ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 317

เหลิงชิ่งฮวนพยักหน้า ไล่คนจากลัทธินักบุญหญิงออกไปได้ทันเวลา และตกลงเรื่องจะกลับจวนท่านอ๋องเพียงสองสามคำ

มู่หรงฉีมองไปรอบสถานที่ที่มีข้าวของระเกะระกะ จิตใจยังคงหวาดกลัวแม้มันจะผ่านไปแล้ว เขากอดนางไว้แน่นมิยอมปล่อย

“กลับไปที่จวนกับข้าเถิด ชิงฮวน ที่นี่มันอันตรายเกินไป”

“ในจวนก็ปลอดภัยงั้นรึ? คนที่อยากทำร้ายหม่อมฉันมิใช่คนในจวนท่านอ๋องหรอกหรือ?”

มู่หรงฉีเม้มริมฝีปาก “ขอเพียงเจ้ายอมกลับไป ข้าจะรีบให้พวกนางออกไปเสีย”

เหลิ่งชิงฮวนค่อยๆ ผละออกจากอ้อมกอดของเขา “ผู้ใดจะออกไปได้อีกนอกจากหม่อมฉัน?”

จิ่นอวี๋เป็นความหายนะ แต่น่าเสียดายที่ฮุ่ยเฟยมิเชื่อเช่นนั้น หากส่งนางกลับวังไปอยู่กับฮุ่ยเฟย ใครจะรู้เล่าว่านางจะเล่นวิธีสกปรกอันใดบ้าง?

เหลิ่งชิงหลางกำลังตั้งครรภ์ จะอยู่หรือไปนั้นมิได้ขึ้นอยู่กับมู่หรงฉีเพียงคนเดียว

ก่อนหน้านี้ จิตใจในการต่อสู้ของตนนั้นห้าวหาญ อยากจะสู้รบปรบมือกับเหลิ่งชิงหลางให้ตายกันไปข้าง แต่ตอนนี้ การทรยศของมู่หรงฉีทำให้นางท้อแท้หมดกำลังใจ และขาดความมุ่งมั่น

สู้กับเหลิ่งชิงหลางแล้วก็ยังมีจิ่นอวี๋ เมื่อจิ่นอวี๋ไป ก็ยังมีคนอื่นๆ อีก ตราบใดที่มู่หรงฉีมิยอมทุ่มเทกับความรักให้มากพอ ตนจะต้องปากหวานก้นเปรี้ยวไปตลอดชีวิตเลยรึ?

แตะต้องมิได้ก็ต้องหลบ แต่ก็หลบมิพ้นอยู่ดี ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณความรักของเจ้าใช่หรือไม่?

นางหันหลังเดินออกไป

“ชิงฮวน!” มู่หรงฉีเรียกนางจากด้านหลัง “ที่นี่มันอันตรายเกินไปจริงๆ เจ้าคิดว่าการหลบซ่อนอยู่ในภูเขาอันเงียบสงบนี่จะเป็นดินแดนในอุดมคติจริงๆ หรือ จะสามารถหลบหนีกลอุบายข้างนอกได้รึ? เจ้ารู้หรือไม่ว่าสองสามวันมานี้ทหารอารักขาขัดขวางการลอบสังหารไปถึงสองครา เจ้าเอาแต่คิดว่ามันปลอดภัยไร้กังวล แต่มันเป็นเพียงความพยายามรักษาภาพนั้นไว้ต่างหาก

ตอนนี้เจ้าเป็นพระชายาฉีผู้สง่างาม แล้วยังมีเลือดเนื้อเชื้อไขของเชื้อพระวงศ์อยู่ในท้อง เจ้าจะไปซ่อนตัวที่ไหนได้? แม้ว่าจะหนีไปไกลสุดขอบฟ้าสิ้นมหาสมุทร เจ้าก็ยังต้องกลับมาเผชิญหน้ากับทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ดี หลบหนีไปมันก็มิมีประโยชน์

เจ้าเป็นภรรยาของข้า ข้าทำผิดข้าก็จะแก้ไข ถ้าโกรธเจ้าก็ลงโทษข้า เจ้าจะทิ้งข้า ทิ้งความรักระหว่างเราไปเช่นนี้มิได้ ได้โปรดให้โอกาสข้าได้พิสูจน์ตนเองอีกครั้งเป็นครั้งสุดท้าย ในใจมู่หรงฉีอย่างข้ามีแต่เหลิ่งชิงฮวนอย่างเจ้าเพียงผู้เดียว ขอฟ้าดินจงเป็นพยาน”

เหลิ่งชิงฮวนมิได้เดินไป นางหยุดฝีเท้าลงตรงนั้น

สิ่งที่มู่หรงฉีพูดล้วนเป็นความจริง มีลูกของเขาอยู่ในท้องของตน แล้วคนที่จ้องเขมือบตนเหล่านั้น จะละทิ้งโอกาสดีๆ เช่นนี้ไปอย่างง่ายดายขนาดนั้นได้เยี่ยงไรกัน?

ตนได้รับการเสวยสุขและความสงบทางจิตใจ เป็นเพราะการวางแผนกลยุทธ์ของมู่หรงฉี และยังมีทหารอารักขาที่หลั่งเลือดต่อสู้ด้วยความห้าวหาญเพื่อปกป้องนาง

การตั้งครรภ์นี้ก็คือรังไหม มิสามารถเผยให้เห็นความเท็จนี้ได้ และในขณะเดียวกัน จะหนีไปจากพันธนาการของรังไหมนี้มิไดด้วย ตนมิสามารถหนีไปไหนได้เลย

ทว่า หากยกโทษให้เขาเช่นนี้จริงๆ แล้วกลับไปที่จวนท่านอ๋องฉี จะไปหัวร้างข้างแตกกับสตรีนางอื่นเพื่อเขาอีกครั้งน่ะรึ?

นางเชื่อว่ามู่หรงฉีรักตนจริง แต่มิรู้ว่ามันจะนานเพียงใด

รักแท้มิใช่ความรักที่ฉาบฉวย และหวือหวาเพียงครู่เดียว แต่จะต้องเป็นความรักที่มิมากเกินไปมิน้อยเกินไป และรักกันได้นานๆ ช่วยเหลือซึ่งกันและกันในยามตกทุกข์ได้ยาก โลกนี้จะมีความรู้สึกที่ทนต่อการจากลากันชั่วนิรันดร์ได้แค่ไหน การขั้นกลางด้วยสายน้ำหมื่นๆ สาย ภูเขาหมื่นๆ ลูก รักษาฮอร์โมนความรู้สึกมิให้มีความปราถนาอีก แต่กลับทนกาลเวลาที่ผ่านไปมิไหว ทรมานกับเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน นางมิมีความรู้สึกปลอดภัยเลยแม้แต่น้อย

มู่หรงฉีชักดาบขึ้นมาแล้วทิ้งมันไป “รับไปเสีย!”

เหลิ่งชิงฮวนหันหน้าไปด้วยความประหลาดใจ ลำไม้ไผ่ถูกโยนมาจากทางประตูตรงหน้าตน นางยกมือขึ้นรับลำไม้ไผ่นั้นเอาไว้ในมือ

มันเป็นลำไม้ไผ่ที่เพิ่งเหลามา และยังมีใบไผ่เหี่ยวเล็กน้อย มันหนาเพียงขนาดนิ้วโป้ง เป็นของคู่สามีภรรยาสะใภ้เฉินที่ปลูกมันเอาไว้แทนความคิดถึง

มู่หรงฉีเดินไปอย่างช้าๆ และมองไปที่นางอย่างจริงจัง “เรื่องนี้ มิว่าจะเหตุผลอันใดก็ตาม ข้าขอโทษเจ้าด้วย ข้าทรยศเจ้าจริง เจ้าเกลียดข้า ตำหนิข้า มิต้องยกโทษให้ข้าก็ได้ หากเจ้าโกรธ เพียงใช้ลำไม้ไผ่นี้เป็นแส้ฝึก ตราบใดที่มันทำให้เจ้าหายโกรธ

ถึงอย่างไร ถ้าเจ้ามิยกโทษให้ข้าวันนี้ ข้าก็จะขอร้องเจ้าวันหน้า ถ้าเจ้าจะมิยกโทษให้ข้าไปตลอดชีวิต ถึงอย่างไรข้าก็จะตามหลอกหลอนเจ้าไปตลอดชีวิตอยู่ดี ชิงฮวน เจ้าหนีมิพ้นหรอก”

เขาดึงผ้าที่คาดเอวออก แล้วหันหลังไปเปิดเสื้อ หันแผ่นหลังที่แข็งแกร่งพร้อมรอยบาดแผลที่มีอยู่ทั่วไปหาเหลิ่งชิงฮวน “ฟาดเลย!”

หุบเขามืดอย่างรวดเร็ว เป็นค่ำคืนที่มืดสลัว แต่เหลิ่งชิงฮวนก็มองเห็นรูปเต่าที่ตนเขียนเอาไว้ที่หลังของเขาภายในชั่วพริบตา สีมันอ่อนกว่ามาก แต่ก็น่าเกลียดกว่าเช่นกัน

นางเคยเสนอมาครั้งแล้วครั้งเล่าว่าช่วยลบรอยเขียนให้เขาได้ แต่เขาก็เอาแต่ปฏิเสธ และบอกว่าหลังของตนมิได้มีไว้ให้ใครดู จะกลัวอันใดกัน? นี่เป็นตราประทับพิเศษของเหลิ่งชิงฮวนอย่างนางเลยเชียว มิมีใครสามารถแตะต้องได้

นางกำลำไม้ไผ่แน่น

ถ้ามิใช่เพราะความรักที่ลึกซึ้ง จะมีชายคนใดยอมทำเช่นนี้บ้าง? แต่เพราะเป็นความรักที่ลึกซึ้ง เขาจะแต่งงานใหม่กับตนได้เยี่ยงไรในเมื่อเขามีลูกกับหญิงอื่น?

ข้าน้อยยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อนะขอรับ

ในที่สุดทหารอารักขาก็ทนมิไหว มือสั่นเทิ่ม ลำไม้ไผ่ร่วงหล่นลงบนพื้น และเขาก็คุกเข่าลงบนพื้นเช่นกัน “ท่านอ๋องยกโทษให้ข้าด้วย ข้าน้อยทำมิได้จริงๆ !”

“มิได้เรื่อง!” มู่หรงฉีพูดขึ้นมาด้วยความโมโห “ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้!”

“มู่หรงฉี” เหลิ่งชิงฮวนพูดด้วยเสียงสั่นเครือ “เหตุใดจะต้องทำถึงเพียงนี้ด้วย?”

ดวงตาของมู่หรงฉีมองไปยังค่ำคืนที่มืดมิดในระยะไกลและขบฟันแน่น พูดออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ “สมควรแล้ว เจ้าเสียใจ ในของข้าก็ทุกข์ใจเช่นกัน ทุกข์กายก็ยังดีกว่าทุกข์ใจ”

ร่างกายมิได้เจ็บปวด แต่ร่างกายมันชาต่างหาก!

เหลิ่งชิงฮวนกัดฟันอย่างแรง “ถ้าเช่นนั้นท่านเฆี่ยนต่อไปเถิด เฆี่ยนแล้วดูว่าใครจะเจ็บปวดรึ?! อย่าแบกหน้ามาให้หม่อมฉันปรนนิบัติรับใช้ก็แล้วกัน!”

พูดจบก็กลับไปที่หมู่บ้านโดยมิหันมามองเขาอีกเลย

มู่หรงฉีตัวแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น และเงียบไปครู่หนึ่ง

ทหารอารักขายังคงคุกเข่าอยู่บนพื้น กลัวจนตัวสั่นงันงก “ท่าน ท่านอ๋อง เหมือนพระชายาจะบอกว่านางรักท่านมาก ถ้าอย่างนั้นมิเฆี่ยนแล้วนะขอรับ?”

“เจ้าเอาหูข้างไหนฟังว่านางบอกว่ารักข้ามาก?”

“ผู้หญิงมักจะพูดในสิ่งที่ตรงข้ามกัน หากนางพูดว่ามิได้รัก ก็แปลว่ารัก หากนางพูดว่ามิยอมปรนนิบัติ นั่นก็คือการบอกให้ท่านรีบกลับไป นางอยากจะรักษาแผลของท่านให้!”

มู่หรงฉีเชื่อครึ่งมิเชื่อครึ่ง “ใครบอกเจ้า?”

“ครอบครัวของข้าน้อยมีลูกสามคนแล้วขอรับ”

มู่หรงฉีมีความสุขและตื่นเต้นดีใจขึ้นมาภายในชั่วพริบตา เขาสวมเสื้อผ้ากลับดังเดิม ก่อนจะแยกเขี้ยวยิงฟันแล้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆ

ทหารอารักขาที่คุกเข่าอยู่บนพื้นรู้สึกตึงเครียดขึ้นมาชั่วขณะ เมื่อครู่นี้ตนตีหนักเกินไปหรือเปล่า? กลยุทธ์ทุกข์กายของท่านอ๋องจบแล้ว พระชายาหายโกรธแล้ว หลังจากนี้จะถีบหัวส่งข้าหรือไม่?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา