ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 367

ฮ่องเต้ก็มิเข้าใจเช่นกัน ทว่าเขาก็แสร้งทำเป็นเข้าใจและพยายามอย่างหนักที่จะสงบสติอารมณ์เอาไว้ มิให้ผู้ใดเห็นถึงความวิตกกังวลของเขา

“เอาใจเขามาใส่ใจเราบ้าง พระชายาฉีแห่งเมืองฉางอันของข้าเป็นผู้เชี่ยวชาญในการล้างพิษ แน่นอนว่านางมีวิธีกำจัดพิษแบบฉพาะของนางเองอยู่แล้ว”

เหลิ่งชิงฮวนรู้สึกขอบคุณฮ่องเต้มากสำหรับความมั่นใจในทักษะทางการแพทย์ของนาง แน่นอนว่านางมีวิธีของนางเอง แต่วิธีนี้ค่อนข้างยากที่จะเอ่ยปากเสียหน่อย ซึ่งมิได้เกี่ยวกับการกำจัดพิษ แต่เป็นการคลายกังวลเสียมากกว่า

เนื่องจากองค์ชายแห่งมั่วเป่ยท่านนี้ถูกหมอหลวงให้ยาตลอดเวลา มิรู้เลยว่าให้ไปกี่ถ้วยแล้ว แต่หลังจากที่สลบไสลไป ก็มิมีการขับถ่ายใดๆ และตอนนี้ กระเพาะปัสสาวะที่อยู่ตรงท้องน้อยก็สูงโป่ง ยากที่กดลงไป หากยังมัวโอ้เอ้อยู่เยี่ยงนี้ เกรงว่าจะเป็นผู้มีชีวิตคนแรกที่ถูกปัสสาวะขัดอากาศหายใจตายได้

การรับมือกับวิธีนี้นั้นง่ายมาก มันเป็นเพียงแค่ของกล้วยๆ สำหรับนาง ทว่าในยุคสมัยนี้ โอกาสนี้กลับเป็นสิ่งที่น่าตกใจ

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทูตแห่งมั่วเป่ยท่านนี้เอาแต่จ้องมองทุกการเคลื่อนไหวของนางอย่างมิวางตา ราวกับกลัวว่านางจะเอารัดเอาเปรียบองค์ชายของเขา แน่นอนว่าเขาจะมิยอมให้เป็นเยี่ยงนั้นได้ หากนางต้องปลดกระดุมกางเกงขององค์ชายต่อหน้าเขา เฮ้อ เขาคงคิดว่านางกำลังใช้ประโยชน์จากอันตรายของผู้อื่น แอบวางแผนคิดร้ายกับองค์ชายของเขาอย่างแน่นอน

อีกอย่างฮ่องเต้ หากเขารู้ว่านางเป็นเช่นนี้ โหดเหี้ยม ผิดศีลธรรม ก็จะทำให้มู่หรงฉีหย่าขาดกับนางอย่างแน่นอน

เพียงเพื่อชายที่ไม่แม้แต่จะรู้จัก มันมิคุ้มค่าเท่าไหร่นักหรอก

ลองคิดดูแล้วก็น่าเศร้าใจมิใช่น้อย

นางหันหน้ามาพร้อมกระแอมไอเบาๆ “เอาเยี่ยงนี้ ใบสั่งยาที่หมอหลวงเขียนไว้นั้นค่อนข้างตรงกับอาการ พิษขององค์ชายอันต๋าอยู่ในการควบคุมชั่วคราว ยังมิต้องรีบร้อน แต่ว่า เขาจะต้องถ่ายปัสสาวะออก มิเช่นนั้น จะอั้นสิ่งมิดีเอาไว้”

หมอหลวงพูดอึกอัก “เมื่อครู่กระหม่อมใช้วิธีนวดและฝังเข็มเพื่อกระตุ้นให้องค์ชายน้อยฉี่แล้ว แต่ก็ยังมิเป็นผล กระหม่อมส่งคนให้ไปหาท่อฟางเผื่อในยามฉุกเฉินแล้ว”

ท่อฟางถ่ายปัสสาวะงั้นรึ?

อะแฮ่ม มิกลัวว่าคนป่วยตื่นตัวที่นี่รึ? ทว่าในสมัยโบราณเทคโนโลยีทางการแพทย์ยังมิพัฒนา นี่คงจะเป็นทางเลือกสุดท้ายแล้ว ก่อนหน้านี้ได้ยินมาว่าตอนที่ชำระล้างให้ขันทีน้อยในวังก็ใช้ท่อฟาง ดูเหมือนว่าข่าวลือจะเป็นจริง

ทว่าในเมื่อหมอหลวงใช้ท่อฟางได้ การเดินสายปัสสาวะคงมิใช่เรื่องยากเช่นกัน

“ท่อฟางก็ได้ ข้ามีวิธีการเดินสายปัสสาวะ สามารถชี้แนะให้ท่านทำได้ แต่ว่าทุกคนคงมิอยากรับชมใช่หรือไม่?”

ฮ่องเต้มองไปที่นางอย่างสุดจะพรรณนา ก่อนจะกำหมัดแน่น และกระแอมไอเบาๆ “ทั้งหมดถอยออกไป”

นอกจากหมอหลวง ทูต และฮ่องเต้แล้ว คนอื่นๆ ทั้งหมดก็ต่างถอยออกไปอย่างพร้อมเพรียงกัน

ฮ่องเต้หันหลังมิขยับฝีเท้า เห็นได้ชัดว่ากังวลเกี่ยวกับสะใภ้ของเขา และช่วยมู่หรงฉีกำกับดูแลอยู่ที่นี่

แต่ทูตแห่งมั่วเป่ยมิได้ห้ามปรามเขาไว้ในครานี้ เฝ้าอยู่ใกล้เตียงขององค์ชายอันต๋ามิได้ห่าง ดวงตาที่ลึกล้ำเปล่งประกายคู่หนึ่งมองไปที่เหลิ่งชิงฮวน และจับจ้องไปที่มือทั้งสองข้างของนาง

เหลิ่งชิงฮวนมักจะรู้สึกอยู่เสมอว่าการจ้องมองของเขาดูจริงจัง และแฝงไปด้วยความพินิจพิเคราะห์

เนื่องจากข่าวลือในวังยังคงมิได้สลายหายไปทั้งหมด พักนี้ก็ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ กล่องอาหารก็ถูกวางไว้ใกล้ๆ ตนตลอด มิกล้ายืมมือผู้อื่น

เมื่อรับยาแล้ว นางก็หมุนตัวหลบเลี่ยงทูตท่านนั้นกับหมอหลวง แล้วเปิดกล่องอาหาร หยิบของใช้ออกมาก่อนจะส่งมีดโกนให้หมอหลวง “ผิวหนัง”

หมอหลวงสับสนเล็กน้อย “ผิวหนังกระไร?”

เป็นมืออาชีพเกินไป เหลิ่งชิงฮวนจึงเปลี่ยนคำพูด “โกนขนบนร่างกายที่เกะกะออกให้สะอาด”

หมอหลวงกระแอมไอสำลักน้ำลายอยู่ครู่หนึ่ง ทูตก็ยิ่งทำหน้าตาบึ้งตึงด้วยความโกรธ “นี่มันมีเหตุผลที่ไหนกัน เห็นได้ชัดว่าพวกคนฉางอันกำลังจงใจทำให้มั่วเป่ยของข้าต้องอับอาย!”

เหลิ่งชิงฮวนทำเพียงช้อนตาขึ้นมาเบาๆ “นี่เป็นเพียงการป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรีย เช่นเดียวกับการโกนหนวดเครานั่นแหละ โกนแล้วก็ยังยาวขึ้นมาใหม่ได้ ถึงกับต้องเอะอะโวยวายขึ้นมาเลยรึ?”

“นี่มันเกี่ยวข้องกับศักดิ์ศรีของชายแห่งมั่วเป่ยเรา! เป็นสัญลักษณ์ของชายชาตรี!” ใบหน้าของทูตนั้นขุ่นเคืองเป็นอย่างยิ่ง

เหลิ่งชิงฮวนเบิกตากว้าง “ให้ตายเถอะ เป็นครั้งแรกเลยที่ได้ยินว่าสายสวนปัสสาวะสั้นไปน่ะ ท่านทำผิดหรือเปล่า?”

หมอหลวงรีบปฏิเสธ “ข้าหมายความว่า ของเขามันยาวมิพอ ดูแล้วมันมิถึงสองนิ้วน่ะ”

“พรึ่ด” เหลิงชิงฮวนกลั้นมิอยู่ “ก็แค่ให้มันเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะน่ะ”

ทูตโมโหจนคอบวม “มีกระไรน่าขัน”

มิมีกระไรน่าขันจริงๆ การหัวเราะเยาะ “ข้อบกพร่อง” ของผู้ป่วยเป็นเรื่องที่ผิดศีลธรรม เหลิ่งชิงฮวนจึงรีบหุบยิ้ม “เรียบร้อยหรือยัง? อย่าลืมใช้มือบีบสายสวนปัสสาวะด้วยล่ะ จะได้มิเคลื่อน”

“ยังมิได้น่ะ” หมอหลวงเอ่ยด้วยความลำบากใจ “พบอุปสรรคขัดขวางนิดหน่อย”

“เป็นเยี่ยงไรรึ?”

หมอหลวงกระแอมไอเบาๆ “ค่อยๆ ค่อยๆ ทำน่าจะดีขึ้น”

เหลิ่งชิงฮวนกระวนกระวายอยู่ด้านนอก แต่ยังคงรอส่งขวดใส่ฉี่ให้ชายชราผู้นั้นเพื่อล้างพิษ จะชักช้ายืดยาดเช่นนี้ไปถึงเมื่อไหร่กัน?

“ท่านทำให้มันเร็วกว่านี้ได้หรือไม่ นี่มิใช่การกินของว่างนะ ถึงจำเป็นต้องลีลาเช่นนี้น่ะ?”

สุดท้ายหมอหลวงก็ตัดสินใจขอความช่วยเหลือ “ขององค์ชายอันต๋ามันตั้งขึ้นมาน่ะ”

เหลิ่งชิงฮวนตระหนักขึ้นมาได้อย่างฉับพลัน หมอหลวงตั้งใจทำให้มันช้าๆ ถึงองค์ชายนั้นสลบไสลมิได้สติแต่ก็มีความรู้สึก ยังคิดมิซื่อได้อีกนะ

“จะขัดขวางมิได้ ทำต่อไปเถอะ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา