ณ สนามบินของเมืองหลวง
ทันทีที่แม่ลูกคู่หนึ่งได้ก้าวออกจากประตูที่เต็มไปด้วยผู้โดยสารพลุกพล่านนั้น พวกเขาก็สามารถดึงดูดความสนใจของผู้คนได้เป็นอย่างมาก
พูดให้ถูกก็คือ แม่คนหนึ่งที่พาลูกหน้าตางดงามสามคนมาด้วยนั่นเอง
หญิงสาวดูเย็นชาและสูงศักดิ์ สวยจนน่าทึ่ง อุ้มเด็กสาวหน้าตาน่ารักน่าชังด้วยมือเดียวไว้ในอ้อมแขน ผมหยิกลอนหนาราวกับตุ๊กตา
โดยมีเด็กชายสองคนที่ลักษณะคล้ายกันและหน้าตางดงามอยู่ข้างๆ ดวงตาสีเหลืองอำพันสว่างไสว ผมสีน้ำตาลเข้ม ผิวขาวราวกับน้ำนม ช่างงดงามราวกับไม่ใช่คนอย่างไรอย่างงั้น!
หญิงสาวที่ยืนอยู่หน้ารถบีเอ็มดับบิวถอดแว่นกันแดดออก เมื่อเห็นเจียงเซิงอุ้มเด็กน้อยคนหนึ่งไว้ในอ้อมแขนและอีกสองคนเดินตามหลังมา เธอก็สูดหายใจเข้าอย่างเต็มแรง
"ให้ตายเถอะ เซิงเซิง อุ้มท้องครั้งเดียวได้สามคนเลยเหรอ?"
เธอตกตะลึง!
คลอดตั้งสามคนออกมาก็นับว่าเก่งแล้ว แต่ที่สำคัญก็คือเจ้าตัวน้อยทั้งสามยังหน้าตาดีขั้นเทพตั้งแต่อายุยังน้อยอีกต่างหาก
เธออดไม่ได้ที่จะสงสัยว่า ในตอนนั้นเจียงเซิงไปนอนกับเทพเจ้าองค์ไหนมากันแน่!
เจียงเซิงวางเด็กน้อยในอ้อมแขนลง ลูบหัวเล็กๆของพวกเขาทั้งสาม "นี่คือแม่บุญธรรมของพวกหนูนะ เซียวเถียนเถียน"
เซียวเถียนเถียนเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเจียงเซิง หลังจากที่เธอถูกไล่ออกจากตระกูลเจียงในตอนนั้น เธอก็ไปต่างประเทศ โดยในช่วงเวลานั้นเซียวเถียนเถียนก็อยู่เป็นเพื่อนเธอที่ต่างประเทศด้วย
ไปอยู่ต่างประเทศได้ไม่นานเธอก็พบว่าตัวเธอตั้งท้องขึ้นมาเสียแล้ว เธอเคยคิดที่จะทำแท้ง และก็เป็นเซียวเถียนเถียนที่พูดเกลี้ยกล่อมเธอ เธอถึงได้ตัดสินใจที่จะคลอดเด็กๆออกมา
เพื่อให้เธอได้ดูแลครรภ์อย่างสบายใจ และมีชีวิตที่สะดวกสบาย หญิงสาวที่‘เอาแต่ใจ’ผู้นี้จึงจำนำของโบราณมูลค่าหกล้านของพ่อเธอที่เก็บสะสมมาเพื่อแลกเป็นเงินมาให้กับเจียงเซิง
และถ้าในตอนนั้นไม่มีเซียวเถียนเถียนแล้วละก็ เธอที่โดนขับไล่ออกจากตระกูลเจียงและถูกระงับบัตรเครดิตนั้น น่ากลัวว่าคงต้องไปนอนข้างถนนเสียแล้ว
"สวัสดีค่ะคุณแม่บุญธรรมเถียนเถียน!"
เด็กน้อยทั้งสามก้มตัวลงคนละทีสองที และกล่าวด้วยเสียงแหลมเล็กที่น่ารักออกมา
เซียวเถียนเถียนแทบอดไม่ได้เพราะความน่ารักนี้ เธอยิ้มๆและโบกมือให้ "โอ๊ย เด็กๆสุภาพกันจังเลย~"
เจียงเฉินเฉินเด็กน้อยคนที่สองหันไปหาเจียงเหยียนเหยียนพี่ชายคนโต พร้อมพึมพำออกมาว่า "แม่บุญธรรมของเราคนนี้ดูบื้อมากเลยนะ~"
เจียงเซิงจับหัวเล็กๆของพวกเขาด้วยมือซ้ายและขวา "กระซิบอะไรกัน?"
"เอ่อ..."
และเจียงหนวนหนวนน้องคนสุดท้องก็ได้เปิดเผยอย่างไม่เกรงใจออกมาว่า "พี่ใหญ่กับพี่รองบอกว่าแม่บุญธรรมดูบื้อมากเลยค่ะ!"
เด็กน้อยสองคน "..."
เป็นน้องสาวแท้ๆอย่างไม่ต้องสงสัย
เซียวเถียนเถียนที่ขับรถอยู่ มองไปยังเด็กน้อยทั้งสามที่นอนติดกันอยู่ที่เบาะหลัง แล้วถามขึ้นมาว่า
"เซิงเซิง ทำไมแกถึงตัดสินใจกลับประเทศตอนนี้ล่ะ?"
เจียงเซิงที่กำลังพิงกับหน้าต่างรถใช้ปลายนิ้วม้วนผมของตัวเองเล่น ยิ้มเยาะพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า “ไวน์เนอร์ จิวเวลรี่เสนอเงินห้าสิบล้านให้ฉันลาออกมาแล้วมาทำงานกับเขาในฐานะดีไซเนอร์น่ะ"
"ไวน์เนอร์ จิวเวลรี่ไม่ใช่บริษัทของครอบครัวแกหรือไง?"
เซียวเถียนเถียนเดาะลิ้นพร้อมกับส่ายหัวไปมา "ผู้อำนวยการของไวน์เนอร์ จิวเวลรี่ในตอนนี้คือนังพี่สาวเจียงเวยจอมแอ๊บนั่นนะ นางยอมจ่ายห้าสิบล้านเพื่อเชิญแกกลับมางั้นเหรอ?"
เมื่อพูดจบเธอก็หัวเราะออกมา "ถ้าเธอรู้ว่าแกคือโซราดีไซเนอร์เครื่องประดับระดับนานาชาติที่มีชื่อเสียงในประเทศ S แล้วละก็ เธอจะไม่กระอักเลือดเลยเหรอ?"
โซราเป็นที่ฮือฮาในอุตสาหกรรมจิวเวลรี่ที่ต่างประเทศ โดยผสมผสานงานฝีมือย้อนยุคสไตล์จีนเข้ากับจิวเวลรี่สมัยใหม่ ชิ้นงานดีไซน์แต่ละชิ้นเรียกได้ว่าเป็น "ผลงานขั้นเทพ"เลยทีเดียว
แม้แต่'มงกุฎ'ที่เจ้าหญิงประเทศS ได้สวมใส่ในพิธีอภิเษกสมรสเมื่อปีที่แล้วก็ยังมาจากผลงานการออกแบบของโซราด้วยเช่นกัน
เซียวเถียนเถียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง รู้สึกว่ามันไม่สมเหตุสมผล "จ่ายแค่ห้าสิบล้านแกก็กลับมาแล้วงั้นเหรอ? มูลค่าระดับแกแค่ห้าสิบล้านถูกไปสำหรับพวกเขาหรือเปล่า?"
เป็นที่รู้จักกันโดยทั่วว่าบริษัทจิวเวลรี่ชื่อดังอย่าง"ลักชัวรี่"ในประเทศSซื้อตัวเธอด้วยข้อเสนอมูลค่าหกร้อยล้านเลยทีเดียว!
เจียงเซิงหันไปมองเธอ และยิ้มอย่างมีเลศนัย "ฉันก็เลยปฏิเสธไปไง แต่ต่อมาพวกเขาก็เสนอหนึ่งพันล้านให้กับฉัน ตระกูลเจียงเสนอให้ฉันหนึ่งพันล้านเลยนะ แล้วฉันจะไม่กลับมาได้ยังไง?"
ในเมื่อกลับมาแล้ว เธอก็จะต้องเอาหุ้นของไวน์เนอร์ จิวเวลรี่กลับมาให้ได้!
เซียวเถียนเถียนสูดหายใจเข้าลึกๆ คนในครอบครัวโกงกันเอง เจ๋ง!
พนักงานต้อนรับหญิงเหลือบมองเธอ "ถ้าคุณไม่ได้นัดเอาไว้ ต้องขอโทษด้วยนะคะ ผู้อำนวยการเจียงของเรายุ่งมากค่ะ"
เจียงเซิงยิ้มเล็กน้อย "ไวน์เนอร์ จิวเวลรี่บริการแบบนี้กันหมดเลยเหรอคะ?"
"นี่คุณผู้หญิง คุณหมายความว่ายังไงคะ ไม่เห็นหรือว่าเรายุ่งมาก? คุณคิดว่าผู้อำนวยการของเราเป็นคนที่คุณอยากจะเข้าพบก็เข้าพบได้งั้นเหรอคะ?"
"เฮ้ ฉันก็นึกว่าใครซะอีก ไม่คิดเลยว่าจะเป็นแก เจียงเซิง แกยังกล้ากลับมาอีกเหรอ?"
เจียงเวยเดินออกจากลิฟต์ บังเอิญเห็นเงาร่างที่คุ้นเคยที่แผนกต้อนรับ ไม่คิดเลยว่าจะเป็นเจียงเซิงนี่เอง!
นังตัวดีนี่กลับมาแล้ว!
เจียงเซิงหันกลับไปอย่างช้าๆ ใบหน้าของเจียงเวยหม่นหมองลงเมื่อเห็นรูปร่างหน้าตาของเจียงเซิงอีกครั้ง ไม่ได้เจอแค่หกปีการเปลี่ยนแปลงของนังนี่เยอะจริงๆ เหมือนกับจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ไม่มีผิด!
"ก็แกเองที่เป็นคนเชิญฉันกลับมาไม่ใช่เหรอ?" เจียงเซิงหัวเราะเบาๆ
เจียงเวยชะงัก บนใบหน้าเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง "ฉันเชิญแกกลับมา? ไม่ได้เจอกันหกปีทำไมแกถึงได้หน้าด้านขนาดนี้?"
เธอกอดอกและเดินไปหาเจียงเซิง "ทำไม บทเรียนเมื่อหกปีที่แล้วยังไม่มากพอเหรอไง?"
เมื่อพูดถึงเรื่องเมื่อหกปีที่แล้ว ดวงตาของเจียงเซิงเย็นชาลงเล็กน้อย และไร้อากัปกิริยาใดๆบนใบหน้า "ขอแสดงความยินดีด้วยนะ ที่เธอได้เป็นผู้อำนวยการของบริษัทไวน์เนอร์ จิวเวลรี่ ภายใต้การบริหารของแก ไวน์เนอร์ จิวเวลรี่แย่ลงเรื่อยๆ อย่าปล่อยให้ปิดตัวลงซะก่อนล่ะ"
"แก..."
เจียงเวยยกมือขึ้นตบเธอไปหนึ่งฉาด
โดยที่เสียงฝ่ามือกระทบกับใบหน้านี้ทำให้ทุกคนในห้องโถงต่างก็ตะลึงงัน
"เกิดอะไรขึ้น?"
เสียงทุ้มที่เย็นชาดังขึ้น
ใบหน้าของเจียงเวยเปลี่ยนไปเมื่อเธอเห็นเขา และความเย่อหยิ่งเมื่อครู่บนใบหน้าของเธอก็หายไปอย่างสิ้นเชิง จากนั้นเธอก็เดินไปหาชายคนนั้นอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ
"เย่เจ๋ว นังคนนี้ค่ะ เธอดูถูกฉัน แถมสาปแช่งบริษัทของฉันให้ล้มละลายด้วย"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานของสามโอรสแห่งสวรรค์พาตัวกลับบ้าน
แอดดดดด....กลับมาลงต่อหน่อยจ้าาาา🤣🤣🤣🤣...
โอ้ยยอยากอ่านต่อทำไมเทกันแล้วละ...
กลับมาลงต่อให้ด้วยนะคะ..อย่าเทกันกลางทางนะคะแอด😁😁...
สู้เพื่อลูกสักครั้งนะพ่อ...
เดาไว้แล้วว่า ต้องมีคนทำลายผลดีเอ็นเอแล้วก็เปลี่ยน แต่ไม่คิดว่าจะเป็นฝ่ายนางเอกทำเอง5555...
หวังว่าพระเอกจะไม่ตกม้าตายเหมือนเรื่งอื่นๆนะ...