เหลิ่งชิงหลางอาศัยอยู่ในตำหนักเจียนเจียด้วยความรู้สึกไม่สบายใจมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอได้ยินว่าพระสนมฮุ่ยเฟยออกจากวังไปยังจวนอ๋องฉี
มู่หรงฉีตักเตือนนางอยู่หลายครั้งว่าอย่าสร้างปัญหาให้กับเหลิ่งชิงฮวนอีก หากพระสนมฮุ่ยเฟย และจิ่นอวี๋สร้างปัญหาอีกครั้ง มู่หรงฉีอาจเกลียดนางเข้ากระดูกทำให้ยากที่จะแก้ตัว
เดิมทีนางตกลงกับจิ่นอวี๋ว่าทั้งสองจะร่วมมือกันจัดการเหลิ่งชิงฮวน ทว่าจิ่นอวี๋กลับเล่นอุบายลับหลังโดยไม่คาดคิด
นางไม่สามารถนิ่งเฉยได้อีกต่อไป สั่งให้แม่จ้าวถือสร้อยข้อมือทองคำไปหาคนรับใช้ในวังของพระสนมฮุ่ยเฟย เพื่อสืบหาสาเหตุที่พระสนมฮุ่ยเฟยออกจากวัง
หลังจากนั้นไม่นาน แม่จ้าวก็กลับมาและเล่าทุกอย่างให้ฟัง
คนรับใช้ในวังคนนี้ไม่ได้รับใช้พระสนมฮุ่ยเฟยเป็นการส่วนตัว ดังนั้นนางจึงไม่รู้อะไรมากนัก แต่สิ่งที่นางเห็นและได้ยินก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เหลิ่งชิงหลางโกรธ
ความตั้งใจของพระสนมฮุ่ยเฟยที่ไปจวนอ๋องฉีนั้นชัดเจนมาก การไปหาเหลิ่งชิงฮวนเพื่อกล่าวโทษเป็นแค่ฉากบังหน้า ทว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงคือแต่งงานเอาจิ่นอวี๋เข้าจวนอ๋องฉี
และสาเหตุของการกล่าวโทษนั้นดูออกได้อย่างชัดเจน!ไม่ว่าจะเป็นใครก็ต้องคิดว่านางเป็นคนไปฟ้อง
ยิ่งคิดเรื่องนี้นางก็ยิ่งโกรธมากขึ้น เมื่อได้ยินว่าจิ่นอวี๋แยกตัวจากพระสนมฮุ่ยเฟยไปที่สวนอวี้ฮวา นางจึงตั้งใจไปหาอีกฝ่ายทันที
จิ่นอวี๋และยายหลิงกำลังนั่งเหม่อลอยอยู่ในสวนอวี้ฮวา ด้วยความศาลาอยู่บนที่สูงจึงทำให้มองเห็นสวนอวี้ฮวาครึ่งหนึ่ง
จิ่นอวี๋หรี่ตายิ้มอย่างเย็นชาพลางหันหน้าไปกระซิบกับยายหลิง “ปลามาแล้ว”
ยายหลิงตอบรับเสียงต่ำ “จวิ้นจู่โปรดระวังด้วยนะเจ้าคะ”
เหลิ่งชิงหลางเดินขึ้นบันไดหินและยืนนิ่งอยู่หน้าจิ่นอวี๋
จิ่นอวี๋เงยหน้าขึ้นจ้องมองนางราวกับว่าอารมณ์ไม่ดีและไม่ต้องการพูดอะไรทั้งนั้น ก่อนจะหันหน้าหนีอีกครั้ง
“เจ้าเป็นคนเผยแพร่ข่าวลือเกี่ยวกับเหลิ่งชิงฮวนใช่หรือไม่” เหลิ่งชิงหลางถามอย่างตรงประเด็น
จิ่นอวี๋ขมวดคิ้วเล็กน้อย “ไม่มีหลักฐาน ข้าคิดว่าเจ้าไม่ควรพูดจาเหลวไหลเช่นนี้”
เหลิ่งชิงหลางยิ้มและพูดต่อว่า “วิธีนี้ช่างร้ายกาจจริงๆ เจ้าให้ผู้คนกระจายข่าวลือไปทุกที่ คนแรกที่ท่านอ๋องสงสัยย่อมเป็นข้า เจ้าได้ทำลายชื่อเสียงของเหลิ่งชิงฮวนและภาพลักษณ์ของข้าในใจของท่านอ๋องด้วย ส่วนเจ้าก็อยู่เฉยๆ คอยรับผลประโยชน์ใช่หรือไม่”
จิ่นอวี๋หัวเสียเต็มทน นางโกรธมากขึ้นเมื่อถูกต้อนเช่นนั้นจึงหมดความอดทน “ท่านอ๋องจะคิดอย่างไรกับท่านนั่นเป็นเรื่องปัญหาในอดีต ไม่อย่างนั้นทำไมท่านอ๋องจึงไม่สงสัยคนอื่น”
คำถามเชิงโวหารนี้ทำให้เหลิ่งชิงหลางโกรธมากยิ่งขึ้น
“ข้าไม่เคยเห็นคนน่ารังเกียจและไร้ยางอายเช่นนี้มาก่อน!ไม่แปลกใจเลยที่ท่านอ๋องไม่ยอมพบหน้าเจ้า ตอนแรกเขาก็แต่งงานกับเหลิ่งชิงฮวนมากกว่าจะแต่งงานกับเจ้า ตอนนี้ต่อให้เจ้าใช้เล่ห์เพทุบายจนหมดแล้วจะมีประโยชน์อะไร พยายามปีนป่ายขึ้นไปอย่างหน้าด้านๆ จนลดคุณค่าในตัวเองไปหมดสิ้น”
จิ่นอวี๋ไม่เคยถูกผู้อื่นเยาะเย้ยถากถางแบบนี้มาก่อน นางลุกขึ้นก่อนจะแสยะยิ้ม
“แล้วเจ้ามีดีตรงไหนกัน ท่านพี่ของข้ามัวแต่ใช้เวลากับเหลิ่งชิงฮวน ส่วนเจ้ามีชีวิตอยู่ในจวนต่างจากวังเย็นอย่างไร เจ้าทำได้เพียงเล่นกลอุบายน่ารังเกียจลับหลัง ข้าน่ะยังสงสัยว่าผู้ที่ลอบสังหารเหลิ่งชิงฮวนในครั้งนี้อาจเป็นเจ้าก็ได้!”
จิ่นอวี๋โพล่งออกมาในช่วงเวลาที่หมดความอดทนอย่างถึงขีดสุด
เหลิ่งชิงหลางจิตใจไม่บริสุทธิ์ เมื่อได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายพูด นางก็รู้สึกกลัวพลางยื่นมือออกไปผลัก “เจ้าพูดจากเหลวไหล!”
เดิมทีเป็นเพียงการผลักเบาๆ โดยไม่ออกแรงมากนัก แต่ใครจะรู้...จิ่นอวี๋ยืนไม่มั่นคงทำให้เซถอยหลังไปสองก้าว ล้มลงนั่งบนเก้าอี้หินยาว นางส่งเสียงกรีดร้อง มือสองข้างไม่สามารถจับได้อย่างมั่นคง ละล้มหัวฟาดพื้นบนศาลาอย่างแรง
หมอหลวงรีบเข้าไปทำแผลให้กับจิ่นอวี๋อย่างเร่งรีบ ทว่าจิ่นอวี๋ยังคงนานไม่ได้สติ พระสนมฮุ่ยเฟยรู้สึกกังวลและรู้สึกไม่พอใจมากยิ่งขึ้นเมื่อเห็นเหลิ่งชิงหลาง นางจึงสั่งให้คนออกจากวังไปแจ้งให้มู่หรงฉีรู
กว่าที่มู่หรงฉีจะกล่อมเหลิ่งชิงฮวนด้วยความยากลำบากอย่างยิ่ง รอคอยให้ค่ำคืนนี้มาถึง คนในวังก็มาที่จวนของเขา
เมื่อได้ยินว่าเหลิ่งชิงหลางสร้างปัญหาในพระราชวังและทำให้จิ่นอวี๋หมดสติ เขาไม่รู้ว่าอาการบาดเจ็บนั้นร้ายแรงหรือไม่ ทั้งสองรีบสั่งให้คนเตรียมรถและเข้าไปในวังด้วยกัน
เหลิ่งชิงหลางกำลังคุกเข่าอยู่นอกห้องโถงตำหนักเจียนเจีย เมื่อนางเห็นมู่หรงฉีกับเหลิ่งชิงฮวน นางก็ก้าวเข้าไปและโต้เถียงอย่างเจ็บปวด “ท่านอ๋องหม่อมฉันไม่ได้ตั้งใจทำอย่างนั้นจริงๆ องค์หญิงจิ่นอวี๋ต่างหากที่พูดจาไร้สาระและยัดเยียดความผิดให้หม่อมฉัน หม่อมฉันโกรธมากจึงผลักนางเบาๆ แต่ใครจะไปรู้ว่านางกลับถอยหลังแล้วล้มลง หม่อมฉันผิดไปแล้วเจ้าค่ะ”
มู่หรงฉีมองไปยังสภาพอันน่าเวทนาน้ำตานองหน้าของนาง โดยไม่ได้รู้สึกสงสารมากนักแต่กลับรู้สึกหงุดหงิดแทน
เขาเดินอ้อมนางที่คุกเข่าอยู่โดยไม่พูดอะไรแล้วเข้าไปในห้องส่วนตัวของจิ่นอวี๋
จิ่นอวี๋ฟื้นแล้ว นางกำลังกอดพระสนมฮุ่ยเฟยพลางร้องไห้ ส่วนหมอหลวงกำลังรออยู่ด้านข้างและก้มหัวลงเงียบๆ
ทั้งเหลิ่งชิงฮวนและมู่หรงฉีหยุดอยู่ที่หน้าประตู นี่เป็นเพียงการทะเลาะกันระหว่างหญิงสาวสองคน ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ทำไมถึงร้องไห้อย่างน่าสังเวชราวกับกำลังจะตายด้วย
มู่หรงฉีกระแอมเบาๆ พระสนมฮุ่ยเฟยหันหน้าหนีพลางเช็ดน้ำตา
“จิ่นอวี๋เป็นอย่างไรบ้าง” มู่หรงฉีถามก่อน
ไม่ถามเสียยังดีกว่า ทันทีที่มู่หรงฉีถาม น้ำตาของพระสนมฮุ่ยเฟยและจิ่นอวี๋ก็พรั่งพรูออกมา ก่อนจะร้องไห้อย่างควบคุมไม่ได้
สิ่งนี้ทำให้มู่หรงฉีและเหลิ่งชิงฮวนมองหน้ากันด้วยลางสังหรณ์ไม่ดีในใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...