทำความสะอาดห้องหับ พับเสื้อผ้า เช็ดโต๊ะ ถอนหญ้าในลานบ้าน เปิดหน้าต่างระบายอากาศ และยังต้องยกกระถางดอกไม้ออกไปตากแดดด้วย ซึ่งฉู่เชียนหลีถอนหายใจมาเก้าสิบแปดครั้งแล้ว
“เฮ้อ...”
ทรัพย์สินล้านล้านของนาง
เยว่เอ๋อร์ยกอ่างน้ำเข้ามา “คุณหนูเจ้าคะ ตะวันส่องบั้นท้ายแล้ว ท่านยังไม่ตื่นอีกหรือเจ้าคะ?”
ฉู่เชียนหลีช้อนดวงตาแดงก่ำทั้งคู่ขึ้น ดวงตาที่มีเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอยสีแดงจ้องเยว่เอ๋อร์ด้วยความคับแค้นใจแสนล้ำลึก
ถ้าไม่ใช่เพราะนังเด็กนี่รับใช้นางอย่างจงรักภักดี ไม่ละไม่ทิ้งมาตั้งแต่เล็ก จะต้องหักคอแสนชั่วช้าของนางเป็นแน่...
“เฮ้อ!”
นางพลิกตัว นอนหลับต่อไปด้วยความห่อเหี่ยวใจ
ไม่อยากลุกจากเตียง ข้าวปลาก็ไม่อยากกิน
เงินของฉัน...
เยว่เอ๋อร์เรียกต่ออีกหลายครั้ง เมื่อเห็นคุณหนูไม่ตอบสนอง จึงได้แต่ไปทำงานอื่นๆ ต่ออย่างจนใจ
ตลอดช่วงเช้า เรือนหลังเล็กโกโรโกโสและรกร้างแห่งนี้กลับคึกคัก
บ่าวในครัวนำอาหารเช้ามาส่ง เยว่เอ๋อร์เกิดมีปากเสียงกับพวกเขา “อาหารนี้ดูคล้ายว่าเน่าเสียแล้ว ข้าวก็แข็งนัก ยามนี้คุณหนูของเรายังอยู่ในตำแหน่งพระฉายาเฉินอ๋อง พวกเจ้ากลับกล้าละเลยถึงเพียงนี้เชียวรึ!”
บ่าวผิวคล้ำจากในครัวกลุ่มนั้นหัวเราะเย็นคราวหนึ่ง ก่อนโยนตะกร้าลงกับพื้น “ในครัวมีแค่เท่านั้นแล้ว ไม่เอาก็แล้วแต่”
เข้าจวนมาสามเดือนกว่าล้วนไม่เคยเป็นที่โปรดปราน ดูทีว่าชาตินี้คงได้อยู่แต่ในเรือนเย็น[footnoteRef:1]เท่านั้น [1: เรือนเย็น เหมือนตำหนักเย็นในวังหลวง ซึ่งเป็นที่พำนักสำหรับนางในในวังที่ไม่เป็นที่โปรดปรานของกษัตริย์แล้ว]
ยังฝันหวานจะได้เป็นพระชายาที่รักของอ๋องเฉินอีกหรือ?
จากนั้น มีพวกบ่าวมาจัดสรรสิ่งของให้
เยว่เอ๋อร์ก็มีปากเสียงกับพวกเขาขึ้นมาอีก “ตามกฎของจวน เครื่องใช้ต่างๆ ของคุณหนูข้าอย่างน้อยต้องมีผ้าห่มนวมสี่ผืน เหตุใดจึงส่งมาแค่ผ้าห่มบางๆ ผืนหนึ่ง นี่ก็จวนเจียนจะเข้าช่วงหนาวของฤดูใบไม้ร่วงแล้ว จะให้พวกเราใช้ชีวิตในฤดูหนาวอย่างไร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ