ท่านประธานของสามโอรสแห่งสวรรค์พาตัวกลับบ้าน นิยาย บท 15

เจียงเซิงสูดหายใจเข้า เพื่อสงบสติอารมณ์ก่อนจะฉีกยิ้ม "ไม่ทราบว่าคุณซืออยากจะเห็นเรายังไง หากต้องการคำขอโทษ ถ้างั้นฉันต้องขอโทษคุณแทนเธอด้วยนะคะ"

เขาแค่อยากเห็นเธอขอโทษไม่ใช่เหรอ?

เจียงเซิงปรับทีท่าของตนเอง โค้งคำนับเขา "ขอโทษค่ะ คุณซือ"

เมื่อเห็นว่าเธอมีทีท่านอบน้อม ซือเย่เจ๋วกลับพูดประชดไปเล็กน้อยว่า "ไม่คิดเลยว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลเจียงจะยอมขอโทษเพื่อเพื่อน ดูไม่ออกเลยว่า คุณจะทำเรื่องที่ทำร้ายพี่สาวตัวเองได้"

เจียงเซิงยืดตัวขึ้นด้วยความสับสน "คุณซือหมายความว่ายังไงคะ?"

เธอทำร้ายพี่สาวของตัวเองงั้นเหรอ?

เขากำลังพูดถึงเจียงเวยเหรอ?

ซือเย่เจ๋วโน้มตัวเข้าใกล้ใบหน้าของเธอ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ผมคิดว่าคุณกล้าทำกล้ารับ ดูเหมือนว่ามันก็คงเป็นแบบแหละนะ"

ขณะที่พูด เขาก็หันหลังกลับอย่างเฉยเมย "เรื่องวันนี้ช่างเถอะ"

จับจ้องแผ่นหลังของพวกเขาที่จากไป ในที่สุดเซียวเถียนเถียนก็หายใจหายคอขึ้นมาได้ แต่เมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาพูดกับเจียงเซิงเมื่อสักครู่นี้ "เซิงเซิง คำพูดของท่านซือหมายความว่ายังไง?"

"ฉันจะไปรู้ได้ยังไง?"เจียงเซิงหัวเราะ "อาจจะเป็นเพราะคิดว่าฉันหาเรื่องเจียงเวยมั้ง เป็นผู้ชายของเจียงเวย ต้องระบายความแค้นแทนผู้หญิงของตนเองจริงไหมล่ะ?"

"อะไรนะ? เจียงเวยเป็นผู้หญิงของท่านซือเหรอ?"

เซียวเถียนเถียนตกตะลึง "ท่านซือตาบอดใช่ไหม เขาหลงรักใครไม่ว่า แต่กลับหลงรักผู้หญิงอย่างเจียงเวย?"

เจียงเซิงหันไปมองเธอ "แกยังมีอารมณ์นินทาคนอื่นอีก แกควรคิดที่จะกลับไปอธิบายกับพ่อแกยังไงดีกว่า"

หลังจบประโยค เธอก็สาวเท้าก้าวออกไปทันที

เซียวเถียนเถียนเม้มริมฝีปาก แล้วเดินตามรอยเท้าของเธอไปอย่างรวดเร็ว

วันที่สอง

เจียงเซิงหยิบรายการวัตถุดิบที่ต้องนำเข้ามอบให้เจ้าหน้าที่ในแผนกจัดซื้อ "นำเข้าหินอัญมณีตามรายการนี้ของฉันนะ หากมีข้อผิดพลาด พวกคุณต้องรับผิดชอบเอง"

เจ้าหน้าที่ในแผนกจัดซื้อมองไปที่รายการแล้วพยักหน้า "รับทราบค่ะ"

หลังจากที่เจียงเซิงจากไป เจ้าหน้าที่ในแผนกจัดซื้อกำลังจะเรียบเรียงรายการจัดซื้อที่จำเป็น โทรศัพท์ในห้องทำงานก็ดังขึ้น

เธอวางรายการไว้บนโต๊ะ ลุกขึ้นแล้วเดินไปรับโทรศัพท์

พนักงานหญิงอีกคนลุกขึ้นเดินไปที่โต๊ะของเธอ ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปที่อยู่และข้อมูลติดต่อของโรงงานหินอัญมณีในใบสั่งซื้อ

เธอรีบกลับไปที่โต๊ะทำงานของตัวเองอย่างรวดเร็วและส่งรูปถ่ายที่เธอถ่ายไปให้กับเจียงเวยอย่างเงียบๆ

เจียงเวยซึ่งกำลังนั่งอยู่ในห้องทำงานเห็นรูปภาพที่แผนกจัดซื้อส่งมา ริมฝีปากหยักยิ้มอย่างเย็นชา

เพราะแผนกจัดซื้อให้เธอเป็นคนรับผิดชอบ ถ้างั้นก็อย่าโทษเธอเลย

โทรศัพท์ในห้องทำงานดังขึ้น เจียงเวยหยิบโทรศัพท์ขึ้นรับสาย "สวัสดีค่ะ?"

"เวยเวย แม่โทรหาหนูทำไมถึงปิดเครื่อง?" เซียวหลานโทรหามือถือของเธอไม่ติด จึงได้แต่โทรเข้าโทรศัพท์ในห้องทำงานของเธอ

เมื่อเจียงเวยได้ยินอย่างงั้น สีหน้าของเธอก็ดูไม่ดีขึ้นมา "มือถือของหนูถูกนังแพศยาเจียงเซิงโยนทิ้งแล้ว โทรติดสิแปลก พรุ่งนี้หนูค่อยเปลี่ยนโทรศัพท์ โทรหาหนูตอนนี้มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ?"

"คืนนี้พ่อแกจะเรียกนังแพศยาเจียงเซิงกลับมาบ้าน แกนะ คืนนี้ให้ท่านซือกลับมาทานข้าวที่บ้านกับแกด้วย ขอแค่พวกแกสองคนลงเอยกันได้ พ่อแกจะให้นังแพศยานั่นสมหวังได้ยังไง"

เจียงเวยอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว "แม่คะ เย่เจ๋วยอมกลับบ้านทานข้าวกับหนูซะเมื่อไหร่ แล้วถ้าเขาไม่ยอมไปล่ะคะ?"

ในช่วงเวลาหกปีที่ผ่านมา ซือเย่เจ๋วไม่เคยบอกเลยว่าอยากทานข้าวที่บ้านตระกูลเจียงมาก่อน

"ไม่ว่าด้วยวิธีการอะไรแกต้องเกลี้ยกล่อมเขามาให้ได้ อย่าลืมนะว่า พ่อแกให้ความสำคัญกับแกมาก ถ้าแกไม่ทำแบบนี้ ฉันกับพ่อแกจะช่วยแกได้เหรอ?"

เธอต้องรีบทำให้ลูกสาวของตนเองคว้าตำแหน่งคุณนายตระกูลซือให้ได้ ครั้งก่อนที่เห็นเด็กสองคนนั้นจนถึงตอนนี้ เธอก็รู้สึกไม่สบาย

เมื่อได้ยินประโยคที่มีเหตุผลของผู้เป็นแม่ หลายปีมานี้เพราะเรื่องของเธอกับซือเย่เจ๋ว พ่อของเธอให้ความสำคัญกับเธอมาก

ตอนนี้เจียงเซิงกลับมาแล้ว แถมเธอยังเป็นดีไซเนอร์เครื่องประดับชั้นนำระดับนานาชาติ หากไม่มีแบล็กหลังอย่างซือเย่เจ๋ว เธอก็ไม่ใช่อะไรเลยต่อหน้าเจียงเซิง

เจียงเซิงนั่งอยู่ในห้องทำงานของเธอตรวจสอบข้อมูลของอดีตพนักงาน สายตาของเธอจับจ้องไปที่ลุงแฟรงค์

เธอจำลุงแฟรงค์ได้ ซึ่งแต่เดิมเขาเป็นผู้ช่วยของแม่เธอ เมื่อแม่ของเธอจากไปเขาก็บริหารไวน์เนอร์ จิวเวลรี่มาตลอด ทำให้ไวน์เนอร์ จิวเวลรี่มียอดขายอันดับหนึ่งในเมืองหลวงมาโดยตลอด

เซียวหลานเดินไปหาเจียงเซิ่นพร้อมพูดขึ้นมาว่า "ที่รัก อย่าโกรธเซิงเซิงเลยนะ ยังไงฉันก็เป็นแค่แม่เลี้ยง หลายปีมานี้เซิงเซิงไม่ยอมรับฉัน ฉันเข้าใจ"

"ในสายตาของฉัน แม้แต่แม่เลี้ยงคุณก็ไม่คู่ควร"

"เจียงเซิง!" เจียงเซิ่นตำหนิด้วยความโกรธ "วันนี้ฉันเรียกแกกลับมากินข้าว ไม่ใช่เรียกแกกลับมาอวดดี ถ้าแกไม่พอใจ ก็ออกไปซะ!"

เจียงเซิงจ้องมองผู้เป็นพ่อที่เต็มไปด้วยความโกรธ

เมื่อหกปีก่อนที่เขาไล่เธอออกไป ก็ไร้เยื่อใยแบบนี้เช่นกัน ไม่ว่าเซียวหลานและเจียงเวยพูดอะไรเขาก็เลือกที่จะเชื่อซะหมด

แต่ในทางกลับกัน เธอกลับไร้เหตุผลที่ไม่เคารพผู้ใหญ่แบบนี้

เจียงเซิงหัวเราะ "ฉันไม่ได้อยากอยู่เลยแม้แต่วินาทีเดียว"

เธอหมุนตัวคิดที่จะออกไป ทว่าด้านนอกประตู เจียงเวยก็ได้ควงแขนของซือเย่เจ๋วและเดินเข้ามาพอดี

เมื่อเซียวหลานและเจียงเซิ่นเห็นซือเย่เจ๋ว ทั้งคู่ก็เดินตรงไปหาพวกเขา ความโกรธบนใบหน้าของเจียงเซิ่นหายอย่างสิ้นเชิง ราวกับเป็นคนละคนกับเมื่อครู่ที่ผ่านมา

“สวัสดีครับท่านซือ ไม่คิดว่าท่านจะมาด้วย”

"อืม" ซือเย่เจ๋วพยักหน้ารับอย่างขอไปที ทันใดนั้นสายตาของเขาก็ตกไปที่เจียงเซิง กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย "วันนี้ตระกูลเจียงคึกคักจริงๆ"

เจียงเซิ่นเหลือบมองไปยังเจียงเซิง พูดอย่างเขินอายเล็กน้อย"เอ่อ นี่คือลูกสาวคนเล็กของผมครับ เจียงเซิง"

“อืม ผมเองก็เพิ่งรู้ แท้จริงแล้วโซราที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติก็คือคุณหนูแห่งตระกูลเจียงนี่เอง"

เจียงเซิ่นส่งรอยยิ้ม "ใช่แล้วครับ เอ่อ...ก็ได้พรสวรรค์ที่สืบทอดมาจากแม่ของเธอนั่นแหละครับ"

เจียงเซิงกอดอกยืนอยู่ข้างๆ จ้องมองพวกเขาทักทายกันราวกับคนนอก เยินยอซือเย่เจ๋ว อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

“ฉันไม่รบกวนงานเลี้ยงอาหารค่ำของพวกคุณดีกว่า”

ขณะที่เธอกำลังจะจากไป เจียงเวยเข้ามาขวางเอาไว้ "เซิงเซิง อุตส่าห์กลับมาทั้งที ทานข้าวด้วยกันก่อนสิ

เซียวหลานเองก็ช่วยโน้มน้าวอีกแรง ราวกับแม่ผู้มีเมตตา"นั่นสิ เซิงเซิง เธออย่าโกรธคุณพ่ออีกเลยนะ"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานของสามโอรสแห่งสวรรค์พาตัวกลับบ้าน