ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 734

เหลิ่งชิงฮวนไม่โกรธพลันแย้มรอยยิ้ม และทำเสียงไม่พอใจสองที “เยี่ยมจริงๆ หาเงาไม่เจอตั้งแต่เช้า ปล่อยให้พวกเราตามหาเจ้าทั่วทุกที่ ที่แท้ก็มาถกปัญหาแสนลึกซึ้งอยู่ที่นี่ ลุงอวี๋บอกอะไรกับเจ้าอีกล่ะ”

มีเสียงเตือนดังขึ้นในใจของรองแม่ทัพอวี๋ ส่งสายตาไปทางอวิ๋นเช่อ และร้องทุกข์อยู่ภายในใจอย่างเหลือทน

“พระชายาเหล่าอวี๋ถูกใส่ความจริงๆ เรื่องเหล่านี้พวกขันทีน้อยภายในวังเป็นคนพูด ซื่อจื่อน้อยอยากรู้อยากเห็น จึงวิ่งมาแอบดูที่ห้องน้ำ แต่โดนกระหม่อมจับได้”

เสี่ยวอวิ๋นเช่อรู้สึกถึงความโกรธที่ชิงฮวนซ่อนเอาไว้ไม่อยู่ จึงมุ่ยปากอย่างน้อยใจ “ท่านแม่บอกว่าคนจะสูงส่งขึ้นอยู่กับการแสวงหาความรู้ ไม่รู้ก็ถาม มีนางกำนัลคนหนึ่งถูกคนใส่ความ นางเลยขอให้ข้าตัดสิน”

ชิงฮวนขมวดคิ้วฉงน “เกิดอะไรขึ้น”

ตี้ลี่เข้าใจทุกอย่างทันที รู้แล้วว่าความอยากรู้อยากเห็นอย่างฉับพลันของอวิ๋นเช่อนี้มาจากไหน

“พระชายา เรื่องนี้บ่าวทราบเพคะ”

ชิงฮวนมองไปทางตี้บี่ หลายวันก่อนนางติดตามอวิ๋นเช่อเข้าวัง คอยรับใช้อยู่ข้างกายเข้าตลอดเวลา

นางไม่ต้องเอ่ยปากซักถาม ตี้ลี่ก็เล่าต้นสายปลายเหตุของเรื่องราวอย่างครบถ้วน

“หลายวันก่อนในวังเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น มีคนเห็นนางกำนัลชื่อว่าเฝิงซวงกับขันทีนัดพบกันเป็นการส่วนตัวข้างห้องน้ำในตอนกลางคืน รองผู้ดูแลเว่ยจึงสั่งให้คนโบยนางกำนัลคนนั้นยี่สิบที แล้วไล่ออกจากวัง”

บังเอิญว่าวันนั้นซื่อจื่อน้อยนอนกลางวันเยอะ ตอนกลางคืนเลยคึกคัก ได้ยินเสียงเอะอะเลยไปดู แล้วจู่ๆ เฝิงซวงซึ่งพยายามขอให้คนอื่นช่วยเหลือคนนั้นก็ดิ้นหลุดจากพันธนาการแล้ววิ่งมาร้องทุกข์ตรงหน้าซื่อจื่อน้อย

“นางคิดว่าบทลงโทษรุนแรงเกินไปหรือ โบยยี่สิบที การลงโทษของพวกขันทีนั้นโหดเหี้ยม ร่างกายอ่อนแอคงรับไม่ไหวจริงๆ”

ตี้ลี่ส่ายหน้า “ไม่ใช่เพคะ นางบอกว่าคนอื่นใส่ร้ายนาง มันไม่มีอะไรเลย บุรุษเทียมที่ตัดอวัยวะเพศแล้วจะแอบคบชู้กับตนเองได้อย่างไร”

“รองผู้ดูแลเว่ยจึงสั่งให้คนตบปาก แล้วลากนางไปโดยไม่ปล่อยให้อธิบาย พวกเราไม่ได้ใส่ใจ ถึงอย่างไรเรื่องสกปรกแบบนี้ก็พบเห็นในวังอยู่บ่อยๆ แต่ใครจะรู้ว่าซื่อจื่อน้อยจะใส่ใจ และสอบถามอย่างไม่หยุดยั้ง”

“เรื่องนี้พวกบ่าวกล้าพูดจาเหลวไหลกับเขาเสียที่ไหน อุตส่าห์เก็บปิดบังเอาไว้ แต่กลับทำให้เขาอยากรู้อยากเห็นมากขึ้นเสียนี่”

ขันทีกับนางกำนัลคบกัน เป็นเรื่องพบเห็นในวังอยู่บ่อยๆ แถมยังเป็นเรื่องที่พวกสนมในวังชอบดูชอบฟัง และยินดีส่งเสริม แต่หากพบปะกันเป็นการส่วนตัว นั่นก็เป็นอีกเรื่อง

ถึงแม้ว่าจะเป็นคนน่าสงสาร แต่กฎก็คือกฎ วิ่งมาอ้อนวอนเด็กอย่างอวิ๋นเช่อทำไม

ด้วยเหตุนี้ชิงฮวนเลยไม่มีความสุขเป็นอย่างยิ่ง “นางกำนัลในตำหนักไหนบังอาจเช่นนี้”

ตี้ลี่มองต่ำ “ได้ยินว่าเป็นสาวใช้ที่คอยปรนนิบัติอยู่ข้างกายพระสนมเยี่ยนผินที่ถึงแก่กรรมไปแล้ว บัดนี้นางไม่มีเจ้านาย จึงโดนส่งไปยังฝ่ายซักล้าง”

ข้างกายเยี่ยนผินหรือ

ชิงฮวนทำเสียงไปพอใจ เจ้านายไม่รู้ฟ้าสูงแค่ไหนแผ่นดินหนาเพียงใด นึกไม่ถึงว่าสาวใช้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาจะไร้มารยาทเช่นเดียวกัน

แต่ทว่า พอนางคิดทบทวนดูแล้ว บริเวณห้องน้ำมีคนสัญจรไปมาไม่น้อย สาวใช้คนนี้สมองไม่ปกติหรืออย่างไร วิ่งมาก่อเรื่องวุ่นวายในสถานที่แบบนี้เนี่ยนะ

“บางทีอาจจะติดกับดักคนอื่นกระมัง” ชิงฮวนคาดเดาอย่างใจลอย

ตี้ลี่ตอบว่า ‘อืม’ เบาๆ “เห็นนางโดนโบยจนแยกไม่เลือดกับเนื้อไม่ออก น่าสงสารมาก อีกอย่าง…”

“อีกอย่างอะไร”

ตี้ลี่ทำหน้าทนไม่ได้ “วันต่อมาตอนนางโดนหามออกจากวังบ่าวไปเจอเข้าพอดี ใกล้จะตายอยู่แล้ว ยังพึมพำกับตัวเองว่าถูกใส่ความ และพูดพล่ามต่อหน้าพระสนมฮุ่ยเฟยอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน”

อยู่ต่อหน้าพระสนมฮุ่ยเฟยหรือ ชิงฮวนใจเต้น นางนึกขึ้นได้ว่าพระสนมฮุ่ยเฟยเคยบอกตนเองว่า นางเคยไต่สวนนางกำนัลที่คอยปรนนิบัติอยู่ข้างกายเยี่ยนผิน และได้เบาะแสบางอย่างเกี่ยวกับการตายของเยี่ยนผินด้วย

หรือว่าจะเป็นนางกำนัลคนนี้ นางรู้อะไรบางอย่างหรือ หรือว่าเพราะเรื่องนี้ เลยก่อเรื่องวิบัติครั้งนี้ขึ้น แล้วไล่ออกจากวัง

ไม่อย่างนั้น นางกำนัลฝ่ายซักล้างอย่างนาง รองผู้ดูแลแสนสง่างามไม่จำเป็นต้องออกโรงหรอก

“เสด็จพ่อไม่สบายกาย เลยไม่อยากพบท่านใช่หรือไม่ เอาอย่างนี้ไหม ท่านกลับไปก่อน รอเสด็จพ่อดีขึ้นเล็กน้อย แล้วค่อยมาอีกที”

อ๋องเซวียนพูดอย่างเด็ดเดี่ยวว่า “ข้าต้องพบเขาตอนนี้ น้องสะใภ้สาม ข้ารู้ว่าเสด็จพ่อให้ความสำคัญกับเจ้า ท่านพ่อฟังสิ่งที่เจ้าพูด เจ้าช่วยพูดให้ข้าสักสองประโยคได้หรือไม่ ข้าแค่อยากพบเขา แล้วพูดสักสองประโยค”

ฮ่องเต้ให้ความสำคัญกับข้าหรือ ทำไมข้าถึงไม่เห็นล่ะ หากดุด่ามีไม่น้อยเลยทีเดียวเชียว ความเข้าใจผิดนี้น่าอับอายนัก

ชิงฮวนปฏิเสธไม่ลง “เดี๋ยวหม่อมฉันเจอเสด็จพ่อแล้ว ขอดูสถานการณ์ก่อน หากร่างกายของเขายินยอม ข้าจะพูดแน่”

อ๋องเซวียนเต็มไปด้วยความหวัง และคุกเข่ารออย่างกระวนกระวายใจ

องครักษ์รู้จักเหลิ่งชิงฮวนกับมู่หรงฉี จึงปล่อยให้ผ่านเข้าไป ทั้งสองคนเข้าวังและไปยังวังเยี่ยนชิ่งทันที

วันนี้ฮ่องเต้ดีขึ้นเล็กน้อยแล้ว ศีรษะก็ไม่เจ็บแล้ว แต่ยังเวียนหัวอยู่นิดหน่อย แม้แต่รายงานราชการยามเช้าก็ไม่ได้ไป

ตอนสองสามีภรรยาเดินทางมาถึง อ๋องเฮ่ากับอ๋องรุ่ยก็มาถึงแล้ว ถามสารทุกข์สุกดิบฮ่องเต้ และถวายยาต้มด้วยตนเอง

พอฮ่องเต้เห็นมู่หรงฉี แววตาก็อ่อนโยนมาก แต่ยังคงดูถูกอย่างอารมณ์เสียว่า “บอกให้เจ้าพักผ่อนอยู่บ้านมิใช่หรือ เข้าวังมาทำไม เหมือนแมลงติดตามทุกวัน ไม่มีอนาคตเอาเสียเลย”

มู่หรงฉีเม้มริมฝีปาก “ลูกเป็นห่วงเสด็จพ่อ”

ฮ่องเต้สบายมาก ทำเสียงไม่พอใจ แล้วหันหน้าไปทางอื่น

ชิงฮวนเข้าไปตรวจบาดแผลของฮ่องเต้ แล้วเปลี่ยนยาให้เขา จากนั้นก็ให้น้ำเกลือ

ฮ่องเต้เอนกายพิงเตียง ร่างกายไร้เรี่ยวแรง

พี่สามพี่น้องที่อยู่ข้างๆ ไม่มีใครพูดเลยสักคำ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา