ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 642

ผ่านไปครู่หนึ่งองครักษ์ที่เป็นเวรเฝ้าห้องตำราเมื่อวานนี้ก็ถูกเรียกเข้ามา

เมื่อได้ยินชายชราถาม องครักษ์ก็ตอบออกมาอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด “เมื่อวานช่วงบ่ายท่านอ๋องกลับมาที่ห้องตำราแล้วกล่าวว่าอยากจะพักผ่อนและไม่พบแขกสักครู่ พอเข้าไปในห้องได้ไม่ถึงเวลาหนึ่งถ้วยชาก็หันหลังเดินออกไปจากห้องตำราพ่ะย่ะค่ะ ไม่ทราบว่าไปที่ไหน พอผ่านไปราวสิบห้านาทีก็กลับมาและไม่ได้ออกไปจากห้องตำราอีกจนกระทั่งฟ้ามืด”

“ไร้สาระ พวกเจ้าร่วมมือกันเล่นงานข้า!” อ๋องเซวียนมีโทสะขึ้นมาทันที

สีหน้าของฮ่องเต้ชราครึ้มขึ้นจากนั้นก็หันหน้าไปมองแม่ครัว “เมื่อวานตอนบ่ายที่อ๋องเซวียนไปหาเจ้าที่ห้องครัวมีเจ้าเห็นคนเดียวใช่ไหม”

แม่ครัวขมวดคิ้วอย่างครุ่นคิด “ตอนที่ท่านอ๋องออกไปก็สวนกับคนจุดไฟพอดีเพคะ อีกทั้งยังถามหม่อมฉันว่าทำไมท่านอ๋องถึงได้ลดตัวมาที่ห้องครัวกัน”

ครั้งนี้ไม่ต้องรอให้ฮ่องเต้ชราสั่ง องครักษ์ก็ถอยไปสอบถาม เมื่อตอนที่เขากลับมาก็รายงานต่อหน้าผู้คนจำนวนมากว่า “จากการตรวจสอบ คำพูดของแม่ครัวเป็นความจริงพ่ะย่ะค่ะ”

อ๋องเซวียนมึนงงอย่างสมบูรณ์แบบ ปากของเขากระตุกแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ

ใบหน้าของอ๋องเซวียนซีดขาวกว่าเดิมและมองไปที่เขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ

“เป็นไปได้อย่างไร เมื่อวานข้าเข้าห้องตำราไปแล้วก็หลับไปเลย ไม่ได้ไปที่ไหนทั้งนั้น! เจ้าพวกขี้ข้า ใครให้อะไรพวกเจ้าถึงได้ให้พวกเจ้าพูดไร้สาระเช่นนี้ออกมากันหมดเช่นนี้ ช่างบังอาจ! ดูสิว่าข้าจะฆ่าพวกสวะไม่รู้จักบุญคุณอย่างพวกเจ้าอย่างไร!”

เขาด่าไปชุดใหญ่พร้อมทั้งชักดาบที่เหน็บอยู่ข้างเอวองครักษ์ออกมา

“จับเจ้าคนทรยศนี่เอาไว้ให้ข้า!”

ฮ่องเต้ออกคำสั่งเสียงเย็น องครักษ์เข้ามาจับเขาไว้ ถึงว่าอ๋องเซวียนจะระเบิดอารมณ์ออกมา แต่เขาก็ไม่กล้าทำตัวเหิมเกริมต่อหน้าฮ่องเต้จึงได้คุกเข่ากับพื้นเสียงดัง “ลูกถูกใส่ร้าย ถูกใส่ร้ายจริงๆพ่ะย่ะค่ะ! เสด็จพ่อโปรดตรวจสอบด้วย ลูกจะทำเรื่องที่เลวเสียยิ่งกว่าเดียรัจฉานเช่นนี้ออกมาได้อย่างไร”

พระชายาเซวียนที่ยืนอยู่ด้านข้างอย่างเงียบๆมาตั้งแต่แรก ตอนนี้ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความโกรธ

นางไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆว่าคู่ชีวิตของนางจะใจดำเช่นนี้ ถ้าหากว่าเมื่อคืนนี้เหลิ่งชิงฮวนมาไม่ทันเวลาล่ะก็ ใครจะรู้กันเล่าวว่าตอนนี้ลูกจะเป็นอย่างไรบ้าง อีกอย่างเขายังเอาความผิดทั้งหมดมาโดยนให้กับนางอีก!

เมื่อครู่นี้นางที่เป็นคนปกปิดให้กับสามีตัวเองต่อหน้าฮ่องเต้ก็ไม่สามารถทนไว้ได้อีกต่อไป นางเดินตัวสั่นไปตรงหน้าอ๋องเซวียนด้วยน้ำตานองหน้า

“ทำไมกันล่ะ ท่านทำร้ายซือเอ๋อร์ทำไมกัน นางเป็นลูกในไส้ของท่านนะเพคะ เดิมทีข้านึกว่าเมื่อคืนนี้เห็นคนจะตายตรงหน้าแล้วไม่ยอมเข้าไปช่วยอีกทั้งไม่ยอมเข้าไปในวังเพื่อเชิญหมอหลวงมาก็ใจจืดใจดำมากพออยู่แล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าท่านจะทำลับหลังเช่นนี้”

อ๋องเซวียนส่ายหน้าและลนลานขึ้นมา “แม้แต่เจ้าก็ไม่เชื่อใจข้า? ข้าจะทำได้อย่างไรกัน”

“ท่านยังไม่ยอมรับอีกหรือ คนตั้งมากเป็นพยานให้ได้ ท่านจะให้ข้าเชื่อใจท่านได้อย่างไร”

มู่หรงฉีกับเหลิ่งชิงฮวนสบตากัน พวกเขาเองก็ตกใจมาก

สิ่งที่อยู่ตรงหน้าของทั้งสองคนทำให้ความคิดเหล่านั้นถูกปัดทิ้งไป

มู่หรงฉีเคยบอกว่าฮองเฮากับอ๋องเซวียนนั้นแน่นแฟ้นต่อกันมาก แต่อ๋องเซวียนเป็นคนจริงใจและมีความเป็นพี่ใหญ่ แต่สุดท้ายอ๋องเซวียนก็ไม่เห็นค่าชีวิตลูกสาวของตัวเองเพื่อทำร้ายอวิ๋นเช่อ!

ฮ่องเต้ชราพูดอะไรไม่ออกในทันที เขาชี้ไปที่อ๋องเซวียนที่นั่งอยู่บนพื้นแล้วพูดออกมาอย่างโมโหว่า “เจ้า เจ้าลูกเนรคุณ!”

ในเวลานี้อ๋องเซวียนอธิบายอย่างเป็นพัลวันว่า “เสด็จพ่อโปรดตรวจสอบด้วย พวกบ่าวพวกนี้พูดไร้สาระจริงๆพ่ะย่ะค่ะ ลูกจะไปทำร้ายซือเอ๋อร์ได้อย่างไร เรื่องเมื่อวานที่เกิดขึ้นที่จวนอ๋องฉีลูกเองก็ไม่รู้เรื่องพ่ะย่ะค่ะ”

ฮ่องเต้ชราสูดหายใจเข้าลึก และสูดหายใจเข้าลึกอีกครั้ง เขาพยายามระงับความโกรธของตัวเอง “เจ้ายังไม่ยอมรับอีกหรือ ถ้าหากว่าไม่ใช่เจ้าบงการทำร้ายลูกของเจ้าให้เป็นอันตราย งั้นทำไมถึงเกิดเรื่องขึ้นแล้วไม่สนใจจนต้องบีบให้พระชายาเซวียนต้องไปเชิญชิงฮวนมาที่จวนกลางดึกด้วย

นักฆ่าที่ลอบเข้าไปในจวนอ๋องฉีพวกนี้ได้มาการเตรียมการมาก่อน เท้าของฉีเอ๋อร์ก็มาถึงหน้าจวนอ๋องเซวียนของเจ้าแล้ว พอมาถึงห้องครัวในจวนก็เกิดเพลิงไหม้แถมยังมีโจรแอบเข้ามาพอดี บนโลกใบนี้มีเรื่องบังเอิญเช่นนี้อู่ที่ไหนกัน เจ้าช่างทำให้ข้าผิดหวังจริงๆ!”

หางตาของเหลิ่งชิงฮวนเห็นว่าปลายตาของฮ่องเต้ชรานั้นแดงและเปียกชื้น ยังไม่ทันที่ฮ่องเต้ชราจะพูดจบน้ำเสียงของเขาก็แฝงไปด้วยความสะอื้น

เดิมทีเรื่องที่อ๋องเซวียนบงการแม่ครัวให้ลงมือวางยาพิษหรือไม่นั้นยังไม่สามารถสรุปได้ แต่อ๋องเซวียนเอาแต่โกหกและปฏิเสธว่าตัวเองไม่ได้ไปที่ห้องครัว สิ่งนี้ทำให้ฮ่องเต้ชราผิดหวังมากขึ้น

เนื่องจากหน้าตาของราชวงศ์ วัดต้าหลี่จังไม่สามารถบังคับให้เขาสารภาพได้ แต่ฮ่องเต้สามารถตัดสินให้เขามีความผิดได้

ในระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือน เป็นเรื่องที่น่าเสียใจที่ฮองเฮาที่เคยเป็นผู้ปกครองผู้คนนับพันถูกปลดออกลงเป็นหวงเฟย และสูญเสียเกียรติยศในชีวิตของนางไป

อ๋องเซวียนที่เป็นเกียรติและมีโอกาสเป็นฮ่องเต้มากอย่างอ๋องเซวียนนั้นถูกปลดออก นั่นเป็นเพราะเขาได้รับโทษที่ทำร้ายหลานของฮ่องเต้ อีกทั้งเขายังถูกกักบริวณอยู่แต่ภายในจวนอ๋อง หากไม่มีคำสั่งของฮ่องเต้เขาไม่สามารถไปไหนมาไหนได้ตามใจชอบและไม่สามารถพบปะคนอื่นได้

ได้ยินมาว่าพระชายาเซวียนก็ไล่เหล่าสนมในจวนออกไปและให้เงินกับพวกนางเพื่อให้พวกนางออกจากจวนไปสามารถแต่งงานใหม่และมีชีวิตใหม่ได้

พระชายารองฮัวนั้นมีทายาทดังนั้นจึงสามารถอยู่ต่อได้ ที่สำคัญที่สุดคือน่าจาอี๋นั่ว นางเองก็ไม่ไปไหนและก่อนที่ฮ่องเต้จะออกคำสั่งลงมานางก็ได้ขอให้ตัวเองได้อยู่ต่อ

สิ่งนี้ทำให้เหลิ่งชิงฮวนและมู่หรงฉีนั้นประหลาดใจจริงๆ

เรื่องที่อ๋องเซวียนวางยาพิษนั้นนั้นหลักฐานพร้อม ไม่มีอะไรให้น่าสงสัย สำหรับแหล่งที่มาของยาพิษนั้นอ๋องเซวียนให้ตายก็ไม่ยอมรับ แต่ชิงฮวนมองว่ามันก็เป็นเรื่องที่ชัดเจนมาก

ชาวบ้านนั้นไร้ความผิด แต่หากมีหยกเอาไว้ครอบครองก็จะเป็นความผิด นอกจากน่าจาอี๋นั่วแล้วข้างกายของอ๋องเซวียนยังมีใครอีกที่ชำนาญในเรื่องการวางยาพิษ เจ้าของยาพิษที่ใส่ร้ายพระชายาเซวียน ถ้าหากเหลิ่งชิงฮวนไม่ได้เปิดเผยวิธีการวางยาพิษละก็เกรงว่าการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวของนางจะสำเร็จ

แม้แต่ฮ่องเต้ชราเองก็สงสัยน่าจาอี๋นั่วและออกคำสั่งเอาไว้ว่าให้เฝ้าเธอเอาไว้อย่างแน่นหนา แต่เมื่อรวบรวมหลักฐานมาได้ก็ไม่ลังเลที่จะโทษเธอ

แต่ตอนนี้น่าจาอี๋นั่วเป็นคนขออยู่ที่จวนอ๋องเซวียนด้วยตัวเองและถูกจำกัดอิสระ เธอมีแผนอะไรกันแน่ คิดจะยอมถอยหนึ่งก้าว หรือว่าจะรักใคร่ปรองดองกับสามีกัน

หรือว่าเธอจะมีแผนการอย่างอื่น?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา