ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 5

จู่ๆ หัวใจของเหลิ่งชิงฮวนก็แทบกระเด้งขึ้นมาถึงลำคอ เธอกระโดดลงจากรถม้าโดยลืมว่าตัวเองยังบาดเจ็บอยู่ จนหน้าคว่ำลงไปกับพื้นอย่างแรงเธอส่งเสียงร้องออกมาก่อนจะกัดฟันลุกขึ้นวิ่งแหวกกลุ่มคนเข้าไป

ผู้หญิงคนนั้นล้มลงกับพื้น เธอเบิกตากว้างและยิ้มอย่างพึงพอใจ "เห็นแล้วใช่ไหม ท้องของข้าเต็มไปด้วยน้ำ ตอนนี้สามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของข้าได้หรือยัง พวกเจ้าเชื่อข้าแล้วใช่ไหม"

เหลิ่งชิงฮวนคุกเข่าลงต่อหน้าเธอ มองดูเธอที่กำลังหายใจติดขัด โลกนี้เป็นแบบไหนกันนะ? ศีลธรรมจรรยาของสตรี ความบริสุทธิ์ผุดผ่อง และชื่อเสียงนั้นสำคัญไฉน?

“ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าตาย เจ้ายังรอดได้ เชื่อข้า ข้าจะผ่าตัดให้เจ้าเดี๋ยวนี้ ใครก็ได้ รีบเตรียม…”

เมื่อพูดถึงตรงนี้เธอก็อึ้งไป เตรียมอะไร? ห้องผ่าตัดปลอดเชื้อ? ไหมเย็บแผล? น้ำเกลือ? ที่นี่ไม่ใช่ยุคปัจจุบัน ไม่มีอุปกรณ์การแพทย์ที่ทันสมัยแล้วจะช่วยได้อย่างไร? แม้ว่าเธอจะรอดแต่โรคตับของเธอก็อยู่ในขั้นลุกลามแล้ว จะรักษาได้อย่างไร?

สตรีนางนั้นยิ้มอย่างน่าสมเพช เธอโกรธมากแล้ว "ฮูหยิน ขอบคุณที่พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของข้า!"

แม่สามีของเธอรีบรุดเข้ามาหาก่อนจะร้องไห้ “ถ้าเจ้าตายแล้วเหลือข้าเพียงคนเดียว ข้าจะใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างไร”

ชาวบ้านโดยรอบเริ่มประณาม “ตอนนี้เพิ่งจะนึกถึงลูกสะใภ้ขึ้นมาหรือ เมื่อกี้ใครกันที่ทั้งด่าทอทั้งตบตีนาง? ตั้งแต่ลูกชายของเจ้าตายนางก็ไม่ไปไหน คอยปรนนิบัติเจ้า”

หลายคนเห็นด้วยในทันที พวกเขาชี้ไปที่แม่สามีและตั้งคำถามกับเธอ

เหลิ่งชิงฮวนมองผู้หญิงที่หลับตาลงอย่างอ่อนแรง เธอลุกขึ้นช้าๆ ด้วยการพยุงของโตวโตว สูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะตวาด “พอแล้ว!"

ฝูงชนเงียบไปครู่หนึ่ง ดวงตาของเหลิ่งชิงฮวนแดงก่ำ เธอกวาดตามองฝูงชนอย่างช้าๆ รวมถึงมู่หรงฉีที่ยังคงนั่งอยู่บนหลังม้าด้วยสีหน้าเฉยเมย "ปากคนก็เหมือนกับมีดดาบที่ทำร้ายคน พวกเจ้าได้ฆ่าผู้หญิงบริสุทธิ์คนนี้แล้ว ยังจะบีบบังคับให้หญิงชราต้องตายตามไปด้วยหรือ? พวกเจ้าชอบดูโศกนาฏกรรมนี้หรือ? สนุกมากไหม? หา? สนุกไหม?”

ทุกอย่างเงียบสงบราวกับความตาย ไม่มีใครพูดอะไร และไม่มีใครรู้สึกผิดเกี่ยวกับเรื่องนี้

เหลิ่งชิงฮวนกำหัวใจของเธอไว้แน่น ค่อยๆ กลับไปที่รถม้า ฝังใบหน้าไว้ในอ้อมแขนของเธออย่างอ่อนแรงและนิ่งเงียบไปชั่วขณะ

มู่หรงฉีกำสายบังเหียนของม้าแน่น จ้องมองไปยังโศกนาฏกรรมบนพื้นด้วยดวงตาเศร้าหมอง เม้มริมฝีปากบางของเขา และรู้สึกได้ว่าคำพูดสุดท้ายของเธอเหมือนค้อนหนักที่ทุบลงบนหัวใจของเขา ทำให้เขารู้สึกยุ่งเหยิง

ถ้าเรื่องของเธอถูกเปิดเผยต่อหน้าไทเฮา จุดจบของเรื่องนี้จะเป็นเช่นไร?

รถม้าเคลื่อนออกไปอย่างช้าๆ โตวโตวปลอบโยนเหลิ่งชิงฮวนที่ยังอยู่ในอาการโศกเศร้า ในที่สุดเธอก็เอ่ยพูดออกมาอย่างลำบาก "ข้าช่างไร้ประโยชน์จริงๆ แค่อาการบาดเจ็บธรรมดาๆ แบบนี้ยังไม่สามารถรักษาให้หายได้ ถ้ามีแหวนนาโน บางทีข้าอาจจะลองดูก็ได้ "

โตวโตวกะพริบตาปริบอย่างสงสัย “แหวนอะไรนะเจ้าคะ? คุณหนูหมายถึงแหวนวงนี้หรือไม่”

เหลิ่งชิงฮวนเงยหน้ามองแหวนที่ปกคลุมไปด้วยฝุ่นดูไม่โดดเด่นในมือของโตวโตว เธอตะลึงก่อนจะค่อยๆ เบิกตากว้าง

เป็นไปได้ไง? แหวนนาโน! มันทะลุมิติมาพร้อมกับเธอด้วย!

“ใช่แล้ว เจ้าไปเจอมาจากไหน?”

“บ่าวเจอมันตอนที่กำลังทำแผลให้คุณหนู ดูแล้วเป็นทองแดงที่ไม่มีค่าอะไรจึงเก็บไว้ก่อน”

ไม่มีค่า? นี่มันคือสมบัติล้ำค่าเลยนะ!

เหลิ่งชิงฮวนตัวสั่นก่อนจะสวมแหวนที่นิ้วชี้ของเธอ หลับตาลงและรู้สึกถึงความรู้สึกเย็นสบายแผ่ไปทั่วร่างกาย สมองของเธอได้รับคำสั่งการหนึ่ง ป้อนรหัสผ่าน จากนั้นก็เปิดฐานข้อมูลของแหวน ภารกิจแรกคือเริ่มการสแกนร่างกายของตัวเอง

ฐานข้อมูลของแหวนได้รวบรวมฟังก์ชันการตรวจจับทางการแพทย์ทั่วไป เช่น CT Scan และ MRI รวมถึงการถ่ายภาพรังสี เพียงการสแกนง่ายๆ ผลลัพธ์ก็จะถูกส่งไปยังคลื่นสมอง เธอก็จะสามารถรู้ถึงอาการบาดเจ็บที่หัวใจของเธอได้

โชคดีที่ปอดและอวัยวะอื่นไม่ได้รับบาดเจ็บด้วย แต่บาดแผลลึกและเสียเลือดมาก ทำให้ร่างกายบอบช้ำไม่น้อย

เหลิ่งชิงฮวนไม่ถามเขาว่าจะไปไหน เธอตามหลังเขาอย่างเลื่อนลอย แทบจะเดินวนเรอบตำหนักกว่าจะถึงตำหนักเจียนเจียที่พระสนมฮุ่ยเฟยประทับอยู่ เหงื่อไคลไหลย้อยจนเสื้อผ้าของเธอเปียกชื้น ปอยผมก็เปียกแนบติดไปกับหน้าผาก ดูแล้วน่าอับอายเป็นอย่างมาก

สาวใช้ในวังเชิญทั้งสองคนเข้ามาในตำหนักด้วยความเคารพ พระสนมฮุ่ยเฟยนั่งอยู่บนที่นั่งที่รายล้อมไปด้วยไข่มุกเขียวมรกต ท่วงท่าสง่างามสูงส่ง เมื่อเธอเห็นเหลิ่งชิงฮวนก็ยกยิ้มขึ้น “มาแล้วเหรอ”

เหลิ่งชิงฮวนเพียงแค่กวาดสายตามองก่อนจะก้มหน้าก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับมู่หรงฉีเพื่อถวายบังคมพระสนมฮุ่ยเฟย เมื่อเหลือบตาขึ้นก็เห็นเพียงรองเท้าปักลายดอกซิ่งสีชมพูของพระนาง

พระสนมฮุ่ยเฟยพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ แม่นมที่อายุมากกว่าเล็กน้อยยืนอยู่ข้างหลังเธอทักทายทั้งสองคนด้วยรอยยิ้ม "หม่อมฉันขอแสดงความยินดีกับท่านอ๋องและพระชายา"

พระสนมฮุ่ยเฟยหรี่ตาคมของเธอ เอ่ยเบาๆ พลางเคาะโต๊ะด้วยเล็บที่ทาด้วยสีดอกเทียนบ้าน "ให้แม่นมฉีมารออยู่กับข้าตั้งแต่เช้า พวกเจ้านี่ตื่นสายกันจริงเชียว นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว? "

แม่นมรีบเอ่ยทันที "พระสนมเกรงใจเกินไปแล้ว เพราะหม่อมฉันอยากจะมาพูดคุยกับพระนางถึงได้มาตั้งแต่เช้าอย่างไรเล่าเพคะ”

เหลิ่งชิงฮวนไม่แยกแยะอะไร เมื่อวานที่เธอทำเรื่องวุ่นวายในงานแต่งก็ถือว่าไม่มงคลแล้ว ทั้งยังทำให้โรคเก่าของเหล่าไท่จวินกำเริบ แม่สามีคนนี้เดิมก็พยายามจับผิดเธออยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นยังพูดจาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

“ชิงฮวนรู้ตัวว่าผิดเพคะ”

พระสนมฮุ่ยเฟยฉีกยิ้ม มุมของดวงตาและคิ้วโค้งโดยไม่มีรอยยิ้ม “เอาผ้ามงคลออกมาให้แม่นมตรวจสอบเถิด”

เหลิ่งชิงฮวนอดไม่ได้ที่จะตะลึง “ผ้ามงคล?”

นี่มันอะไรกัน?

สีหน้าของพระสนมฮุ่ยเฟยหมองลง แม่นมฉีที่อยู่ข้างๆ ออกมาอธิบาย "ก็ผ้าหยดเลือด พระชายา ห้องพิธีการต้องทำการตรวจสอบหลักฐาน หลังจากนั้นจึงบันทึกลงในสมุด"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา