ทะเลทรายสีน้ำผึ้ง นิยาย บท 11

“พี่อินว่าคุณจามาลน่ารักหรือเปล่าคะ” นพมาศหันมาถามความคิดเห็นของหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างๆ

“ในความคิดของพี่เขาเหมือนพวกซาตานมากกว่าเทพบุตรนะ” หญิงสาวบอก

“พี่คงเคืองเขาล่ะซิที่เขาคุยกับมาศดีๆไม่เหมือนกับที่คุยกับพี่ พี่ก็เลยอคติกับเขา” มณีอินหันไปมองหญิงสาวตาเขียว นพมาศยักไหล่อย่างไม่สนใจและนั่งลงที่เก้าอี้ใต้ต้นไม้ใหญ่หน้าตึก

“ขอโทษด้วยนะครับที่มาสาย” มนัสกล่าวขอโทษสองสาวเมื่อจอดรถเทียบหน้าตึกเรียบร้อยแล้ว

“ไม่เป็นไรค่ะ เราไปกันเลยดีกว่านะคะจะได้เสร็จเร็วๆจะได้รีบกลับ” นพมาศบอกและก้าวขึ้นไปนั่งก่อน ตามด้วยมณีอินและชายหนุ่มประจำหน้าที่คนขับ

“วันนี้เราจะๆปที่ไหนกันดีคะ” มณีอินถามขึ้นหลังจากนั่งมาได้สักพัก

“โรงงานผลิตเส้นใยผ้าของท่านจามาลครับ”ชายหนุ่มบอก

“แล้วคุณจามาลอยู่ที่นั่นหรือเปล่าคะ” นพมาศถามอย่างตื่นเต้น

“อยู่ครับ เห็นท่านบอกว่าวันนี้จะเข้าไปดูโรงงานพอดี” นพมาศยิ้มอย่างดีใจที่จะได้เจอกับชายหนุ่มผิกกับอีกคนที่นั่งเงียบไป

“คุณอินทำไมเงียบไปล่ะครับ”ชายหนุ่มถาม

“สงสัยจะไม่ชอบโรงงานมั่งคะ” นพมาศมองหญิงสาวด้วยหางตา

“ค่ะ ฉันไม่ชอบเจ้าของโรงงาน” ชายหนุ่มรีบหุบยิ้มลงเพราะคิดว่าหญิงสาวอารมณ์ไม่ดี รถแล่นมาได้สักชั่วโมงก็มาถึงโรงงานเส้นใย บริเวณโรงงานมีเนื้อที่ราวๆ 100 ไร่เห็นจะได้ตามการคาดคะเนของหญิงสาว ทั้งบริเวณสะอาดตามีต้นไม้ใหญ่ปลูกไว้โดยรอบ

“คนงานที่นี่มีกี่คนกันคะ” นพมาศถาม

“เกือบๆ 200 คนครับแต่ส่วนมากเป็นพวกลูกหลานของคนยากคนจนที่ไม่มีงานทำคุณจามาลจึงได้จ้างมาทำงานที่นี่เพื่อจะได้ไม่ต้องเดินทางไปทำงานไกลๆและทิ้งพ่อแม่ไว้ที่บ้าน”

“คุณจามาลนี่ใจดีจริงๆเลย”

“ทำดีบังหน้าหรือเปล่าก็ไม่รู้” มณีอินพูดขึ้นลอยๆ

“ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ ไม่ว่าใครเดือดร้อนมาคุณจามาลก็จะยื่นมือเข้าไปช่วยเสมอทั้งที่รู้จักและไม่รู้จักนิสัยเหมือนกับคุณอินไม่มีผิด” ชายหนุ่มบอกและทำให้นพมาศมองค้อนชายหนุ่ม

“นั้นไงครับคุณจามาลมาถึงพอดีเลย” ชายหนุ่มชี้มือไปทางหน้าตึกของอาคารผู้บริหารและขับรถเข้าไปจอดเทียบข้างๆ ชายหนุ่มหยุดยืนมองสองสาวที่ก้างลงจากรถ ส่วนมนัสเอารถไปจอดที่ลานจอดรถ

“เชิญครับคุณผู้หญิง” ชายหนุ่มกล่าวเชิญทั้งสองสาว นพมาศเดินยิ้มขึ้นไปเกาะแขนชายหนุ่มอย่างถือวิสาสะ มณีอินมองอย่างระอาใจ สาวๆสมัยนี้ใจกล้าจริงไม่แค่สายตาของคนรอบข้างแม้แต่น้อย มณีอินยืนรอมนัสอยู่ที่เดิมพอชายหนุ่มเดินมาถึงจึงได้เดินตามเจ้าของโรงงานขึ้นไปบนอาคาร

“คุณอินจะสัมภาษณ์คุณจามาลด้วยหรือเปล่าครับ” ชายหนุ่มถาม

“ฉันมอบหมายให้เป็นหน้าที่ของนพมาศเขานะคะ ส่วนอินจะขอให้คุณพาชมรอบๆโรงงานได้ไหมคะ” หญิงสาวถาม

“ผมต้องไปขออนุญาตคุณจามาลก่อนนะครับ” ชายหนุ่มบอก

“ฉันนั่งรออยู่ที่ด้านนอกดีกว่านะคะไม่อยากเข้าไปข้างใน” หญิงสาวบอกและเดินไปนั่งรอชายหนุ่มที่โซฟารับแขก

เธอหยิบหนังสือที่วางไว้บนโต๊ะขึ้นมาอ่านมีรูปของชายหนุ่มและสาวสวยตากลมโตอีกคนหนึ่งโพสอยู่ที่หน้าแรกแต่ไม่มีคำบรรยายใดเขียนเอาไว้ หญิงสาวสนใจหนังสือตรงหน้ามากจึงไม่ทันเห็นว่ามีคนยืนมองเธออยู่

ฮาติมจ้องมองหญิงสาวที่นั่งอ่านหนังสือด้วยความสนใจ เขามองสำรวจหญิงสาวอย่างคราวๆ ผมยาวถึงหลังใบหน้าเนียนขาวจมูกโด่งเป็นสัน ดวงตากลมโตรูปร่างเพรียวบางแต่มีน้ำมีนวลแบบที่ใครเห็นก็ต้องหยุดมองโดยเฉพาะผู้ชายที่ชอบผู้หญิงสวยๆ อย่างเขา ชายหนุ่มเดินเข้าไปหามณีอิน หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมามองชายหนุ่มในสูทสีน้ำเงินเข้ม ไว้หนวดเล็กน้อยพองามตามแบบฉบับของชาวอาหรับ

“ขอโทษนะครับคุณผู้หญิงมารอพบใครหรือครับ” ฮาติมเอ่ยถามและโค้งศีรษะให้เล็กน้อย มณีอินยืนขึ้นและยิ้มให้ตามมารยาท

“มารอคุณมนัสนะคะพอดีเขาเข้าไปพบคุณจามาลฉันก็เลยมานั่งรอที่นี่”

“ผมชื่อฮาติมครับ เป็นรองประธานที่นี่ครับ” ชายหนุ่มยื่นมือออกมาและหญิงสาวก็ยื่นมือออกมาจับมือกันตามมารยาทสากล

“มนัสครับ” ชายหนุ่มยกขึ้นมาและกรอกเสียงลงไป

“ครับ” ชายหนุ่มรับคำและกดวางสายก่อนจะหันมาบอกกับหญิงสาว

“คุณจามาลโทรมาครับบอกให้ผมพาคุณขึ้นไปทานอาหารได้แล้วครับ”

“คุณขึ้นไปเถอะฉันว่าจะไปกินกับพวกพนักงานดีกว่าได้บรรยากาศกว่ากันเยอะเลย” หญิงสาวบอกก่อนที่จะเดินนำหน้าเขาไป มนัสจะร้องห้ามก็ไม่ทันทำไมต้องเป็นเขาด้วยนะที่ต้องมาปวดหัวแบบนี้ ชายหนุ่มกดโทรศัพท์กลับไปหาเจ้านายของตนเองและบอกตามที่หญิงสาวพูด ซึ่งเขารับรู้ได้ทันทีว่าอารมณ์จะเป็นเช่นไร

จามาลวางโทรศัพท์ลงใบหน้าบึ้งตึง นพมาศจึงเอ่ยถามด้วยเสียงอันเบา

“พี่อินว่าไงบ้างคะ”

“เพื่อนร่วมงานของคุณไม่ขึ้นมาทานกับเรา เชิญคุณมาศที่ห้องอาหารดีกว่าครับ” ชายหนุ่มลุกขึ้นเดินนำหญิงสาวไปที่ห้อง นพมาศไม่กล้าถามอะไรต่ออีกเดินตามเขาไปเงียบๆ

“กาซิมฉันว่าพายุกำลังก่อตัวอยู่นะ” นาธาลกระซิบคุยกับเพื่อนที่ยืนข้างๆ

“ก็นั่นนะซิไม่รู้ว่าจะพัดถล่มเมื่อไร” กาซิมกระซิบตอบเพื่อน

“คนที่โดนเต็มๆคงไม่ใช่ใครอื่นนอกจากคุณมณีอิน” ทั้งสองพยักหน้าอย่างเห็นเช่นเดียวกัน

มณีอินได้รู้จักกับสาวน้อยคนหนึ่งซึ่งเธอเข้ามาทักหญิงสาวก่อน และบอกกับมณีอินว่าเธอเป็นลูกสาวคนโตของพ่อค้าที่ขายผ้าให้กับนักท่องเที่ยวที่หญิงสาวเข้าไปช่วยพูดให้หนุ่มฝรั่งสองคนซื้อผ้าของร้านเธอไปตั้งเยอะ “คุณชื่อมณีอินหรือคะ”มนัสช่วยแปลภาษาให้กับเธออีกทีหนึ่ง

“จ้ะแล้วเธอล่ะ”

“คียาค่ะ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะเลทรายสีน้ำผึ้ง